กู้หรันยิ้มๆ
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้วค่ะ”
เธอเข้าไปข้างในด้วยกันกับเสี่ยวถัง ส่วนกู้อันหนิงพอเห็นว่าคนที่ออกมารับเธอคือเสี่ยวถัง ก็ถลึงตาโตด้วยความอึ้งตะลึงทันที
ในเมื่อเธอศึกษาทำความเข้าใจกับลู่หนันเซียวมาแล้ว แน่นอนว่าเธอก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจกับคนรอบๆตัวเขามาด้วยเหมือนกัน
เสี่ยวถังคนนี้ ก็คือผู้ช่วยส่วนตัว คนสนิทชิดเชื้ออะไรทำนองนั้นของลู่หนันเซียว
แล้วเขารู้จักกับกู้หรันได้ยังไง?
กู้อันหนิงรู้สึกว่า นี่มันยิ่งยืนยันการคาดเดาภายในใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่กู้หรันจะเข้ามาในวงการบันเทิงจริงๆแล้วสินะ
อีกทางด้านหนึ่ง
กู้หรันไม่ได้มีความคิดอะไรมากมายเหมือนกับเธอ
พอเข้าไปในห้องพักของลู่หนันเซียว เธอก็รออยู่ตรงนั้นอย่างเชื่อฟัง
รอเกือบประมาณสองชั่วโมง
ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นยุ่งจริงๆ หรือว่าจงใจทอดทิ้งไม่สนไม่แยแสเธอกันแน่
แต่ถึงยังไง ตอนที่เจอกับลู่หนันเซียวจริงๆ ก็หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว
ในตอนนี้ ใกล้จะเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
ตอนที่ลู่หนันเซียวกลับมา ฝุ่นลอยคละคลุ้ง น้ำโคลนสกปรกเลอะเปอะเปื้อนใบหน้าเหมือนกับเพิ่งจะไปออกรบมาอย่างไรอย่างนั้น
พอเข้ามา ก็ตะโกนเสียงดัง“เสี่ยวถัง เอาน้ำมาให้ฉันสักหนึ่งกะละมัง ฉันจะล้างสักหน่อย!ให้ตายสิ ขยะแขยงชะมัด!”
เสี่ยวถังรีบไปทันที
กู้หรันก็ลุกขึ้นยืน เธอมองลู่หนันเซียวที่สภาพสกปรกเหม็นหึ่งไปทั่วทั้งตัว ดูไม่หล่อเท่มีออร่าเหมือนกับที่เธอเห็นในโทรทัศน์เลยแม้แต่นิดเดียว เห็นก็รู้เลยว่าการถ่ายทำในวันนี้จะต้องลำบากมากแน่ๆ
ในตอนนี้ ลู่หนันเซียวดูเหมือนว่าเพิ่งจะสังเกตเห็นเธอ
คิ้วที่ดูหล่อเหลายกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดถามขึ้น“คุณคือ?”
กู้หรันยิ้มเล็กน้อย หยิบนามบัตรหนึ่งใบออกมาจากกระเป๋ายื่นให้กับเขา
“สวัสดีค่ะ ฉันคือประธานของบริษัทสโนวี่ กู้หรันค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ติดต่อกับผู้จัดการของคุณเอาไว้แล้ว คิดที่จะเชิญคุณมาเป็นแบรนด์แอสบาสเดอร์ให้กับทางเราน่ะค่ะ”
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง”
ลู่หนันเซียวดูเหมือนจะนึกขึ้นมาได้
เดิมทีเขาคิดที่จะรับนามบัตรมา เลยยื่นมือออกไป แต่พบว่ามือของตัวเองนั้นก็เลอะเหมือนกัน
ตะกี้ถ่ายฉากที่ซาดิสม์รุนแรง เขาก็เลยต้องลงไปคลุกกับโคลนทั้งตัวอยู่หลายรอบ ตอนนี้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีจุดไหนที่สะอาดเลยแม้แต่จุดเดียว
ดังนั้น เขาก็เลยชักมือกลับไป ใช้สายตาเพ่งไปที่โต๊ะข้างๆ
“เข้าใจแล้ว คุณวางไว้เลย”
กู้หรันก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่วางของเสร็จแล้ว ก็จากไป
เธอเพิ่งจะออกไป
ผู้ชายที่เดิมทีกำลังท่องสคริปต์อย่าง“จริงจัง”จู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมา หัวเราะเยาะออกมาเบาๆใส่ผู้หญิงที่กำลังจะเดินออกจากประตู
“แบบนี้เนี่ยนะจะมาเชิญฉันเป็นแอมบาสเดอร์ คิดอะไรอยู่?”
เขาหยิบนามบัตรขึ้นมาดูอย่างไม่ได้แยแสอะไร เลิกคิ้ว
“โอ้ เป็นเจ้าของซะด้วย”
ในตอนนี้เอง เสี่ยวถังก็เดินเข้ามาจากข้างนอก
“พี่เซียว เมื่อตะกี้ผู้กำกับบอกว่า ได้ จะทำตามที่คุณบอก”
ลู่หนันเซียวพยักหน้า
เสี่ยวถังพอเห็นนามบัตรที่ในมือของเขา ก็พูดถามลองเชิง“พี่เซียว คุณจะรับงานแอมบาสเดอร์ของบริษัทเธอเหรอคะ?”
ลู่หนันเซียวเบะปาก โยนนามบัตรทิ้งไป
“ไม่รับ แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์เกรดต่ำที่มาจากไหนด้วย บริหารจัดการไม่ดีเอง เอาแต่คิดที่จะอาศัยชื่อเสียงในตอนนี้ของฉันหวังที่จะโด่งดังขึ้นมาชั่วข้ามคืน เหอะ!ฉันไม่มีทางเป็นสะพานให้พวกเขาเหยียบข้ามไปสู่เป้าหมายหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...