มู่เวยเวยทำเหมือนมองไม่เห็นเขา เดินตรงไปเรื่อยๆ ปากก็พูด"พี่ล่ะ?พี่อยู่ที่ไหน?พี่—— พี่——"
เย่ฉ่าวเฉินมองการกระทำของเธอ เธออยู่ในห้องกว้างเหมือนกำลังตามหาบางอย่าง
"เธอ เธอเป็นอะไร?"เย่ฉ่าวเฉินแย่แล้ว เขาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้
พ่อบ้านหวังพูดตัดบท "คาดว่าคุณหนูละเมอครับ"
"ละเมอ?"ถ้าอย่างนั้น.....อาการแบบนี้ควรทำอย่างไร?
"ผม....ก็ไม่รู้ครับ แต่เคยได้ยินคนแก่พูดว่า ถ้าพบเจอคนที่ละเมอไม่ควรเรียกให้พวกเขาตื่น อาจจะทำให้พวกเขาตกใจ"
เย่ฉ่าวเฉินแปลกใจ "ห้ะ?"
"พี่ ——พี่ ——"มู่เวยเวยเดินไปหาที่ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องเสื้อผ้า หาคนที่เธออยากเจอไม่พบ เดินวนกลับมาอยู่ด้านหน้าเย่ฉ่าวเฉิน ชะงักงันมองมาที่เขา"พี่ฉันล่ะ?"
เย่ฉ่าวเฉินถูกเฉียวซินโยวมองจนรู้สึกหนังศีรษะชา "เขา................เขาไปที่ที่แสนไกล ยังไม่กลับมา"
"ไม่ใช่!" มู่เวยเวยร้องออกมาอย่างประหลาดใจ คล้ายกับคนเสียสติ "ไม่ใช่ เขาตายแล้ว เขาตายแล้ว ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ฉันมองเห็น เขาตายแล้ว"
"มู่เวยเวย เธอใจเย็นก่อน" เย่ฉ่าวเฉินต้องการจับที่ผมของเธอเพื่อให้หยุด แต่เธอก็ผลักเขาออก
"พี่ตายแล้ว ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาตายแล้ว ......"มู่เวยเวยพูดซ้ำๆ เธอขดงอตัวบริเวณมุมประตู คล้ายกับแมวเวลาตกใจ
สุดท้ายเย่ฉ่าวเฉินก็ไม่รู้ควรจะทำอย่างไรจริงๆ ใช้มือของเขาทำเหมือนกับมีมีดเล่มหนึ่ง ลงไปที่บริเวณต้นคอของมู่เวยเวยล้มลงไป
มู่เวยเวยหมดสติ ในใจคิดว่าครั้งหน้าจะไม่แสดงละครอย่างนี้แล้ว เหนื่อยมากเกินไป
เย่ฉ่าวเฉินมองร่างที่หมดสติ ถามพ่อบ้านหวัง "เรื่องคืนนี้ยังมีใครรู้อีก?"
"คาดว่าไม่มีครับ ตอนที่ผมออกตรวจก็ไม่เจอใคร แม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยิน"
เย่ฉ่าวเฉินก้มเอวลงไปอุ้มมู่เวยเวยที่หมดสติขึ้นมา "อย่างนั้นก็ดี ฉันไม่อยากให้คนในคฤหาสน์พูดถึงเรื่องนี้"
พ่อบ้านหวังโค้งตัวลงพูด "คุณชาย ผมทราบแล้วครับ"
"ไปพักผ่อนเถอะ"
พ่อบ้านหวังกลัวว่าแผลที่ไหล่ของเขาจะฉีก ถามด้วยความกังวลใจ"คุณชาย ต้องการให้ผมช่วยไหมครับ? แผลของคุณยังไม่หาย"
"ไม่ต้อง" เย่ฉ่าวเฉินอุ้มมู่เวยเวยเข้าห้องนอน "ช่วยปิดประตูให้ผมด้วย"
......
นอกหน้าต่างแสงจันทร์สว่างไสว เย่ฉ่าวเฉินมองหน้าตาน่ารักของเธอ เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่
เมื่อไหร่ไม่รู้ เขาทำใจไม่ได้ที่เธอบาดเจ็บ ทำใจไม่ได้ที่จะใช้กำลังกับเธอ?
