ถึงยังไง กู้หรันก็รูปร่างหน้าตาดูดี
แม้ว่าจะเล่นเปียโนได้ทั่วๆไป แต่แค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเดียว ก็เป็นภาพวิวที่สวยงามอยู่ไม่น้อย
สีโม่เฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยยากที่จะสังเกตเห็น
กำลังจะเปิดปากพูดขึ้น บริเวณที่ไม่ไกล จู่ๆชางเหลียนที่อยู่ด้วยกันกับท่านชางก็หันหน้ามามองกู้หรันด้วยความตกใจ
“ที่แท้พี่กู้หรันก็เตรียมเพลงไว้แล้วอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากจะฟังมากๆเลย!ถึงยังไงคนที่สามารถอยู่ข้างกายของพี่โม่เฉิงได้ ล้วนแต่ไม่ใช่คนธรรมดาทั้งนั้น พี่กู้หรันจะต้องเล่นเปียโนได้ไพเราะกว่าคุณหนูรองแน่ๆเลยใช่ไหม?”
คำพูดนี้ของเธอ ดูผิวเผินแล้วเหมือนกับสนับสนุนกู้หรัน
แต่ความจริงแล้ว กลับกำลังวางแผนล่อลวงเธออยู่
ถึงยังไง……เธอเป็นคนข้างกายของสีโม่เฉิง ถ้าอย่างนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ทั้งสิบแปดประเภทแน่นอน ดังนั้นเธอจะต้องเล่นได้ไพเราะกว่ากู้อันหนิงเป็นแน่……
แล้วเดี๋ยวถ้าเกิดเธอเล่นออกมาไม่ไพเราะล่ะ?
มันก็จะแสดงว่า เธอไม่เหมาะสมที่จะได้อยู่ข้างกายของสีโม่เฉิง แล้วก็เทียบกับกู้อันหนิงไม่ติดสินะ?
แผนการลับที่กู้หรันฟังออก ทำไมสีโม่เฉิงถึงดูไม่ออกกันล่ะ?
คิ้วที่ขมวดอยู่แล้ว ก็ขมวดแรงขึ้นไปอีก
กู้หรันกลับตบไปที่หลังมือของเขาเพื่อปลอบประโลม
จากนั้น เธอก็ลุกขึ้นยืน
“ในเมื่อคุณชางเหลียนพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพวกคุณช่วยทนฟังหน่อยก็แล้วกันนะคะ”
พูดจบ ก็เดินขึ้นไปบนเวที
กู้อันหนิงรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย
กู้หรันนี่สมองมีปัญหาใช่ไหม?
เธอทำอะไรเป็นทำอะไรไม่เป็น ตัวเองนั้นรู้ดี เห็นๆอยู่ว่าไม่เคยเรียนเปียโนมาก่อน แต่กลับตอบตกลงขึ้นไปบนเวทีต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้?
หลังจากที่รู้สึกตกใจ ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอีกยกใหญ่
เธอเข้าใจแล้ว!
จะต้องเป็นเพราะว่าสีโม่เฉิงอยู่ที่นี่ด้วย เธอก็เลยรู้สึกเกรงใจที่จะปฏิเสธ กลัวว่าเรื่องที่ตัวเองเล่นเปียโนไม่เป็นจะถูกเปิดเผยออกมา ทำให้สีโม่เฉิงรังเกียจ
ดังนั้น ก็เลยต้องจำใจขึ้นไปบนเวทีทั้งที่ไม่อยากทำสินะ
แต่เธอไม่รู้หรือไงว่าอีกเดี๋ยวถ้าเล่นไม่ไพเราะ จะยิ่งขายหน้าขึ้นไปอีก?
จู่ๆกู้อันหนิงก็รู้สึกว่า แผนการล่อลวงนี้ของตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว
ถึงยังไง ไม่ว่าเธอจะเล่นหรือไม่เล่น ตัวเองก็ยกยอเธอเอาไว้ซะสูงลิ่วแล้ว ยังไงซะเธอก็จะต้องอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน!
พอนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองเคยประสบพบเจอมาก่อนหน้านี้ กู้หรันยังไม่ทันได้รับความอับอายขายขี้หน้า กู้อันหนิงก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่ห่างหายไปนานมากเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว!
กู้อันหนิง“……”
เธอจ้องกู้หรันอย่างรุนแรง พูดในใจว่าอีกเดี๋ยวเล่นไม่ดีขึ้นมา จะดูซิว่าเธอจะทำยังไง!
จากนั้น ก็หันตัวเดินลงจากเวทีไป
เธอเดินมานั่งลงข้างๆเฉิงเฟิง
เฉิงเฟิงขมวดคิ้ว พูดถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ“อันหนิง กู้หรันเล่นเปียโนไม่เป็นไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเธอถึงมาบอกกับคุณว่าจะแสดงเพลงให้กับท่านชางล่ะ?”
กู้อันหนิงทำปากเบะด้วยความไม่พอใจ
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ? ก็พี่บอกมาแบบนี้ หรือคุณคิดว่าฉันโกหกอย่างนั้นเหรอ?”
เฉิงเฟิงอึ้งตะลึงไป
จากนั้น ก็พูดขึ้นมาทันที“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ ผมก็แค่รู้สึกอยากรู้เท่านั้นเอง”
พอเห็นกู้อันหนิงยังคงไม่สบอารมณ์ เขาก็ทำได้แค่พูดขึ้น“เอาเถอะ ผมคิดมากเอง คุณหยุดโกรธได้แล้ว ผมขอโทษคุณยังไม่พออีกหรือไง?”
กู้อันหนิงจึงสบถหึออกมาเบาๆหนึ่งที ก่อนจะพูดขึ้น“ก็ได้”
เฉิงเฟิงไม่ได้พูดอะไรอีก สายตาหันมองไปที่เวที
แววตาเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อยจนแทบจะสังเกตไม่เห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...