วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 200

“เข้าใจแล้ว”

เมื่อนั่งอยู่ในรถ เย่ฉ่าวเฉินก็รู้สึกว่าขมับตัวเองกระตุก กดเอาไว้ไม่อยู่

มู่เวยเวยถูกจับเข้าไปในรถตอนเวลาบ่ายสามโมงสี่สิบนาที ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว หกชั่วโมงผ่านไป มันเพียงพอที่จะพาเธอไปได้ทุกที่

เขาบังคับตัวเองให้สงบลงและพยายามหาตำแหน่งของเธอ ดวงตาเขาเกือบจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ก็ยังไม่รู้สึกถึงลมหายใจของเธอแม้แต่น้อย

ตอนนี้ เขาคาดว่ามู่เวยเวยคงจะถูกลักพาตัวไป ลักพาตัวก็หมายความว่าโจรลักพาตัวจะต้องติดต่อเขาหรือไม่ก็ฉู่ซวน แบบนี้ชีวิตของเธอก็จะยังปลอดภัย แต่ถ้าพวกเขาพาเธอออกไปจากเมือง A และขายไปยังสถานที่ใดที่หนึ่ง......

เย่ฉ่าวเฉินไม่สามารถคิดต่อไปได้ เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะพังทลายลง

ตอนบ่ายวันนี้ ตอนที่เธอมาหาเขา เขาควรจะบังคับให้เธออยู่ในห้องทำงาน แบบนี้ ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาตามหลัง

เขาไม่เคยกังวลขนาดนี้มาก่อน เมื่อก่อนตอนที่มู่เวยเวยทิ้งหรือหายไป ก็เป็นเพราะเธอเลือกที่จะไปเอง เขาเข้าใจดี ชีวิตของเธอไม่ได้ถูกคุกคาม แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เธอถูกจับตัวไป จากพฤติกรรมที่หยาบคายของผู้ชายทั้งสองแล้ว พวกมันต้องไม่สุภาพกับเธอแน่

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าราวกับจะหยุดนิ่ง ตรงข้ามกับอารมณ์ที่วิตกกังวลของเย่ฉ่าวเฉิน

คนขับรถหยิบแฮมเบอร์เกอร์ออกมาจากกระเป๋าและส่งให้กับเย่ฉ่าวเฉิน เขาพูดด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณชาย คุณตามหามาทั้งคืนแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย กินนี่รองท้องก่อนเถอะ”

เย่ฉ่าวเฉินหลับตาส่ายหัว ไม่มีอารมณ์กิน ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยมู่เวยเวย จะมีอารมณ์ที่ไหนมากินข้าว

คนขับรถเอาแฮมเบอร์เกอร์เก็บใส่ถุงไปอย่างเงียบๆ และถามเขาว่า “คุณชาย ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหน ?”

เย่ฉ่าวเฉินหยุดชั่วขณะ “ไปซอยถวนเจี๋ย ฉันอยากจะเห็นด้วยตาตัวเอง”

คนขับรถนึกถึงตำแหน่งของซอยถวนเจี๋ย และสตาร์ทรถไป เมื่อขับรถไปได้ไม่ถึงห้านาที จางเห่อก็โทรศัพท์มา

“คุณชาย ในซอยถวนเจี๋ยมีรถสีดำไม่มีทะเบียนจดอยู่ ด้านในไม่มีคนอยู่ ใช่รถที่ลักพาตัวคุณฉู่รึเปล่าครับ ?”

เย่ฉ่าวเฉินใจเต้นรัว “รถคันนั้นแหล่ะ คุณลองดูว่าในนั้นยังมีของอะไรอีกไหม ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เมื่อคนขับรถได้ยินคำพูดของเขา ไม่รอคำสั่ง ก็รีบเร่งความเร็วรถ

ในเวลานี้จราจรบนท้องถนนปลอดโปร่ง รถคานเยนน์สีดำขับอยู่บนถนนด้วยความเร็ว ใช้เวลาเพียงสิบกว่านาที ก็มาถึงซอยถวนเจี๋ย

จางเห่อและพวกอีกสองสามคนมาต้อยรับ “คุณชาย รถอยู่ทางนั้น พวกเราทุบประตูรถแล้ว ด้านในไม่มีของอะไร แต่ดูเหมือนว่าข้างหลังจะมีการทะเลาะกัน”