มู่เวยเวย ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร ฉันจะไม่มีทางปล่อยเธอไป ถึงเธอจะเกลียดฉันเข้ากระดูก
เขาโอบกอดเธอไว้ ก้มลงดมกลิ่นมะนาวที่ผมของเธอ ความรู้สึกยากที่จะอธิบายให้เข้าใจ
ช่วงเช้า มู่เวยเวยถูกแสงอาทิตย์สาดส่องมาทำให้เธอตื่น เพียงแค่ขยับศีรษะ เธอรู้สึกเจ็บบริเวณต้นคอมาก
เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เย่ฉ่าวเฉินเป็นคนทำให้เธอหมดสติ เบิกตากว้าง ที่แท้เธออยู่ที่ห้องของเย่ฉ่าวเฉิน แต่ว่าเหมือนเขาจะไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายเธอ ก็ใช่เขาบาดเจ็บอยู่อยากจะทำก็คงไม่มีอารมณ์ เสียงฝีเท้าดังมาจากห้องเสื้อผ้า มู่เวยเวยมองไปด้านนั้นนิ่ง เย่ฉ่าวเฉินใส่เสื้อเชิ้ตเดินออกมา ติดกระดุมยังไม่เสร็จ
"ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่ห้องของคุณ?" มู่เวยเวยแกล้งทำเป็นถามระหว่างที่เย่ฉ่าวเฉินติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่ ได้ตอบเธอ "เมื่อคืนเธอละเมอเดินมา"
"เป็นไปไม่ได้!" มู่เวยเวยปฏิเสธ "ฉันจะละเมอได้อย่างไร?"
"คิดว่าฉันจะพาเธอมาเหรอ? เชอะ" เย่ฉ่าวเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น
มู่เวยเวยคว้าหมอนหนึ่งใบขว้างใส่เขา เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้หลบ กระทุ้งหมอนไว้บนเท้าของ
ตัวเองและหล่นลงไป
"เย่ฉ่าวเฉิน ฝากไว้ก่อนเถอะ!" มู่เวยเวยลุกลงจากเตียง พูดด้วยความเกลียดชังเดิน
ออกจากห้องไป
"ได้สิ มู่เวยเวย ฉันจะรอนะ"
เย่ฉ่าวเฉินกระตุกที่มุมปากขึ้น
หมอหานรู้ว่าเย่ฉ่าวเฉินกำลังจะไปทำงานพูดด้วยความโกรธ เพิ่งบาดเจ็บมาสามวัน หรือว่าไม่ควรที่จะพักผ่อนอยู่บ้านเหรอ?
"อย่างไรผมก็ไม่เห็นด้วย ถ้าหากคุณยังจะไป เกิดอะไรขึ้นมาผมไม่รับผิดชอบนะ" หมอหานพูดด้วยความโมโห
เย่ฉ่าวเฉินกดแล้วกดอีกที่จุดไท่หยาง บาดแผลของเขาหายเร็ว แต่กลัวว่าจะทำให้หมอหานตกใจ เพราะฉะนั้นไม่ได้ให้เขาดูเพียงแค่ให้เขาเอายาไว้ให้
"คุณชาย อย่างไรหมอหานก็บอกแล้วว่าให้พักผ่อน คุณก็ไม่ต้องไปที่บริษัทแล้ว" พ่อบ้านหวังเดินมาพูด
เย่ฉ่าวเหยียนยกแก้วน้ำพูด "บริษัทขาดพี่ไปคนหนึ่ง หรือว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย?"
