วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 132

มู่เวยเวยเอนตัวลงบนโต๊ะทำงาน มือวางบนโต๊ะ และหัวเราะเยาะ เย่ฉ่าวเฉิน แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ แต่เฉียวซินโยวก็มีส่วนรู้เห็น ถ้าเธอไม่เหยียบย่ำฉันแรงๆ ฉันจะผลักเธอได้เหรอ ?

เย่ฉ่าวเฉินตกใจ เมื่อนึกถึงแผนการของเฉียวซินโยว มีบางอย่างแวบเข้ามาในดวงตา เขาชะงักไปครู่หนึ่ง

เจ็บตรงไหนล่ะ ? ผมดูหน่อย !เย่ฉ่าวเฉินพูด พลางก้มหัวลงไปมองเท้าของมู่เวยเวย

มู่เวยเวยตกตะลึง ทันใดนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขา เอ๊ะ ? วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคนคนนี้ ?

เขายังเป็นห่วงเธอ ?

มู่เวยเวยชี้ไปที่เท้าขวาของเธอ หน้าเท้าเริ่มบวมขึ้นมาแล้ว

เย่ฉ่าวเฉินก้มลงไปอุ้มเธอขึ้นมาและเดินออกไป “ผมจะส่งคุณไปโรงพยาบาล”

“คุณ.......คุณ........”มู่เวยเวยพูดตะกุกตะกัก ถ้าหากว่าไม่ใช่ดวงตาสีฟ้านี้ เธอคงคิดว่าเป็นเสี่ยวจื่อ

คุณอะไรคุณ ไม่อยากพูดก็หุบปากไป สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินดูหงุดหงิดเล็กน้อย ในห้องมีเอกสารสำคัญต้องจัดการ แต่เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากเหอเหม่ยหลิง เขาก็รีบหนีไป

หลังจากทั้งสองคนไป ทิ้งให้เฉียวซินโยวอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพัง นอกจากความหึงหวนยังมีน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา......

เป็นเวลาเลิกงานพอดี เย่ฉ่าวเฉินอุ้มมู่เวยเวยเดินมาที่หน้าประตูบริษัท ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก

“ใครบอกว่าประธานเย่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับภรรยา ? ดูออกจะดีนี่ใช่ไหม ?”

“ใช่สิใช่สิ ประธานเย่ดีกับภรรยามาก ดูหล่อจริงๆ”

“เป็นแฟนที่สุดยอดมาก”

มู่เวยเวยได้ยินเสียงกระซิบพวกนี้ ใบหน้าก็ผุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ในสายตาของคนภายนอกเธอดูมีเสน่ห์เหลือล้น แต่มีเพียงคนในตระกูลเย่เท่านั้นที่รู้ว่าเธอมีชีวิตที่เลวร้ายราวกับอยู่ในนรก

เมื่อถึงโรงพยาบาล หมอที่มีอายุก็รู้สึกประหลาดใจกับการปรากฎตัวของมู่เวยเวย “เมื่อเช้าคุณมาตรวจเช็คแล้วไม่ใช่เหรอ ? มีปัญหาอะไรรึเปล่า ?”

มู่เวยเวยนั่งลงบนเก้าอี้ ถอดรองเท้า และเท้าขวาก็บวมสูงขึ้นมา ยังไม่ทันได้พูด หมอก็โมโหแล้ว “ฉันบอกให้คุณพักฟื้นให้ดีไม่ใช่เหรอ ? คุณนี่เป็นผู้หญิงยังไง ? ยังต้องการเท้าข้างนี้อยู่ไหม ?”

“หมอหลิน คุณอย่างเพิ่งด่าฉันเลย รีบช่วยฉันเถอะ เจ็บจนไม่รู้สึกแล้ว” มู่เวยเวยไม่ได้พูดถึงเฉียวซินโยว นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอะไร

หมอหลินบีบเท้าเธอสองสามครั้ง

“โอ้ย——เจ็บเจ็บเจ็บ ——”

เย่ฉ่าวเฉินที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วมองไปและพูดว่า “คุณเบามือหน่อย”

หมอหลินเงยหน้าขึ้นมองเขา “นี่ภรรยาคุณเหรอ ?”

เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้า

“ตอนนี้รู้จักเบามือแล้ว ? ตอนเช้าไปทำอะไรมา ? ฉันคิดว่ากระดูกหักไปประมาณ 80% แล้ว ” หมอหลินพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“กระดูกหัก ? เชื่อมต่อกันได้ไหม ? จะพิการรึเปล่า” มู่เวยเวยถามซ้ำๆ

“ไปเอ็กซ์เรยให้ฉันดูก่อน” หมอหลินยื่นใบรายการให้เย่ฉ่าวเฉิน “พาภรรยานายไปเอ็กซ์เรย”

ระหว่าง ชำระเงินและเอ็กซ์เรย ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย

“ดูตรงนี้ ข้างในขามีกระดูกหักท่อนหนึ่ง ใส่เฝือกไว้จะได้หายเร็วขึ้น” หมอหลินพูดจบ ก็เหลือบมองไปที่เย่ฉ่าวเฉิน และพูดว่า “สามีคุณก็เกินไป ดูแลคนป่วยยังไง ? ถึงจะยุ่งยังไงก็ควรดูแลภรรยา ตอนเช้าก็ปล่อยให้เธอมาตรวจคนเดียว......”

คนเมื่อแก่ตัวลงก็เหมือนจะพูดอะไรง่าย มู่เวยเวยยึดตามคำวิจารณ์ของหมอหลิน แต่ก็แปลกที่เย่ฉ่าวเฉินกลับไม่ขัดอะไร

หลังจากใส่เฝือกแล้ว หมอหลินถามว่า “คุณจะพักฟื้นที่โรงพยาบาลหรือไปพักฟื้นที่บ้าน ?”

“โรงพยาบาล !”

“กลับบ้าน ”

หน้าด้านเป็นเสียงของมู่เวยเวย ด้านหลังเป็นเสียงของเย่ฉ่าวเฉิน

มู่เวยเวยเงยหน้าขึ้นมองเขายักไหล่และอย่างไม่แยแส “OK คุณจ่ายเงินงั้นตามที่คุณพูดละกัน”

ที่จริงเธออยากจะอยู่โรงพยาบาล อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีหมอกับพยาบาลที่ใจดีกับเธอ

เย่ฉ่าวเฉินได้ยินเสียงหวือหวาของเธอ แต่ก็ระงับความโกรธเอาไว้

ระหว่างทางกลับคฤหาสน์ เย่ฉ่าวเฉินไม่พูดอะไร ในตอนนี้ผลเอ็กซ์เรยออกมานั้น เขาแน่ใจในคำตัดสินของตัวเอง เฉียวซินโยวเริ่มน่าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ คิดกลับไปเมื่อก่อน เธอพูดโกหกไปกี่ครั้งแล้ว ? เขาเคยเห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ไหมนะ ?

เมื่อมาถึงประตูคฤหาสน์ เฉียวซินโยวเห็นรถกลับมาแล้วก็รีบลงมาต้อนรับ

ฉ่าวเฉิน คุณกับมู่เวยเวยกลับมาแล้ว เท้าเธอเป็นอย่างไรบ้าง? เฉียวซินโยวแสดงใบหน้าที่เป็นห่วง เย่ฉ่าวเฉินไม่สนใจเธอ และตรงเข้าคฤหาสน์ไป

เฉียวซินโยวแตะจมูกของเธอ และรีบวิ่งไปที่รถเพื่อช่วยมู่เวยเวย “เวยเวย ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้”

มู่เวยเวยสลัดมือเธอออก และโบกมือเรียกฉินหม่าที่เดินออกมา “ฉินหม่า คุณมาช่วยฉันหน่อย”

ฉินหม่ามองเห็นผ้าที่พันขาขวาของเธอไว้เหมือนบ๊ะจ่าง และพูดอย่างประหลาดใจว่า “เมื่อเช้าออกไปยังดีๆอยู่เลย ทำไมกลับมาสภาพนี้ล่ะ”

”ถามคุณเฉียวดูเถอะ“ มู่เวยเวยเอาแขนวางไปบนไหล่ของฉินหม่ากระโดดออกมาจากรถ “เธอผลักฉันโดยไม่ทันระวัง กระดูกหักไปท่อนหนึ่ง ฉินหม่า คุณว่าเธอเก่งไหมล่ะ”

ฉินหม่ายิ้มแห้งๆ และไม่กล้าพูดอะไรมาก

เฉียวซินโยวกัดฟันข้างในเงียบๆ หายใจเข้าลึกๆและเดินหาเย่ฉ่าวเฉินที่นั่งอยู่ห้องนั่งเล่น และพูดอย่างยินดีว่า “ฉ่าวเฉิน คุณเหนื่อยไหม ? ฉันนวดไหล่ให้คุณ”

เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างเย็นชา “คุณไม่คิดจะอธิบายเรื่องนี้เหรอ ?”

