วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 126

เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ เฉียวซินโยวมีทีท่าสงสัย ประหลาดใจ และไม่อยากจะเชื่อว่าท่าทีที่เธอแสดงออกมาล้วนถูกจับจ้องด้วยสายตาของเขา และแน่นอนว่ายังมีความกลัวแวบขึ้นมาชั่วครู่

เฉียวซินโยวเบนสายตาออกมองทางด้านข้าง ทำให้สีหน้าของสงบลงพร้อมกับน้ำเสียงของความรู้สึกผิด “ฉ่าวเฉินนี่ไม่ใช่ความจริง คุณต้องเชื่อฉันนะ แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยทำเรื่องพวกนี้เลย!”

เย่ฉ่าวเฉินได้ฟังคำแก้ตัวข้างๆคูๆของเธอแล้ว ท่าทีเย็นชาก็ลดลง ที่จริงแล้วเขาได้ให้จางเห่อไปจัดการก็อปปี้แผ่นซีดีมาอีกชุดและได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตรวจสอบ และผลปรากฏว่า:เป็นของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มันไม่มีร่องรอยของการแก้ไขหรือการถูกดัดแปลงใดๆแม้แต่น้อย

แต่ทว่าการประเชิญหน้ากับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เธอยังสามารถที่จะทำตบตาให้ผ่านไปได้ หรือเธอคิดว่าเย่ฉ่าวเฉินคนนี้จะถูกใครก็ได้มาหลอกเอาง่ายๆอย่างงั้นหรือ?!

“ของสิ่งนี้ฉันได้พิสูจน์มาแล้ว PSไม่มีร่องรอยใดๆ เธอยังมีอะไรที่อยากจะพูดอีกไหม?”เย่ฉ่าวเฉินถามด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ได้ฟังเขาพูดเช่นนั้นแล้ว เฉียวซินโยวรู้ลึกหนักใจอย่างกะทันหัน แต่เธอก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเธอให้กลับมาปกติได้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า“อันที่จริงแล้วฉันไปได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยินเข้า ดังนั้นลู่จื่อหางจึงได้ขู่ฉันพร้อมกับให้ฉันจ่ายเงินห้าหมื่นหยวนให้กับเขา ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะเปิดโปงฉัน!”

หากมองที่การแสดงของเธอและยังไม่ได้ทำการตรวจสอบล่วงหน้า ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเชื่อในคำพูดของเธอก็เป็นได้

“รู้ไหมว่ามันเป็นใคร?”

เย่ฉ่าวเฉินจับจ้องเธอด้วยสายตาไม่ไหวติงพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

หลังจากที่ได้ฟังเขาถามจบ ในใจของเฉียวซินโยวเกิดความกังวลเป็นอย่างมาก เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อยพร้อมกับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ฉ่าวเฉินคุณยอมที่จะเชื่อคนอื่นแต่ก็ไม่ยอมที่จะเชื่อฉัน?”

มือทั้งสองที่มองเห็นกระดูกได้อย่างชัดเจนของเย่ฉ่าวเฉิน กับท่าทางที่เก่เก่กังกังกระดกคางของเฉียวซินโยวขึ้น น้ำตาเธอไหลรินลงมาความรู้สึกเจ็บปวด แต่เย่ฉ่าวเฉินก็มิได้มีความสงสารเธอเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ความเกลียดชังที่ถูกโกหกและความเย็นชา!

มองใบหน้าที่กำลังเจ็บปวดอันไร้เลือดฝาดของเธอ เย่ฉ่าวเฉินยังคงพูดต่อไปว่า“ซินโยว เธอรู้ไหมว่าสิ่งที่คนอื่นทำให้ฉันเกลียดมากที่สุดคืออะไร?นั่นก็คือการโกหกไง!ไหนเธอลองพูดมาสิว่า หลังจากที่เธอได้ทำตามแผนของเธอแล้ว เธอรู้สึกพอใจกับมันมากแค่ไหน?!”