เอาเถอะ เย่ฉ่าวเฉินแบมือทั้งสองข้างออก "ตกลง พักผ่อนอีกสองวัน ก็เหมือนว่าลาพัก"
ในที่สุดหมอหานก็ยิ้มออกมา "อย่างนี้ก็ถูกต้องแล้วไหม คุณพักผ่อนเยอะๆ ผมจะไปดูคนไข้อีกคน"
ช่วงที่เขาพักผ่อนมาไม่กี่วันนี้ก็ไม่ได้สงบ มู่เวยเวยตั้งใจกลั่นแกล้งเขา เช่น ผลักเขาจากระเบียงลงไป วางยาในอาหาร แต่บังเอิญหริอไม่บังเอิญล่ะที่มีคนเห็น และล้มเหลวทุกที
เดิมทีเธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขาจริงๆ เพียงแค่ทำอย่างนี้แล้ว จังหวะอย่างนี้กำลังดี
มู่เวยเวยทำอย่างนี้กับเขายิ่งทำให้เขายิ่งอดทนอดกลั้นมากขึ้น เพียงแค่ทำหน้านิ่ง เพราะว่าเขาพบว่ามู่เวยเวยสติไม่ค่อยดี
เวลาที่รับประทานอาหารเธอมีอาการเหม่อลอย กลางคืนละเมอหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
ในไม่ช้าก็เกิดข่าวโคมลอยขึ้นในคฤหาสน์
"เมื่อคืนคุณเห็นไหม?" คุณหนูถือมีดวิ่งมา บอกว่าจะไปหาพี่ชาย
"เห็นแล้วๆ สุดท้ายแล้วคุณชายก็เป็นคนเอามีดออกจากมือ ไอหยา น่ากลัวมาก"
"คุณว่า......"สาวใช้มองบริเวณรอบๆไม่มีคน พูดอย่างต่อเนื่องว่า "คุณหนูเป็นบ้าไหม?"
"ชู่วว์——อย่าเสียงดัง" สาวใช้อีกหนึ่งคนพูดอย่างกังวลว่า "ได้ยินมาว่าคุณชายฆ่าพี่ชายของคุณหนู คุณหนูเลยเป็นอย่างนี้ เฮ้....คุณหนูก็น่าสงสารมากเลย"
"เธอว่าถ้าคุณหนูเป็นบ้า คุณชายจะไล่ออกจากที่นี่?"
"ไม่รู้...อย่าพูดๆ พ่อบ้านหวางมาโน่นแล้ว...."
เฉียวซินโยวได้ยินข่าวลือนี้ จ้องมองแล้วมองอีกที่มู่เวยเวย อีกนิดหนึ่งน้ำร้อนก็จะโดนตัวของเย่ฉ่าวเฉินแล้ว
โทรติดต่อหาหนานกงเฮ่า
"จัดการศพเสร็จแล้ว?" เธอไม่อยากให้เวลานี้ถูกเย่ฉ่าวเฉินหาหลักฐานมาได้
"วางใจได้ เป็นขี้เถ้าไปนานแล้ว อยู่ที่นั้นคุณเป็นอย่างไรบ้าง?" หนานกงเฮ่าถาม
เฉียวซินโยวยืนที่ระเบียงชั้นสอง หัวเราะเสียงต่ำ "สบายมาก ฉันคิดว่าอีกไม่นาน พวกเราสองคนจะสมหวังในทุกเรื่อง"
แน่นอน เธอไม่ได้บอกหนานกงเฮ่าเรื่องที่มู่เวยเวยมีอาการสติไม่ดีจากเรื่องนี้
"อย่างนั้นก็ดี"
หลังจากวางโทรศัพท์ เฉียวซินโยวรู้สึกสบายใจมาก
วันนี้ เป็นวันสุดท้ายที่หมอหานจะมาเปลี่ยนยาให้เขา เย่ฉ่าวเฉินอดไม่ได้ที่จะถาม"หมอหาน คุณสามารถตรวจโรคเรื่องเกี่ยวกับสภาพจิตใจและสติไหม"
หมอหานเก็บยาใส่กระเป๋าชะงักมือ ถามด้วยความแปลกใจ"ใครป่วย?"