เฉียวซินโยวตกตะลึง พูดทั้งน้ำตา “ฉ่าวเฉิน คุณไม่เชื่อฉันเหรอ ? ฉันไม่ทันระวังจริงๆ ฉันกับมู่เวยเวยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานาน และเป็นเพื่อนสนิทกัน จะทำร้ายเธอได้อย่างไร ?”

“พอแล้ว !”เย่ฉ่าวเฉินตะโกนอย่างเย็นชา “เฉียวซินโยว เธอเป็นภรรยาของผมเย่ฉ่าวเฉิน แม้ว่าจะทำผิดอะไรก็ตาม มีเพียงแต่ผมเท่านั้นที่ลงโทษเธอได้ ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องเธอ ผมหวังว่าคุณจะจำเรื่องนี้ไว้ เข้าใจไหม ?”

เฉียวซินโยวกัดฟันพูด “ค่ะ ฉันรู้แล้ว”

ไม่ได้ !จะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว !

ทัศนคติของเย่ฉ่าวเฉินที่มีต่อมู่เวยเวยนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในตอนที่เขายังคิดถึงเรื่องนั้น ต้องรีบกำจัดมู่เวยเวยออกไป

ตอนกลางคืน เดินวนในห้องนอนเป็นเวลานาน เฉียวซินโยวก็กดโทรศัพท์โทรหาคนคนนั้น

“ขออภัย หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้.......”

จะเป็นไปได้อย่างไร ? เฉียวซินโยวไม่ยอมแพ้ หลังจากนั้นสิบนาทีจึงโทรไปอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นแบบเดิม

หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?

ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้ฉันต้องไปที่นั่นด้วยตัวเอง

วันรุ่งขึ้น เย่ฉ่าวเฉินไปบริษัทแต่เช้า เมื่อวานตอนบ่ายเขารีบออกมา ยังมีเอกสารที่ยังไม่ได้จัดการ

ฉินหม่ายกอาหารเช้าเข้ามาให้มู่เวยเวยในห้อง “คุณหนู คุณชายให้ฉันมาบอกคุณว่า สองสามวันนี้คุณพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปบริษัท ถ้าต้องการอะไรก็บอกฉัน และสองสามวันนี้ฉันจะทำซุปกระดูกให้มากขึ้น กินอะไรก็รักษาตรงนั้น คุณจะได้หายเร็วๆ”

หลังจากมู่เวยเวยล้างหน้าเสร็จ ก็กล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ ฉินหม่า”

“คุณหนู คุณเกรงใจเกินไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”

มู่เวยเวยพยุงตัวออกมา ฉินหม่า ตั้งแต่ที่เฉียวซินโยวอาหารเป็นพิษครั้งที่แล้ว คนในตระกูลเย่ก็มองฉันเปลี่ยนไป มีเพียงคุณเท่านั้นที่ยังดีกับฉันมาก

ฉินหม่าหัวเราะเบาๆ “ฉันรู้ว่า คุณหนูเป็นคนจิตใจดี ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอก อาหารเริ่มเย็นแล้ว คุณรีบทานเถอะ”

“อืม ตกลง”

……

ห้างสรรพสินค้า

เฉียวซินโยวซื้อชุดคนชรามา วิกผมสีเทาและแว่นตาขอบตาดำ จากนั้นเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้า ผ่านไปสิบนาทีหญิงชราก็เดินออกมา

เธอคิดว่าเธอทำอย่างไร้ที่ติ แต่ไม่คิดเลยว่าทั้งหมดนี้จะตกอยู่ในสายตาคู่หนึ่งจากระยะไกล

“คุณชาย เธอเหมือนจะไปที่แห่งหนึ่ง พวกเราจะตาม?.......ตกลง คุณวางใจ ไม่หายหรอก......”

รถแท็กซี่ขับอย่างรวดเร็วไปยังชานเมืองด้านตะวันออกของเมือง A รถหยุดที่ศูนย์รวมบ้านเช่าขนาดใหญ่ของเมือง A ดูอุดมสมบูรณ์และครึกครื้น

เฉียวซินโยวไปตามที่อยู่ขึ้นไปที่ห้องหนึ่งบนชั้นสาม

“ก๊อกก๊อกก๊อก——”

เสียงของชายคนหนึ่งดังออกมาจากข้างใน “ใคร ใคร มาแล้ว”

เมื่อประตูเปิด ชาย IT ก็สวมกางเกงยาวถึงเข่ายืนอยู่ข้างใน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “หญิงชรา คุณมาหาใคร ?”