เย่ฉ่าวเฉินหยุดฝีเท้าลงสองสามวินาที จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินไปที่รถที่อยู่ด้านหน้า

ในซอยมีเพียงแสงไฟสลัวจากถนน จางเห่อหยิบไฟฉายส่องไปที่ด้านหลังของรถ เย่ฉ่าวเฉินเห็นรอยเท้ายุ่งเหยิงบนแผ่นรองสีดำ และยังเป็นร่องรอยรองเท้าส้นสูง

นี่น่าจะเป็นรอยเท้าของมู่เวยเวย บ่ายวันนี้ในตอนที่เธอมาหาเขา เธอสวมรองเท้าส้นสูง

เย่ฉ่าวเฉินจ้องมองไปตามไฟ ในใจก็บีบแน่นราวกับศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง เพราะเขาเห็นเลือดสีแดงสดสองสามหยด นอกจากนั้นยังมีเส้นผมสีดำยาวหล่นอยู่อีกสองสามเส้น

พวกมัน ลงมือทำร้ายเธอ ?

เย่ฉ่าวเฉินกำหมัดทุบเบาะอย่างแรง แต่กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บ

ไอ่ชั่ว ไอ่เลว !

คนที่เป็นดวงใจของฉัน เป็นคนที่พวกคุณสามารถรังแกได้เหรอ ? ถ้าจับพวกมันได้ ฉันจะสับมันให้เละและโยนให้สุนัขกิน

เย่ฉ่าวเฉินออกมาจากรถ ใบหน้าเยือกเย็นราวกับหยดน้ำแข็งจะออกมา “หนานกงเฮ่าล่ะ ? วันนี้เขาอยู่ที่ไหน ?”

“วันนี้เขาทำงานที่บริษัททั้งวัน ในช่วงระยะเวลานี้ไม่มีการเคลื่อนไหวที่แปลก หลังจากเลิกงานวันนี้ เขาก็ตรงกลับไปที่คฤหาสน์หนานกง กินข้าวกับพ่อแม่ และตอนนี้น่าจะยังคงอยู่ที่คฤหาสน์”

เย่ฉ่าวเฉินถามขึ้นด้วยความสงสัย “กลับบ้านกินข้าว ? เขาเป็นคนดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”

จางเห่อก็สงสัยผลการตรวจสอบ จึงไปตรวจสอบหาเหตุผลเพิ่มเติม

“ไม่กี่วันก่อน หนานงเฮ่าและนางแบบคนหนึ่งอยู่ด้วยกันในอพาร์ตเม้นต์ ถูกท่านหนานกงจับได้ ท่านหนานกงเกลียดที่เขาอยู่กับพวกนางแบบและนักแสดง จึงสั่งให้หนานกงเฮ่าเข้างานและเลิกงานอย่างตรงเวลา”

ในใจของเย่ฉ่าวเฉินก็คิดไปเอง หรือว่าเรื่องนี้มันจะไม่เกี่ยวข้องกับเขา ?

นอกจากนี้ เขายังทุ่มเทประสบการณ์ทั้งหมดให้กับการทำธุรกิจในปีนี้ โดยแทบจะไม่ได้ติดต่อกับผู้คนเลย ศัตรูที่ควรกำจัดก็กำจัดออกไปแล้ว ยังมีใครที่จะออกมาอีก ?

“จางเห่อ ส่งรูปฉู่เหยียนให้คนแถวหน้าสองสามคน ในตอนที่พวกเขารับคนเข้ามาใหม่ ต้องดูลักษณะให้ชัดเจน”

“คุณชาย คุณหมายความว่า......”

“ดำรงตนอยู่บนความไม่ประมาท”

“เข้าใจแล้ว”จางเห่อเดินไปโทรศัพท์ เย่ฉ่าวเฉินก็ยืนอยู่ใต้แสงไฟ โดยไม่มีร่องรอยของความอบอุ่น

ในคืนนั้น เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้กลับคฤหาสน์ แต่หลังจากติดต่อฉู่ซวน เขาก็มาคฤหาสน์ที่มู่เวยเวยเคยอาศัยอยู่ หลังจากมู่เวยเวยไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ ฉู่ซวนก็ย้ายเข้ามา

ฉู่ซวนเปิดประตูให้เขา สายตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและกังวล ทั้งสองมองตากันอย่างเงียบๆไม่พูดอะไร นั่งอยู่บนโซฟารอฟังข่าว

