หลังจากที่เขาโยนนามบัตรทิ้งไปแล้ว ก็ท่องสคริปต์ต่ออีกสักพัก จนกระทั่งผู้กำกับเรียกให้ออกไป
ส่วนทางด้านนี้ กู้หรันออกไปจากกองถ่ายแล้ว
แน่นอนว่าเธอก็รู้เจตนาของลู่หนันเซียวแล้วเหมือนกัน
ความจริงแล้ว ก่อนที่จะมา เธอก็ทำความเข้าใจกับคนคนนี้มาเรียบร้อยแล้ว
รู้ว่าวงศ์ตระกูลของเขาสูงส่ง นิสัยหยิ่งยโส แม้ว่าจะไม่แน่ชัดว่าเขาเป็นคุณชายของตระกูลไหนกันแน่ แต่โดยรวมแล้วก็เป็นทายาทมหาเศรษฐีที่ถ้าไม่ได้เป็นดารา ก็จะกลับไปสืบทอดทรัพย์สินหลายร้อยล้านของตระกูล
คนแบบนี้ การที่ในใจรู้จะสึกยิ่งยโสมันก็เป็นเรื่องที่สมควร
ดังนั้นก่อนที่จะมา เธอก็เตรียมใจที่จะโดนปฏิเสธมาไว้เรียบร้อยแล้ว
กู้หรันนั่งอยู่ในรถ ไม่ได้รีบจากไปทันที
แต่กำลังครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ถ้าเกิดลู่หนันเซียวไม่ยอมเป็นแอมบาสเดอร์ให้จริงๆ มันจะมีตัวเลือกที่สองที่ดีกว่าหรือไม่
บริษัทสโนวี่แม้ว่าอยู่ในเมือง Jจะถือว่าไม่เลวเลย แต่ถึงยังไงก็เป็นแบรนด์ท้องถิ่น ถ้าอยากจะตีตลาดระดับประเทศ หนทางยังอีกยาวไกล
ถ้าสามารถทำให้สำเร็จได้ภายในเวลาอันสั้นได้ก็ถือว่าไม่เลว แต่ถ้าไม่ได้ นั่นก็ต้องอดทนเพียรพยายามค่อยเป็นค่อยไป
กู้หรันคิดอย่างหมกมุ่น แทบจะไม่ได้สังเกตเลยว่า ณ ข้างหลังรถไม่ไกล มีเงาคนรูปร่างผอมบางกำลังเดินตรงเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“กู้หรัน!ออกมานี่!”
กู้อันหนิงตบกระจกรถอย่างแรง
กู้หรันได้ยินเสียงที่ดังโวยวายของเธอ เงยหน้าขึ้นมามองเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“กู้อันหนิง? เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เธอลดกระจกรถลง
กู้อันหนิงมองเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ลงมา ฉันมีเรื่องที่ต้องถามเธอ”
เธอพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา มีอะไรก็รีบๆ เธอวางใจได้ ฉันไม่ได้หูหนวก นั่งอยู่ในรถก็ได้ยินเหมือนกัน”
“นี่เธอ!”
กู้อันหนิงรู้สึกโมโหไม่น้อย
แต่พอคิดได้ว่า ในตอนนี้ตัวเองจะเป็นฝ่ายมาขอร้องเธอ ก็เลยไม่ได้พูดจาหยาบคายอะไรอีก
ทำได้แค่เก็บความโกรธแค้นนั้นเอาไว้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก“เธอรู้จักลู่หนันเซียวใช่ไหม?”
กู้หรันเลิกคิ้ว
ชิ ที่แท้ก็มาเพราะลู่หนันเซียวเองเหรอ?
เธอรู้ว่ากู้อันหนิงอยากที่จะเข้าวงการบันเทิง ความจริงนั้น ท่านย่าก็ปูทางมาให้เธอตลอดอยู่แล้ว
แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับตัวเองด้วยล่ะ?
เธอพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“ก็ถือว่ารู้จัก ทำไมเหรอ?”
กู้อันหนิงกัดริมฝีปาก แววตาอิจฉา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...