เฉียวซินโยวพยายามอย่างมากที่จะเก็บความกลัวเอาไว้ในใจ แล้วพยายามใช้แรงของเธอส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพูดว่า“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!ฉันไม่ได้เป็นคนทำ!แม้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าฉันรักคุณไม่ใช่หรอ……ฉันต้องการที่จะอยู่กับคุณ……”

เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเฉียวซินโยว เย่ฉ่าวเฉินผู้เย็นชาถึงกับต้องดึงมือกลับ พร้อมกับกดเธอลงบนโต๊ะทำงาน การแสดงออกที่ไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยน มีเพียงแค่ความเย็นชาที่ไม่ลดละ “ดังนั้นเธอจึงคิดแผนการต่างๆนานาเพื่อที่จะให้ท่าฉันอย่างนั้นหรือ?เพียงแค่ต้องการอยากจะให้ฉันทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ?!”

เมื่อได้ฟังคำพูดเขาที่จี้ใจดำเธออย่างเห็นได้ชัด หน้าของเฉียวซินโยวรู้สึกเจ็บๆแสบๆ ประหนึ่งเหมือนกับว่าถูกเขาผู้ไร้ความรู้สึกตบเข้าที่ใบหน้าหนึ่งครั้งอย่างจัง!

ทำไมเขาถึงได้พูดกับเธอเช่นนี้?จริงอยู่ที่ว่าเธอทำไม่ถูกต้อง แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะว่าเธอรักเขายังไงล่ะ!

เป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่เมื่อก่อนเคยได้ยินคนอื่นพูดเสมอว่า ความรักในโลกใบนี้สำหรับผู้ชายมักจะมีเหตุผลมากกว่าผู้หญิงเสมอ ไม่ว่าผู้หญิงจะรักมากแค่ไหน หากว่าผู้ชายเลือกที่จะเย็นชาใส่แล้วเขาจะเลือกจับผิดเฉพาะสิ่งที่ไม่ดีของเราอย่างไม่มีลดละ !

“เพราะว่าฉันรักคุณ!”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าและยังพูดต่อไปว่า“ฉ่าวเฉิน คุณหนะลืมไปแล้วหรือว่า?คุณคือผู้ชายคนแรกของฉัน ?คุณคิดว่าสิ่งที่ฉันจ่ายให้กับคุณมันมีเพียงแค่เยื่อพรหมจรรย์อย่างนั้นหรอ?มันยังมีความหวังและความภาคภูมิใจทั้งหมดของฉันอีก!”

ในใจลึกๆของเย่ฉ่าวเฉินรู้สึกสั่นไหว เขาเกือบจะลืมเรื่องนั้นไปแล้วแต่ตอนนี้กลับนึกขึ้นมาได้ เขาทบทวนคำพูดของเฉียวซินโยว มันยิ่งน่าสงสัย ถ้าเป็นก่อนนี้ความทรงจำมันค่อนข้างเลื่อนลาง

แต่ถ้าเป็นตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ผู้หญิงที่อยู่ในคืนนั้นดูไม่เหมือนเธอจริงๆ เพียงแต่ในตอนนี้เขายังไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างได้……

“หรือบางทีผู้ชายอย่างพวกคุณอาจจะไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก แค่ถือว่ามันเป็นความต้องการของร่างกาย แต่ว่าฉันกลับโง่ที่ตกหลุมรักคุณ ฉ่าวเฉิน ไหนคุณลองบอกฉันมาสิว่า ฉันผิดอะไร?!”

เย่ฉ่าวเฉินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขาถึงกับแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมกับทีท่ายิ้มเยาะเย้ยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ซินโยว เธอในตอนนี้ไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันจะเชื่อถือได้เลย”

ได้ฟังเขาพูดเช่นนั้น เฉียวซินโยวถึงกับต้องตะลึงและถามออกไปอย่างมึนงงว่า“หมายความว่าอย่างไร?”