อิทธิพลของเย่ฉ่าวเฉินในเมือง A นั้นกว้างขวางมาก จนถึงนอกจากหารถเจอแล้ว เบาะแสอะไรก็ไม่มีอีกเลย ราวกับมู่เวยเวยหายไปในอากาศ

“ตอนนี้คุณมีความคิดอะไรไหม ? ”ฉู่ซวนหยิบเบียร์เย็นๆออกมาจากตู้เย็นสองกระป๋อง และส่งให้เย่ฉ่าวเฉิน

“แกร๊ก——”เย่ฉ่าวเฉินดึงเปิดฝา เขาจิบเบียร์และของเหลวเย็นๆก็ไหลลงคอ กระตุ้นทุกเซลล์ในตัวเขา

“ยังไม่มี” เขาพูด

ฉู่ซวนทรุดตัวลงโซฟาอีกตัวด้วยความกังวล “พวกเราแค่จะนั่งรออยู่ที่นี่เหรอ ?”

“คนของฉันกำลังหาอยู่ข้างนอก ตำรวจก็กำลังตรวจสอบทางแยกต่างๆ แต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่า อีกฝ่ายจะติดต่อมาหาพวกเรา”

ฉู่ซวนถอนหายใจ หวังว่าเป็นอย่างนั้น “ขอให้พระเจ้าอวยพรให้อาเหยียนปลอดภัย”

ในคืนที่เงียบสงัด ผู้ชายทั้งสองคนไม่มีความรู้สึกง่วงแม้แต่น้อย แต่ในตอนใกล้สว่าง ทั้งสองถึงเริ่มง่วงละผลอยหลับไปครู่หนึ่ง

เสียงเรียกเข้าทำลายความเงียบสงัดภายในห้อง ฉู่ซวนและเย่ฉ่าวเฉินสะดุ้งตื่นขึ้นมา ฉู่ซวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา

เขามองไปที่เย่ฉ่าวเฉิน และเลื่อนมือลงไปกดปุ่มรับ

“ฮัลโหล นั่นใคร ?”

“ นั่นใช่คุณฉู่ไหม ? ”เสียงที่ดูเบื่อหนายของผู้ชายดังขึ้นมา

“ฉันเอง คุณเป็นใคร ?”

“น้องสาวของคุณชื่อฉู่เหยียนใช่ไหม ?”

ฉู่เหยียนและเย่ฉ่าวเฉินสบตากัน เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูและกดโฟนเสียง

“น้องสาวฉันชื่อฉู่เหยียน ใช่คุณรึเปล่าที่ลักพาตัวเธอ?”

“โอ้ ฉันแค่อยากรู้ว่าฉันไม่ได้จับตัวมาผิด นังตัวเหม็นนี่ไม่ยอมพูดอะไร ยังบอกว่าเธอไม่ใช่ฉู่เหยียน”

ท่าทีของฉู่ซวนเปลี่ยนไปมา รีบตะโกนไปว่า “คุณอยากได้อะไรฉันจะให้คุณ แต่อย่างทำร้ายเธอ”

“เฮ้ ฉันรู้ว่าตระกูลฉู่ของพวกคุณมีเงิน แต่ว่า ฉันไม่ต้องการเงิน”

“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไร ?”

“ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้ เย่ฉ่าวเฉินจากเย่ฮวางกรุ๊ปคงจะอยู่ข้างๆคุณ”

เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างเย็นชา “ฉันเองเย่ฉ่าวเฉิน”

อีกฝ่ายหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “ดูเหมือนว่าฉันจะเดาไม่ผิด ฉันอยากใช้ฉู่เหยียนแลกกับของบางอย่างในมือคุณ”

“คุณต้องการอะไร ?”

“แน่นอนว่าคือของที่ล้ำค่าที่สุดของตระกูลเย่ของพวกคุณ”

เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้ว “บริษัทของตระกูลเย่เหรอ ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจะเอาบริษัทไปทำไม ? ฉันทำธุรกิจก็ไม่เป็น ”ชายคนนั้นลดเสียงลงและพูดว่า “ของที่พ่อแม่ของคุณให้ไว้ก่อนตายล่ะ ? เอาสิ่งนั้นมาแลก”

ใจของเย่ฉ่าวเฉินเต้นอย่างแรง “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”

“ประธานเย่ คนตรงไม่พูดความลับ คุณไม่ต้องมาแสร้งโง่ต่อหน้าฉัน ในตอนที่พ่อแม่คุณตามหาสมบัติ แต่ไปหามาหลายที่ มีสมบัติล้ำค่าที่ทุกคนหาด้วยกัน พวกคุณตระกูลเย่ต้องการที่จะเป็นผู้ครองครองมัน มันจะเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่า ?”