เย่ฉ่าวเฉินอึดอัดและถอนหายใจออกมา "ผมพาคุณไปดู"
ในห้องนอน มู่เวยเวยได้ยินเสียงเปิดประตู รีบหยิบดินสอบนโต๊ะมาวาดรูปในกระดาษขีดเขียนอย่างไม่รู้ว่าวาดอะไร
หมอหานเรียกมู่เวยเวย ใจเต้นแรงมาก เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าต้องมีสักวันที่เย่ฉ่าวเฉินทำให้มู่เวยเวยสติแตก ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้นจริงๆ
"หมอหาน?" มู่เวยเวยหันศีรษะกลับมามอง คิ้วขมวดอย่างสงสัย"คุณมาทำอะไร?ฉันไม่ได้ป่วย ไม่ต้องการให้มาตรวจ"
หมอหานพูดและยิ้มอย่างอ่อนโยน "ผมมาเยี่ยมคุณ ไม่ได้เจอกันนานมาก ช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?"
"ฉันสบายดี" มู่เวยเวยตอบเสียงเรียบ หลังจากที่มองเห็นเย่ฉ่าวเฉิน อารมณ์โมโห
รุนแรงขึ้นมา โยนดินสอลงที่พื้นและพูดกับเย่ฉ่าวเฉินว่า "คุณออกไป ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ไสหัวไป"
หมอหานรีบปลอบปรับอารมณ์เธอ "โอเคๆ พวกเราจะออกไป คุณอย่าตื่นตระหนก"
รอประตูปิดลง มู่เวยเวยถอนหายใจออกมายาว รีบวิ่งไปแอบฟังพวกเขาคุยกันหลังบานประตู
"คุณหนูมีอาการอย่างนี้นานแค่ไหนแล้ว?" หมอหานขมวดคิ้วถาม
"เกือบจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว"
"นอกจากอาการตื่นตระหนกยังมีอาการอื่นร่วมด้วยไหม?"
เย่ฉ่าวเฉินพยายามคิด "มีอาการเหม่อลอย ละเมอหนักมาก สติไม่ดีใจลอยนานวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น และหลายครั้งที่อยากจะฆ่าเขา"
หมอหานพูดเสียงเย็นอย่างไม่กลัวตาย "คุณทำไม่ดีกับเธอหลายครั้ง เธออยากฆ่าคุณก็เป็นปกติอยู่แล้ว"
เย่ฉ่าวเฉินจ้องเขาอย่างเคร่งขรึม
หมอหานไม่ได้สนใจเขา พูดอย่างตั้งใจ "ฟังจากอาการที่คุณเล่ามา ผมแนะนำว่าให้คุณพาเธอไปโรงพยาบาลแผนกเฉพาะทางตรวจอย่างละเอียด อาการเกี่ยวกับจิตใจโรคนี้ ถ้าปล่อยไว้นานยิ่งน่ากลัว"
"แต่ว่า...ผมไม่อยากพาเธอไปสถานที่อย่างนั้น" เย่ฉ่าวเฉินพูดด้วยความกังวล เขาจะพาเธอไปสถานที่อย่างนั้นได้อย่างไร ? ไม่แน่เธออาจจะเกิดอะไรที่ไม่ดี....
"เพียงแค่ตรวจ ถ้าหากว่าหมอรู้สึกว่าอาการไม่หนัก คุณก็พาเธอกลับมา" หมอหานพูดถึงประโยคนี้ มองเขาแวบหนึ่งพูดว่า "เวลานี้คนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดคือคุณ เธอพบเจอคุณทุกวัน อาการของเธอจะยิ่งหนักขึ้น"
ประตูด้านใน มู่เวยเวยหัวเราะออกมาอีกนิดหนึ่งก็มีเสียง รีบเอามือปิดปากไว้เป็นพัลวัน
"ผมรู้แล้วครับ ผมจะพิจารณาดูที่คุณแนะนำ"
"และอีกอย่างหนึ่งอาการของคุณหนูปล่อยไว้นานกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว เมื้อกี้ผมเห็นอาการสารจิงของสติไม่เพียงพอ จำเป็นต้องรีบเข้ารับการรักษา"
"เข้าใจแล้วครับ"
มู่เวยเวยแอบฟังเสร็จ รีบวิ่งไปทางหน้าต่าง ดูเหมือนว่าต้องแสดงให้เรื่องหนักมากกว่านี้ เย่ฉ่าวเฉินถึงจะตัดสินใจพาเธอออกไป จะใช้วิธีไหนให้เรื่องหนักขึ้น ? ต้องคิดให้ดีและรอบคอบมากๆ
......