“หากว่าเป็นแค่เรื่องนั้นฉันจะไม่เถียงเลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องที่เธอโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำลายความเชื่อมั่นของฉันลงไปหมดแล้ว!”

รูม่านตาของเฉียวซินโยวหดเล็กลง เวลานั้นในใจของเธอเหมือนกับว่าถูกสองมือกดเธอไว้ แผลที่หน้าอกทำให้เธอเจ็บปวดเจียนจะขาดใจ !

“ฉ่าวเฉิน ฉันไม่ได้ทำ——”

เย่ฉ่าวเฉินผู้เย็นชาส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเอานิ้วชี้ว่างไว้ที่ปากและไม่สงเสียงใดๆ เขามองไปที่เฉียวซินโยวที่มีทีท่าสงบลง

จากนั้นก็เริ่มพูดต่อไปว่า“ ไม่ต้องรีบร้อนปฏิเสธหรอก ถึงฉันจะไม่ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่เรื่องเกี่ยวกับประวัติของเธอล่ะ เธอไม่อยากอธิบายให้ฟังหน่อยหรอ?ที่ว่าพ่อแม่ของเธอมาจากชนบทก็คือเรื่องโกหกอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?”

หลังจากที่ฟังเย่ฉ่าวเฉินพูดจบ เฉียวซินโยวถึงกับต้องถอยหลังไปสองก้าวทันที มือทั้งสองวางลงบนหน้าออกอย่างรวดเร็ว สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หรือว่าแม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้ความจริงแล้ว?!

เธอรู้จักเย่ฉ่าวเฉินดีว่าถ้าหากเรื่องที่เขาไม่มั่นใจเขาจะไม่พูดออกมา นอกเสียจากว่าเรื่องนี้เขามีหลังฐานที่น่าเชื่อถืออยู่ในมือ!

เฉียวซินโยวรู้สึกปวดหัวอย่างมาก แต่เธอพยายามที่จะควบคุมตัวเองให้สงบลง แม้ว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยออกมาก็ไม่เป็นไร เธอพยายามปลอบใจตัวเอง ขอเพียงแค่เธอยังอยู่ในตระกูลเย่ ขอเพียงแค่เธอยังคง‘เป็นผู้หญิงคนแรก’ของเย่ฉ่าวเฉิน เพียงเท่านี้เขายิ่งไม่สามารถที่จะทอดทิ้งเธอได้!

เมื่อควบคุมสติลงได้ สติปัญญาของเฉียวซินโยวก็กลับมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็มองเห็นความไม่รอบคอบของตัวเอง เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกถึงความเคียดแค้น“ฉ่าวเฉิน มู่เวยเวยเป็นคนบอกเรื่องพวกนี้กับคุณใช่ไหม?”

ได้ยินคำพูดของเธอเช่นนั้นแล้ว เย่ฉ่าวเฉินถึงกับรู้สึกผิดหวังในตัวเธอเป็นอย่างมาก ภาพของเฉียวซินโยวผู้จิตใจดีอ่อนโยนคนนั้นที่อยู่ภายในใจของเขา ราวกับดอกกุหลาบที่สวยสดงามกลับกลายเป็นเหี่ยวเฉาและโรยรา

จนกระทั่งแผนการถูกเปิดเผย เธอไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับความผิดซึ่งเป็นสิ่งแรกที่เธอควรทำ แต่เธอกลับพยายามที่จะแก้ตัวเพื่อให้พ้นผิด ถึงขนาดที่ลากเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!

