ข้างล่างเวทีเงียบสงัด
ทุกคนต่างมองจับจ้องไปยังกู้อันหนิง รอชมการแสดงของเธอ
กู้อันหนิงรู้สึกพออกพอใจในตัวเองไม่น้อย
ถึงยังไง ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมีโอกาสได้มาแสดงแบบนี้
พูดให้ชัดเจนก็คือ คนที่มาในงานวันนี้ ต่างมีฐานะร่ำรวยทั้งนั้น แม้ว่าตระกูลชางจะเป็นพี่ใหญ่ในเมืองL แต่ก็มีเส้นสายไปทั่วทั้งประเทศ
วันเกิดของท่านชางในวันนี้ ก็มีแขกผู้มีเกียรติมากมายมาจากต่างเมืองต่างถิ่นเพื่อมาเข้าร่วม
ถ้าได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานเลี้ยงแบบในวันนี้ แล้วเข้าตาคนชั้นสูงเข้าสักคนล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหรือว่าตัวเอง ก็จะมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น
พอคิดแบบนี้ กู้อันหนิงก็ยิ่งเชิดหน้าเชิดตามากขึ้น ขณะที่เผยให้เห็นถึงคอที่ยาวระหงส์นั้น สองมือก็วางอยู่บนคีย์บอร์ด
แตะเบาๆ เสียงเปียโนที่บรรเลงก็ลอยละล่องออกมาจากปลายนิ้ว
พูดตามตรง ระดับฝีมือการเล่นเปียโนของกู้อันหนิงไม่เลวเลยจริงๆ
อย่างอื่นไม่ว่า แต่ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาของพวกแขกพวกนั้นแล้ว ก็มองออกอยู่ไม่น้อย
ได้ยินเสียงคนซุบซิบพูดคุยกันเบาๆ
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณอันหนิงคนนี้จะเล่นเปียโนได้ไม่เลวเลย ให้ความรู้สึกเหมือนนางฟ้าเทียนสุ่ยอยู่ไม่น้อยเลยนะ”
“ใช่ๆ ถึงยังไงก็เป็นคุณหนูรองของตระกูลกู้นะ ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเธอเป็นผู้หญิงเก่งมากความสามารถที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเลย พอได้มาเห็นวันนี้ ก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดจริงๆด้วย”
“ทั้งสวย ทั้งเก่งมากความสามารถอีก ไม่แปลกที่คุณชายเฟิงถึงได้ชอบโปรดปรานเธอ ยอมทิ้งคู่หมั้นคนก่อนหน้านี้”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ก็มีคนแอบชำเลืองตามองไปยังกู้หรันที่นั่งอยู่ข้างหน้า
แน่นอนว่ากู้หรันก็รู้สึกได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโมโหอะไร แค่ยกมุมปากยิ้มเบาๆ
กู้อันหนิงมากความสามารถ?
ในสายตาของคนธรรมดาทั่วไป บางทีก็อาจจะใช่
แต่ว่า……
เทียบกับนางฟ้าเทียนสุ่ยได้เลยนี่สิ?
ใครกันที่ให้เกียรติกับเธอขนาดนั้น?
นางฟ้าเทียนสุ่ยชื่อเต็มๆก็คือเสิ่นเทียนสุ่ย เป็นดาราหน้าใหม่ที่โด่งดังขึ้นมาในแวดวงเปียโนเมื่อสองสามปีก่อน
เธอเล่นเปียโนได้อย่างน่ามหัศจรรย์มาก ถูกเรียกว่าเป็นเทพแห่งเปียโนรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุยั้งน้อย รุ่นก่อนคือเซียวจื้ออันที่อายุประมาณหกสิบกว่าๆ
ที่น่าเสียดายก็คือ เสิ่นเทียนสุ่ยไม่เคยเปิดเผยหน้าตามาก่อน
ตอนที่ทุกคนนึกว่า เธอจะลงมาจากเวทีนั้น กลับเห็นกู้อันหนิงจู่ๆก็กะพริบตาปริบๆ มองมายังกู้หรันที่นั่งอยู่แถวหน้า
“พี่คะ ฉันได้ยินมาว่าก่อนที่พี่จะมาในวันนี้ ก็ได้เตรียมเพลงเปียโนมาให้ปู่ชางเอาไว้หนึ่งเพลงด้วยนี่คะ พี่จะขึ้นมาเล่นเลยตอนนี้หรือว่าค่อยขึ้นมาเล่นคะ?”
เนื่องจากวันนี้เป็นงานเลี้ยงในตระกูล ดังนั้นการแสดงบนเวทีจึงมีบางส่วนที่เป็นแบบด้นสด
ไม่มีการจำกัดสคริปต์ แล้วก็ไม่มีตารางเวลาอะไรด้วยเหมือนกัน
ในตอนนี้พอถูกกู้อันหนิงถามมาแบบนี้ จู่ๆสายตาของทุกคนก็หันไปจับจ้องกู้หรันที่นั่งอยู่แถวหน้าทันที
กู้หรันยกคิ้ว
เธอไปบอกตอนไหนว่าตัวเองได้ทำการเตรียมเพลงเปียโนให้กับท่านชางไว้หนึ่งเพลง?
กู้อันหนิง ทำเรื่องชั่วๆไว้เยอะ แล้วเกิดอาการหลอนหูขึ้นมาหรือไง?
ได้ยินคนที่อยู่ข้างๆพูดยิ้มๆ“อ้อ? ตอนแรกนึกว่าจะมีแค่คุณหนูรองที่เล่นเปียโนเป็นซะอีก ที่แท้คุณหนูใหญ่ก็เล่นเป็นด้วยเหรอเนี่ย?”
“แน่นอนอยู่แล้วน่ะสิ ถึงยังไงพวกเธอทั้งสองคนก็เป็นพี่น้องกันนะ การที่มีอะไรเหมือนกันมันน่าแปลกตรงไหน?”
“คุณกู้หรันเมื่อตะกี้คุณหนูรองให้พวกเราได้ชื่นชมไปกับทักษะการเล่นเปียโนของเธอแล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจ ก็ขึ้นไปแสดงบนเวทีให้พวกเราสักเพลงสิ?”
คนที่ประโยคสุดท้ายนี้ มีท่าทีที่กระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...