เยี่ยชิวได้ทุ่มเทอุทิศตนให้กับการตรัสรู้
หินสี่เหลี่ยมจัตุรัสแท่นนี้ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูธรรมดาๆ แต่เยี่ยชิวรู้สึกถึงความแปลกบางอย่างได้ทันทีเมื่อเขานั่งลงบนแท่นหินสี่เหลี่ยมนี้
เขาหลับตาลง และได้ยินเสียงอันแหลมคมของดาบที่ดังอยู่ข้างหูอย่างไม่ขาดสาย
ที่แปลกไปกว่านั้น เขาได้ยินเพียงเสียงปะทะดาบดังกึกก้อง แต่สิ่งนั้นกลับไม่ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย
ไม่ไกลออกไป ชิวซานหนานเกอเห็นเยี่ยชิวนั่งอยู่บนแท่นตรัสรู้ ดวงตาที่สวยงามของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“คิดไม่ถึงเลย เขาก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่เจ็ดนั่นได้แล้วจริงๆ”
ชิวซานหนานเกอประหลาดใจมาก ในเวลานั้นท่านอาจารย์ไคซานแห่งสำนักสุ่ยเยว่ยังทำไม่ได้ แต่วันนี้เยี่ยชิวทำได้แล้ว
“ฉันรู้ เขาทำได้แน่นอนอยู่แล้ว”
เชียนซานเสวี่ยพูดเสริมว่า “ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่าเยี่ยชิวรับรู้อะไรได้บ้างตอนที่เขาอยู่บนแท่นตรัสรู้นั้น?”
ชิวซานหนานเกอส่ายหัวพลางพูดว่า “ฉันไม่รู้หรอก แต่ถึงอย่างไรเยี่ยชิวก็เป็นคนแรกที่สามารถก้าวไปสู่บันไดขั้นที่เจ็ดได้ในรอบหลายร้อยปี”
เชียนซานเสวี่ยกล่าวว่า “หวังว่าเยี่ยชิวจะทำสำเร็จนะ!”
ณ ขณะนี้
เยี่ยชิวลืมตาขึ้นแล้วถามว่า “เสี่ยวเสวี่ย พวกเธอได้ยินเสียงคำรามของกระบี่นั่นหรือไม่?”
เชียนซานเสวี่ยส่ายหน้าพร้อมกับตอบว่า “ไม่ ฉันไม่ได้ยิน”
ชิวซานหนานเกอก็ส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันได้ยินแค่เสียงของลม”
แปลกจริง ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงคำรามของกระบี่ แต่พวกเธอกลับไม่ได้ยินซะอย่างงั้น?
หรือว่านี่จะเกี่ยวข้องกับฐานตรัสรู้หรือไม่?
เยี่ยชิวเฝ้าฐานหินเงียบๆและฟังอย่างตั้งใจ หลังพบว่า เสียงคำรามของดาบเหล่านี้ดังมาจากหน้าผาซึ่งอยู่ไม่ไกล
เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปที่หน้าผา
บนหน้าผาที่เปลือยเปล่าไร้หญ้าปกคลุมนั้นเต็มไปด้วยมีดดาบทุกชนิดและไม่มีสิ่งอื่นใดๆเลย
“น่าแปลกมาก ฉันรู้สึกได้ชัดว่าเสียงคำรามของดาบดังมาจากหน้าผานั่น แต่ทำไมดาบถึงไม่ปรากฏให้เห็นกันนะ?”
เยี่ยชิวสับสนจนไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้
เขาจ้องมองไปที่หน้าผาแบบไม่ละสายตาอยู่นาน แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้มั้ยว่า ที่นี่เป็นแค่สถานที่ที่เซียนกระบี่จ่งหยวนบรรลุการตรัสรู้เท่านั้น และไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้?”
เยี่ยชิวเกิดความคิดนี้ขึ้นในใจ เขาก็ปฏิเสธความคิดของตัวเองทันที
“ไม่สิ สถานที่นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ”
“ไม่เช่นนั้น เจตนาดาบอันทรงพลังคงไม่หลงเหลืออยู่ในบันไดทั้งเจ็ดได้หรอก”
“ขั้นบันไดทั้งเจ็ดนี้ ดูเหมือนว่าเป็นที่ที่ไว้ทดสอบของเซียนกระบี่จงหย่วนรุ่นหลังที่ตั้งใจเก็บไว้”
“แต่จุดประสงค์ของเซียนกระบี่จ่งหยวนแท้จริงแล้วคืออะไรกันนะ?”
เยี่ยชิวหลับตาและปรับการหายใจของเขา ปล่อยให้จิตใจสงบลง
ใจเขาค่อยๆสงบนิ่งดั่งสายน้ำ
“ชิ๊ง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมคมของดาบดังก้องในหูของเขา
เยี่ยชิวลืมตาขึ้นทันทีและมองไปรอบๆ แต่ก็ยังมองไม่เห็นเจตนาของดาบนั่นเลย
“เสี่ยวเสวี่ย เมื่อครู่พวกเธอได้ยินเสียงแหลมคมของดาบนั่นหรือเปล่า?” เยี่ยชิวถามขึ้นอีกครั้ง
เชียนซานเสวี่ยและชิวซานหนานเกอต่างพากันส่ายหัว
“ดูเหมือนว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับหินก้อนที่ฉันนั่งอยู่จริงๆ” เยี่ยชิวคิดใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เสี่ยวเสวี่ย หนานเกอ พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ!”
“ฉันอยากอยู่ที่นี่อีกสักพัก”
“เสร็จแล้ว ฉันจะตามไป”
หลังจากที่เชียนซานเสวี่ยและชิวซานหนานเกอกลับไปแล้ว เยี่ยชิวก็เปิดดวงตาสวรรค์และจ้องมองไปที่หินสี่เหลี่ยมนี้ที่เขานั่งอยู่
เขาอยากรู้ว่าหินก้อนนี้มีอะไรอยู่ข้างในหรือเปล่า?
แต่ทว่า มันทำให้เยี่ยชิวผิดหวังมาก
มันเป็นแค่หินธรรมดาๆก้อนหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดอยู่ในหินก้อนนี้เลย
“ทำไมเวลาที่ฉันนั่งตรงนี้ ถึงได้ยินเสียงคำรามของดาบ เสียงคำรามดาบเหล่านี้จริงๆแล้วมาจากที่ไหนกันนะ?”
เยี่ยชิวคิ้วขมวด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เขาก็ยังไม่ค้นพบอะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...