เห็นเย่ฉ่าวเฉินไม่พูดอะไร ยิ่งทำให้เฉียวซินโยวมั่นใจว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นถูกต้องและในใจของเฉียวซินโยวตอนนี้ก็กำลังด่ามู่เวยเวยอยู่ แต่เธอกลับพูดออกมาว่า“ดูเหมือนว่าบางครั้งการที่ฉันอยู่ที่บ้านตระกูลเย่อาจทำให้ในใจของเวยเวยมีอคิตกับฉันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ฉันก็เข้าใจ”

“ฉ่าวเฉินคุณรู้ไหมว่า?บ้านของฉันจนมาก มากขนาดที่ว่าปีปีหนึ่งไม่ได้เนื้อกิน สองปีกว่าก็ไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ จนกระทั่งฉันมาอยู่ที่นี่มันทำให้ฉันเปลี่ยนไปมาก ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะสลัดทิ้งชีวิตที่เฮงซวยแบบเมื่อก่อนออกไป!”

“ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ผิดอะไร และคุณคงจะคิดว่าฉันชอบชื่อเสียงทรัพย์เงินทอง แต่อันที่จริงแล้วคุณไม่เคยผ่านการใช้ชีวิตที่ลำบากเลยสักครั้ง หากว่าคุณลองไปเรียนรู้ด้วยตัวเองดู คุณก็จะเข้าใจในความรู้สึกของฉันเอง ……” เมื่อพูดถึงตรงนี้น้ำตาของเฉียวซินโยวยิ่งไหลทะลักออกมามากขึ้น

“ข้อเท็จจริงที่ฉันต้องกุเรื่องขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่าการทำงานหนักในเมืองนี้ หากมีคนรู้เรื่องนี้เข้าจะทำให้ฉันหางานยากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม!ฉ่าวเฉิน คุณต้องเชื่อฉันนะ……ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะโกหกจริงๆ……”

เย่ฉ่าวเฉินเลือกที่จะเงียบไม่พูดไม่จาและเผชิญหน้ากับเฉียวซินโยวที่กำลังสำนึกผิด เขาควรจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็เกลียดการที่เฉียวซินโยวปิดบังและโกหกเขา ส่วนอีกด้านก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจเธอ

และไม่ว่าจะยังไง ท้ายที่สุดแล้วเธอก็คือผู้หญิงของเขา เขาไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำใจอย่างไรในการเผชิญหน้ากับเธอ เวลาผ่านไปพักใหญ่เขาก็พูดเบาเบาออกมาว่า“เธอออกไปเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกจากปากเย่ฉ่าวเฉินสี่คำนี้แล้ว ในใจของเฉียวซินโยวถึงกับผ่อนคลายขึ้น เธอเช็ดน้ำตาออกเบาเบาและมองไปที่เขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไป

อย่างน้อยเขาก็ไม่คิดที่จะขุดคุ้ยความผิดที่เธอทำทั้งหมดมาคิดบัญชี และไม่ได้มีทีท่าที่ชัดเจนว่าจะให้เธอออกจากบ้าน นั่นหมายความว่าในใจของเขานั้นยังคงมีที่สำหรับเธออยู่!

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้วในใจของเฉียวซินโยวก็เข้าใจได้ทันที แม้วันนี้จะมีเรื่องที่น่าหวาดเสียว แต่การลองวัดใจของเย่ฉ่าวเฉินว่ายังมีเธออยู่ไหมนั้น และผลที่ได้มามันเกินคาด!

เพียงแต่ต่อไปจะทำการใดๆ เธอต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าของเฉียวซินโยวก็เปื้อนไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะฆ่า

ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มู่เวยเวยทำจริงๆล่ะก็ งั้นเธอก็เตรียมรอรับผลกรรมของเธอได้เลย!