ตอนกลางคืน เฉียวซินโยวแต่งหน้าใส่ชุดนอนแพรไหมพริ้วที่ซื้อมาใหม่มาที่ห้องของเย่ฉ่าวเฉิน
เย่ฉ่าวเฉินนั่งดื่มเหล้าที่โซฟาบริเวณระเบียง ลมพัดมาเบาๆ ชายกระโปรงผู้หญิงถลกขึ้น
"ฉ่าวเฉิน หมอบอกว่า ตอนนี้คุณยังดื่มเหล้าไม่ได้ " เฉียวซินโยวคลอเคลียข้างกายเขา มือจับที่มือของเขาที่กำลังถือแก้วอยู่ "อย่าดื่มเลย ตกลงไหม?"
เย่ฉ่าวเฉินก้มศีรษะลงมองที่ดวงตาคู่นั้นที่สว่างสดใส ริมฝีปากอวบอิ่มและชวนน่าหลงไหล
"คุณมาทำอะไร? " เย่ฉ่าวเฉินถามเสียงเย็นชา ลมหายใจร้อนกระทบหน้าเธอ เต็มไปด้วยรสชาติของไวน์และความสมบูรณ์ของชายหนุ่ม
เฉียวซินโยวแค่มองก็เกิดอารมณ์ ทั้งสองมือโอบรอบต้นคอเขา หน้าอกเสียดสีที่เขาบางเวลา "ฉันเห็นว่าช่วงไม่กี่วันมานี้คุณขมวดคิ้วเครียด ในใจคงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ฉันก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนคุณค่ะ"
เย่ฉ่าวเฉินทำไมจะไม่รู้จุดมุ่งหมายของเธอ แต่วันนี้เขาไม่อยากที่จะผละออก
"ว่าอย่างไรนะ?"
เฉียงซินโยวใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อเขา ร่างกายพริ้วไหวเหมือนน้ำ "อย่างไรก็ได้หมด แค่ทำให้คุณมีความสุข ฉ่าวเฉิน คุณรู้ ฉันอยากทำให้คุณมีความสุข"
"ผมรู้ คุณอยากให้ผมมีอะไรกับคุณมาตลอดใช่ไหม?" เย่ฉ่าวเฉินพูดข้างหูเธอเบาๆ
เฉียวซินโยวร่างกายแข็งทื่อ หลังจากนั้นหัวเราะคิกๆออกมา และเบียดตัวเข้าใกล้เขามากขึ้น พูดอย่างประจบอย่างน่ารัก "คุณพูดอะไรกัน ฉันชอบคุณถึงอยากจะได้มาครอบครอง"
"จริงเหรอ? ชอบผมมาก?" เย่ฉ่าวเฉินจับปลายคางเธอเงยขึ้น ดวงตาสีฟ้าเข้ม คาดเดาไม่ได้ว่าข้างในใจคิดอย่างไร
ปากอวบอิ่มแดงระเรื่อประกบไปที่ปากของเขา "จริงสิคะ ชอบมาก"
เย่ฉ่าวเฉินถูกครอบงำด้วยความน่าหลงไหล จูบที่ปากของเธอ เฉียวซินโยวรีบเกี่ยวกระหวัดลิ้นของเขา....
ด้านนอกห้อง มู่เวยเวยอยู่ในความมืดออกจากห้องเก็บของขโมยถังน้ำมันเล็กมาหนึ่งแกนลอน หลังจากนั้นก็มาที่ห้องของเย่ฉ่าวเหยียน
"มู่เวยเวย เธอคิดจะทำอะไร?" เย่ฉ่าวเหยียนลุกจากเตียงมองไปที่เธออย่างประหลาดใจ
มู่เวยเวยไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ยิ้ม "ฉ่าวเหยียน ครั้งสุดท้ายแล้ว คุณช่วยฉันนะ"
ฉ่าวเหยียนมองถังน้ำมันในมือเธอ ไม่กล้าเชื่อใจพูดว่า"คุณ.......อยากจะเผาคฤหาสน์?"