ก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่อง หรือว่าฝ่ายตรงข้ามก็เคยมีส่วนร่วมในการตามล่าหาสมบัติด้วย ?

“เป็นยังไง จะยอมรับไหม ?”

เย่ฉ่าวเฉินไม่ตอบคำถามของพวกมัน เขากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของมู่เวยเวยมากกว่า “ฉู่เหยียนล่ะ ? ให้เธอพูดสาย ไม่อย่างนั้นฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นจริงรึเปล่า ?”

“ตกลง รอสักครู่” เสียงฝีเท้าของชายคนนั้นดังออกมาจากโทรศัพท์ จากนั้นไม่กี่วินาที ก็ได้ยินมันพูดว่า “หญิงสาว ตื่นขึ้นมา บอกพี่ชายคุณและประธานเย่ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่”

เย่ฉ่าวเฉินกับฉู่เหยียนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่มู่เวยเวยก็ไม่พูดอะไรออกมา

“นังตัวเหม็น พูดสิ เชื่อไหมว่าฉันฆ่าคุณให้ตายได้”ชายคนนั้นตะโกนอย่างรุนแรง

“ไอ่เลว ไปให้พ้น ”มู่เวยเวยตะโกนออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง มันกระทบจิตใจของเย่ฉ่าวเฉิน จนตาของเขาแดงจนแทบจะเป็นเลือดแล้ว

“ได้ยินรึยัง ตอนนี้คงจะเชื่อแล้วสินะ”

ฉู่ซวนกำลังจะพูด แต่ก็ถูกเย่ฉ่าวเฉินหยุดไว้ เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเองและพูดว่า “มีคนตั้งมากมายที่เสียงคล้ายกัน ฉันไม่เชื่อ ถ่ายรูปส่งมาให้ดู ฉันต้องการเห็นเธอด้วยตาของฉันเอง ”

“ให้ตายสิ ฉันว่าคุณคงไม่เป็นห่วงผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่สินะ”

“ใช้สมบัติล้ำค่ามาแลกกับผู้หญิงคนหนึ่ง หรือว่าฉันไม่สามารถตรวจสอบสินค้าก่อนได้ ? ใครจะรู้ว่าคุณไม่ได้กำลังหลอกฉัน ? คุณคิดว่าเย่ฉ่าวเฉินคนนี้โง่รึไง ?”

“ได้ ฉันจะถ่ายรูปส่งให้คุณตอนนี้”

ได้ยินเสียง “แชะ ”ในโทรศัพท์ของฉู่ซวนก็มีรูปหนึ่งส่งเข้ามาในข้อความ ทันทีที่เห็นรูปถ่าย เย่ฉ่าวเฉินก็โกรธมากและตะโกนออกไปว่า “ถ้าคุณขยับนิ้วไปแตะเธออีกแม้แต่นิดเดียว ฉันจะฆ่าคุณ”

ในภาพ มู่เวยเวยถูกมัดมือนั่งอยู่บนพื้น ผมยุ่งเหยิง มุมปากมีเลือดซิบ เธอมองไปที่คนถ่ายด้วยสายตาที่ดุร้าย ยังดีที่เสื้อผ้าของเธอยังเรียบร้อย น่าจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ

“เหอะเหอะ เย่ฉ่าวเฉิน ฉันก็ไม่มีทางเลือก ใครบอกให้เธอไม่พูดล่ะ ? สิ้นเสียงชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงมู่เวยเวยตะโกนขึ้นมา เย่ฉ่าวเฉินอย่าให้เขา......ปิดปากของเธอซะ ”

ความโกรธของเย่ฉ่าวเฉินใกล้ถึงขีดสุดแล้ว “ตกลง ที่ไหน เวลาไหน ?”