เฉียวซินโยวไม่พูดอะไร ผลักร่างของเขาเดินเข้าไปข้างใน และปิดประตูอย่างรวดเร็ว

“เห้ หญิงชรา คุณมาหาใครกันแน่ เข้ามาในบ้านผมทำไม ?”

เฉียวซินโยวถอดแว่นตาดำ และพูดด้วยความโกรธว่า “รูปภาพล่ะ ? รูปที่ฉันต้องการอยู่ไหน ?”

“คุณเป็นใคร ? เข้ามาก็จะเอารูปภาพ สมองมีปัญหารึเปล่า ?”

“ฉันคือเฉียวซินโยว ของที่ฉันต้องการล่ะ ? แล้วทำไมตั้งนานไม่ติดต่อฉันมา ?”

ชาย IT อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมา “คุณหลอกใครกัน เมื่อวานผมเพิ่งเจอคุณเฉียว และก็เอาของให้เธอไปแล้วด้วย”

เฉียวซินโยวตกตะลึง คุณพูดบ้าอะไร ฉันนี่สิเฉียวซินโยว !พูดจบ เฉียวซินโยวก็ยื่นบัตรประชาชนให้ชายคนนั้นดู

ชายคนนั้นตรวจบัตรประชาชนดู และชื่อบนนั้นก็คือเฉียวซินโยวจริงๆ

ซวยแล้ว หรือว่าจะโดนหลอกแล้ว ?

“ตอนนี้เชื่อรึยัง ? ”เฉียวซินโยวหยิบบัตรประชาชน และถามด้วยความโกรธ “พูดมา เมื่อวานคุณเอารูปภาพให้กับใคร ?”

ชายคนนั้นรู้สึกสับสนเล็กน้อย “ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง”

มีลักษณะอย่างไร ? เฉียวซินโยวถามจี้

ชายคนนนั้นครุ่นคิด “เธอสวมแว่นกันแดด ผมปิดหน้าครึ่งหนึ่ง มองเห็นไม่ชัด แต่รู้สึกได้ว่าสวยมาก”

เฉียวซินโยวอยากตบเขาสองสามฉาก ทันใดนั้นก็นึกถึงใครบางคน และเปิดรูปถ่ายในโทรศัพท์และถามเขาว่า “ใช่เธอรึเล่า ?”

ชายคนนั้นโน้มตัวมองใกล้ๆ และส่ายหัวว่า “ไม่เหมือนหรอก ผู้หญิงในภาพดูเป็นเด็ก แต่ผู้หญิงคนเมื่อวานดูน่าทึ่งมาก”

น่าทึ่งบ้าไรคุณ ? คุณมองไม่เห็นหน้าเธอยังพูดว่าน่าทึ่ง ? เฉียวซินโยวด่าด้วยความโกรธ ถ้างั้นก็ไม่น่าจะใช่มู่เวยเวย เมื่อวานตอนเช้าเธอไปโรงพยาบาล ตอนบ่ายอยู่บริษัท ไม่มีเวลาแน่ แต่ถ้าไม่ใช่เธอจะเป็นใครกันล่ะ ?

เมื่อคิดได้ไม่เท่าไหร่ เฉียวซินโยวก็พูดกับชายคนนั้นว่า “ตอนนี้คุณ รีบทำสำเนาใหม่ให้ฉันอีกฉบับ”

ชาย IT สะดุ้ง ,“มีสิทธิอะไร คุณคิดว่าทำง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ? ผมใช้เวลาตั้งหลายคืนกว่าจะทำเสร็จ”

“มีสิทธิอะไร ? คุณเอาของให้ผิดคน ถ้าหากมันคุกคามฉันขึ้นมาคุณจะคิดว่าใครกัน ? เฉียวซินโยวขู่อย่างเย็นชา “คุณอย่าลืมสิ ว่าฉันมาที่นี่เพราะคุณชายหนานกงแนะนำมา ถ้าหากว่าคุณไม่ทำ.......”

ชายคนนั้นรู้วิธีการของหนานกงเฮ่าดี และรีบรับทันที ตกลง ผมจะทำให้ใหม่ เพียงแต่ว่าเร็วสุดต้องใช้เวลาประมาณห้าวัน

“ไม่ได้ !ภายในสามวันต้องเอามาให้ฉัน ”

ห้าวันนานไปแล้ว ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?