มู่เวยเวยรีบอธิบายทันที"ไม่ๆๆ ฉันไม่ได้จะเผาคฤหาสน์ ฉันจะเผาห้องของเย่ฉ่าวเฉิน"
"คุณ....มู่เวยเวย คุณรับปากกับผม จะไม่ทำร้ายให้พี่ชายผมถึงแก่ชีวิต " เย่ฉ่าวเหยียนพูดปะปนไปด้วยความโกรธ
"เพราะฉะนั้นฉันถึงมาให้คุณช่วย ไม่ใช่ว่าฉันจะเผาจริงจังๆ"
"ถ้าอย่างนั้นคุณคิด........."
มู่เวยเวยกวักมือเรียกเขา "มานี่ ฉันจะบอกคุณ........."
พูดกระซิบกันแล้ว เย่ฉ่าวเหยียนยังคงปฏิเสธ "วิธีนี้ก็ยังอันตรายอยู่ ถ้าหากกรณีนี้เป็นจริง ไม่เพียงแค่พี่ชายผม คุณก็จะได้รับอันตรายด้วย"
"ไม่หรอก ถึงเวลานั้นพวกเราก็กระโดดลงจากหน้าต่างไปที่ชั้นสอง ไม่สูงเลย และอีกอย่างข้างล่างเป็นสนามหญ้า ตกลงไปแล้วขาไม่ขาดหรอก " มู่เวยเวยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมเขา "ฉ่าวเหยียนไม่กี่วันมานี้ ฉันก็แสดงละครเยอะแล้ว ถ้าหากแสดงต่ออีกคาดว่าฉันจะเป็นเสียสติจริงๆ เพราะฉะนั้น คืนนี้ที่จะเผาเป็นครั้งสุดท้าย ผ่านคืนนี้แล้ว ถ้าหากยังไม่ได้อีก ฉันก็จะหยุด"
เย่ฉ่าวเหยียนคิดอยู่สักพัก ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนกับการสวมรองเท้าออกไปด้านนอก
"มู่เวยวย ถ้าครั้งนี้ฉันจะช่วยเธอ ฉันคิดว่าฉันเสียสติไปแล้ว "
มู่เวยเวยหัวเราะอย่างเสียไม่ได้ "ฉันไปเผา คุณเป็นคนไปดับไฟ"
บนระเบียง ร่างสองร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ เหมือนกับกาวติดหนึบ เลยไม่รู้ว่ามีคนกำลังเปิดประตูเข้ามา
หลังจากนั้นเทน้ำมันราดลงที่พื้น....
เย่ฉ่าวเฉินจมูกรับรู้กลิ่นได้ไว น้ำมันราดลงที่พื้นก็ได้กลิ่นแล้ว
"กลิ่นอะไร?" เขาเงยหน้าขึ้นจากหน้าอกของเฉียวซินโยว
เฉียวซินโยวที่กำลังมีอารมณ์ ร่างกายกำลังเหมือนไฟร้อนแผดเผา พูดด้วยเสียงติดขัด "มีกลิ่นอะไรที่ไหนคะ....."
พูดไม่ทันขาดคำ หน้าประตูมีประกายไฟอยู่ที่พื้น ไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
"อา——"เฉียวซินโยวตกใจหน้าซีดเผือด ผละออกจากเย่ฉ่าวเฉิน
ท่ามกลางกองไฟ มู่เวยเวยถือถังน้ำมันเดินมา พูดใส่เย่ฉ่าวเฉินอย่างบ้าคลั่ง "เย่ฉ่าวเฉิน ฉันฆ่าคุณไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ตายพร้อมกันเถอะ"
เย่ฉ่าวเฉินก้าวเท้ายาวๆเดินมา ต้องการที่จะยึดถังน้ำมันในมือเธอ มู่เวยเวยหลบอย่างรวดเร็ว ไฟกำลังไหม้อยู่
ด้านหลังเธอ เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างร้อนใจ "มู่เวยเวย เธอมานี่ เธอไม่ใช่อยากจะตายพร้อมฉันเหรอ?ฉันทำตามเธอ เธอมานี่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...