“ตอนเช้าจะชดชื่นแค่ไหน ? บ่ายสองโมงวันนี้ เส้นแบ่งเขตระหว่างเมือง A และเมือง S จะมีแม่น้ำเล็กๆอยู่ที่นั่น พวกเราจะรอคุณอยู่ที่นั่น จำไว้ว่า อย่าแจ้งตำรวจ หรือเล่นตุกติกอะไร เพราะมีสายตานับไม่ถ้วนจ้องมองคุณ และแน่นอนว่าก็มีปืนนับไม่ถ้วนด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าคุณไม่อยากโดน ก็อย่าพยายามเล่นตุกติก”

“ฉันรับปากคุณ แต่ว่า อย่าแตะเธอแม้แต่ปลายเล็บ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะทำลายแผนที่ขุมทรัพย์ ไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะได้ไป” เย่ฉ่าวเฉินกัดฟันพูด

“ไม่ต้องกังวล คุณรับปากฉันแล้ว ฉันจะปฎิบัติกับคุณฉู่อย่างดีแน่นอน”

หลังจากวางสาย เย่ฉ่าวเฉินก็ลุกขึ้นเตรียมออกไป แต่ก็ถูกฉู่ซวนรั้งไว้

เย่ฉ่าวเฉินสะดุ้ง“ ฉู่ซวน คุณจะทำอะไร ?”

ฉู่ซวนสีหน้าลังเล “คุณคิดดีแล้วใช่ไหม ?”

“ไร้สาระ หรือว่าจะให้ฉันทนเห็นอาเหยียนตายไปเหรอ ?”เย่ฉ่าวเฉินพยายามระงับไฟในใจและไม่ระเบิดใส่เขาในเวลานี้

“แต่.........” ฉู่ซวนพูดเหตุผลไม่ออก

เย่ฉ่าวเฉินสะบัดมือเขาออก “ฉู่ซวน ฉู่เหยียนเป็นน้องสาวของคุณ เป็นคนที่ฉันรัก ฉันต้องช่วยเธอ ไม่ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือให้เธอปลอดภัยกลับมา แผนที่ขุมทรัพย์อะไรนั่น ฉันก็ไม่ได้หายากด้วยซ้ำ”

เย่ฉ่าวเฉินเข้าใจความลังเลของฉู่ซวน มู่เวยเวยกลับมาข้างกายเขา เพราะว่าแผนที่ขุมทรัพย์แผ่นนี้ ถ้าหากมีอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามา ถ้าอย่างนั้นลูกจะเป็นยังไง ?

แต่ว่าตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะยุ่งไม่ได้มากนัก แค่คิดภาพมู่เวยเวยจะทุกข์ยาก เขาก็เหมือนถูกมีดกรีดภายในใจ

“คุณคิดดีแล้ว ?”ฉู่ซวนจ้องมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง

“ฉู่ซวน คุณเป็นพี่ชายของฉู่เหยียน คุณรู้ตัวไหมว่าคุณพูดอะไรออกมา ?”

ทั้งสองจ้องมองกันอย่างเงียบๆ มีเพียงลมหายใจที่ปะทะกันอยู่กลางอากาศ ทันใดนั้นก็เหมือนเปลวไฟปะทะออกมา ท้ายที่สุดฉู่ซวนก็ยอมและพูดว่า “ผมก็จะไปกับคุณด้วย ผมจะเป็นคนขับรถให้คุณ”

เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้ปฎิเสธ ทั้งสองคนเดินลงไปข้างล่างบคฤหาสน์เย่ด้วยกัน

คันเร่งของเย่ฉ่าวเฉินเหยียบมิด ผ่านไฟแดงไปสี่ห้าอัน และเกือบจะชนท้ายรถอีกสองสามคัน แต่เขาก็จับพวงมาลัยแน่น สายตาเขาก็แสนจะเย็นชา ฉู่ซวนนั่งขาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ เขาไม่อยากให้น้องสาวของเขาตายในเงื้อมมือของเย่ฉ่าวเฉินก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือ

เย่ฉ่าวเฉินนึกขึ้นได้ว่าจางเห่อยังอยู่ข้างนอก จึงโทรศัพท์ออกไป “ให้พวกลูกน้องถอยกลับไป ไม่ต้องหาแล้ว”

จางเห่อประหลาดใจ “คุณชาย คุณพบคุณฉู่แล้ว ?”

“ฝ่ายนั้นโทรมา ตอนบ่ายฉันจะไปรับเธอ ให้ทุกคนไปพักผ่อนเถอะ ยุ่งมาทั้งคืนแล้ว”

น้ำเสียงของเย่ฉ่าวเฉินดูเรียบ แต่จางเห่อก็ฟังออก เจ้านายดูลุกลี้ลุกลน

“คุณชาย ผมจะพาคนของเราไปกับคุณด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