สามวันคุณจะเอาชีวิตผมเหรอ ? ชายคนนั้นท้วง

เฉียวซินโยวขมวดคิ้ว และเพิ่มข้อเสนอ “ถ้าทำเสร็จในสามวัน ฉันให้คุณเพิ่มอีกห้าพัน เป็นยังไง ?”

ตาของชายคนนั้นเป็นประกาย “ตกลง คำไหนคำนั้น เมื่อถึงเวลาจะให้ผมไปหาคุณที่ไหน ?”

เฉียวซินโยวสวมแว่นตา “คุณไม่ต้องมาหาฉัน ฉันจะมาเอารูปภาพจากคุณเอง”

นี่ที่ เย่ฉ่าวเหยียนได้รับโทรศัพท์จากลูกน้อง เขาครุ่นคิดสักครู่และพูดว่า ไปหาข้อมูลมาว่าชายคนนี้ทำอะไร เอารายละเอียดมา ในเวลาเพียงครึ่งวัน เย่ฉ่าวเหยียนก็ได้รับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับชาย IT ทั้งหมด

ชาย IT ชื่อหานฉ่าวเผิง อายุ 28 โสด จบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงภายในประเทศ ทำงานในบริษัทได้ไม่กี่ปีก็ออกมาทำเอง ตอนนี้เขาเป็นแฮ็กเกอร์ไซเบอร์ โดยรับงานด้านอาชญากร โดยส่วนใหญ่ก็บุกรุกเครือข่ายของโรงแรม และบริษัทขนาดใหญ่ และขโมยข้อมูลที่ต้องการมา

เฉียวซินโยวไปหาคนแบบนี้ทำอะไร ?

ทันใดนั้นเย่ฉ่าวเหยียนก็สนใจ และรู้สึกว่าต้องมีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ภายใน

……

ในตอนเย็น หานฉ่าวเผิงต้มมาม่ากึ่งสำเร็จรูปหนึ่งคัฟและนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ภายในห้องค่อนข้างมืด ไม่ได้เปิดไฟ

“ก๊อกก๊อกก๊อก——”ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังอีกครั้ง

หลังเฉียวซินโยวโผล่มาในตอนเช้า ครั้งนี้หานฉ่าวเผิงเริ่มรู้จึงเปิดประตูอย่างระมัดระวังเป็นช่องเล็กๆ และถามผู้ชายที่อยู่ข้างนอกว่า “มาหาใคร ?”

“ใช่หานฉ่าวเผิงไหม ?”

“ใช่ คุณเป็นใคร ”

คนเคาะประตูยกพัสดุในมือขึ้นและพูดว่า “นี่เป็นพัสดุที่ผู้หญิงแซ่เฉียวคนหนึ่งสั่งให้คุณ กรุณาเซ็นรับด้วย”

หานฉ่าวเพิงขมวดคิ้ว ผู้หญิงแซ่เฉียว เฉียวซินโยว ?

เพื่อให้เธอได้รูปพวกนี้โดยเร็วที่สุดจึงทำให้ฉันพอใจขนาดนี้? ในใจของหานฉ่าวเผิงรู้สึกดีใจและภูมิใจเล็กน้อย เปิดประตูออก และพูดว่า “เซ็นตรงไหน ?”

ใครจะรู้ ทันใดนั้นชายที่แข็งแกร่งสองสามคนก็วิ่งออกมาจากข้างหลังของชายคนนั้น และอุ้มเขาเข้าไปเหมือนลูกไก่ตัวน้อย ชายคนที่เคาะประตูใช้เท้าหลังปิดประตู “ปัง” และหันมาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เซ็นบนหน้าผากของคุณ !”

หานฉ่าวเผิงถูกคนสองสามคนผลักลงบนโซฟา แต่ก็ยังกล้าๆหน่อย พวกคุณเป็นใคร ต้องการอะไร ? ระวังผมจะแจ้งความ

ชายคนนั้นเคลียร์โต๊ะกาแฟที่เต็มไปด้วยนิตยสารและนิตยสารความงาม นั่งตรงข้ามเขาและพูดว่า “แจ้งความ ? ดี คุณแจ้งเลย ตำรวจกำลังตามหาคุณสำหรับเรื่องที่ทำมาหลายปีนี้”

ใบหน้าของหานฉ่าวเผิงดูเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะตรวจสอบเรื่องของเขามาอย่างละเอียด “ถ้างั้นพวกคุณต้องการอะไร ?”

“ง่ายมาก ทำไมเฉียวซินโยวถึงมาหาคุณ บอกฉันมา ฉันจะทำเป็นไม่เคยเจอคุณ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