……

เหม่ยเย่บาร์

แสงสลัวๆที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกมุมของบาร์ ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่อึกทึก ชายหญิงที่กำลังเต้นบนฟลอร์อย่างเร่าร้อน คลอเคลียไปทั่วทั้งห้องโถง ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง หลงไหลและฮึกเหิม

ที่มุมหนึ่งของเคาท์เตอร์ให้บริการเครื่องดื่มในบาร์มีสาวสวยเร่าร้อนนั่งอยู่ ร่างกายของเธอก็ดึงดูสายตาของเหล่าคนที่นั่งรอบๆข้าง เพียงแต่ว่าเธอดูอารมณ์ไม่ค่อยดี เหล้าที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงถูกเธอดื่มลงไปราวกับว่าเป็นน้ำต้มสุกธรรมดาแก้วแล้วแก้วเล่า

“เฮ้ คนสวยไม่ทราบว่าอยากเชิญคุณออกมาเต้นจะได้ไหม?”ชายผู้มีผมสีเขียวเดินออมเข้ามาทางด้านข้างของเธอและมีทีท่าว่าสนใจในตัวเธอ

“อย่ามายุ่งกับฉัน!”หญิงผู้ไม่มีทีท่าสนใจพร้อมพูดตัดบทด้วยความเฉยชา ชายผู้ซึ่งมายั่วยุทำได้เพียงเดินจากไปอย่างเมินเฉย

หญิงคนนั้นยังคงรินเหล้าดื่มต่อไปแก้วแล้วแก้วเล่า หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจนเห็นได้ชัด สุดท้ายเธอก็เมามาก เธอพยายามตะเกียดตะกายที่จะลุกขึ้น ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังของเธอ มันดึงดูดความสนใจทั้งหมดของเธอ

“ซินโยว ทำไมคุณถึงได้มาดื่มเหล้าที่นี่คนเดียวล่ะ?”

เฉียวซินโยวหันหลังกลับตามเสียง ตาที่เคลิ้มจากความเมามองไปที่ชายผู้อยู่ทางด้านหลังของเธอ หลังจากมองอย่างละเอียดสองถึงสามครั้ง เธอรู้ตัวเลยว่าเธอนั้นเมามากแล้วจริงๆ เมาจนขนาดมองเห็นไม่ชัดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือใคร “คุณเป็นใคร?”

เย่ฉ่าวเหยียนมองเธอที่เมามากอย่างขบขัน และเข้ามาประคองเธอด้วยหวังดีพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นว่า“ผมคือฉ่าวเหยียนไง”

ทันทีที่ได้ยินเย่ฉ่าวเหยียนพูดจบ เฉียวซินโยวก็ดูเหมือนว่าน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบลงมาบนใบหน้าและน้ำเสียงที่ดูแปลกใจ “ฉ่าวเฉิน……คุณใช่ไหม?คุณมารับฉันกลับบ้านใช่หรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อของพี่ชาย เย่ฉ่าวเหยียนถึงกับส่ายหน้าอย่างจำใจ ตอนแรกก็อยากจะบอกความจริงกับเธอ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น จึงทำได้เพียงแค่โอบที่เอวของเธอด้วยความระมัดระวังและพาเธอออกจากบาร์แห่งนี้ไป

แก้มของเฉียวซินโยวแนบกับอกด้านซ้ายของเย่ฉ่าวเหยียน“ไม่น่าเชื่อคุณคือฉ่าวเฉินจริงๆและกลิ่นตัวของคุณก็หอมเอามากๆ ”

ได้ยินเธอพูดดังนั้น เย่ฉ่าวเหยียนถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เขาประคองเธอไปนั่งที่เก้าอี้ข้างคนขับพร้อมทั้งยังรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอด้วย จากนั้นก็ค่อยๆออกรถไป

ที่จริงวันนี้เข้ามาที่นี่เพื่อพบใครคนหนึ่ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเจอเฉียวซินโยวที่นี่ และเรื่องที่ตลกกว่านั้นคือเธอคิดกว่าเขาเป็นเย่ฉ่าวเฉิน เมื่อนึกมาถึงตรงนี้เย่ฉ่าวเหยียนถึงกับขำไม่หยุด

เมื่อเทียบกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง การมีตัวตนอยู่สำหรับเขาก็คงไม่จำเป็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