วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 218

" เย่ฉ่าวเฉิน คุณอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง " มู่เวยเวยตำนิเขา

แมวน้อยตัวนี้ระเบิดความโกรธอกมาแล้ว

เย่ฉ่าวเฉินหยุดยั่วโมโหเธอ และได้แต่ยอมรับผิดแต่โดยดี " ได้ ต่อไป ฉันจะไม่ทำแบบนี้แล้ว ตอนที่เธอทานข้าวกับเพื่อนส่วนตัวฉันจะไม่ปรากฏตัวอีก "

" ไม่ใช่แค่ตอนกินข้าว ต่อไปถ้าฉันไม่ให้คุณปรากฏตัวคุณก็ห้ามปรากฏตัวเด็ดขาด "

พอเย่ฉ่าวเฉินได้ยินแบบนั้นก็ไม่เห็นด้วย เพราะว่าขอบเขตมันกว้างเกินไป " ถ้าอย่างนั้นต้องมีข้อจำกัด ได้เฉพาะคุณกับเพื่อนผู้หญิงเท่านั้น "

" พูดมาก......ฉันมีเพื่อนผู้ชายด้วยหรอ? "

" เหมือนว่า.....จะไม่มี แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ไง "

ดวงตาของมู่เวยเวยกำลังจะลุกเป็นไฟ " ถึงในอนาคตฉันมีเพื่อนผู้ชายแค่กินข้างด้วยกันมื้อเดียวแล้วมันทำไม? ฟ้าจะถล่มลงมาหรอ? "

เย่ฉ่าวเฉินไม่พอใจกับคำตอบแบบนี้ของเธอ เธอคิดกับผู้ชายพวกนั้นแค่เพื่อน แล้วผู้ชายพวกนั้นล่ะ? พวกเขาไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน หนานกงเฮ่าเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในชีวิตจริง

" อ๊า- - " มู่เวยเวยกำลังจะถูกเขากดดันจนบ้าคลั่งแล้ว เธอเลยกรีดร้องออกมาหนึ่งที " ตอนนี้หุบปากให้หมด ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว น่ารำคาญจริงๆเลย "

เย่ฉ่าวเฉินจับไหล่เธอไว้แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง " เธอห้ามรำคาญฉัน "

มู่เวยเวยไม่ยอมอ่อนข้อและถามเขากลับว่า " ก็คุณทำเรื่องที่น่ารำคาญ จะไม่ให้ฉันรำคาญคุณได้ไง? "

" เมื่อกี้ฉันก็ขอโทษแล้วไง ต่อไปจะไม่ทำอีก "

" คุณขอโทษฉันก็ต้องให้อภัยคุณอย่างนั้นหรอ? " มู่เวยเวยตะคอก และเธอก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง

เธอโกรธเย่ฉ่าวเฉินที่พูดอย่างทำอย่างนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่เธอรู้สึกโกรธมากกว่านั้นคือเย่ฉ่าวเฉินไม่ให้พื้นที่ส่วนตัวเธอเลย ทุกวันนอกจากไปบริษัทแล้วก็อยู่แต่บ้าน หนึ่งวัน24ชั่วโมงเวลาที่อยู่กับเขาก็เกินครึ่งวันแล้ว เธอไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

เย่ฉ่าวเฉินเองก็สุดจะทน ตอนที่เขาโทรศัพท์เขาพึ่งออกจากห้องนิรภัยมา จู่ๆเขาก็อยากรู้มากว่าเสี่ยวซีหร่านคนนี้เธอมีเสน่ห์อะไรถึงทำให้มู่เวยเวยมีความสุขมากขนาดนี้ เขาเลยโทรถามสถานที่กับบอดี้การ์ด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เธอโกรธมากขนาดนี้

บรรยากาศหยุดนิ่ง

บอดี้การ์ดสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เพราะกลัวว่าความโกรธของเย่ฉ่าวเฉินจะมาแพร่มาตกอยู่ที่ตัวของพวกเขา

......

พอกลับถึงบ้านตระกูลเย่ มู่เวยเวยก็เดินขึ้นห้องไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้แต่พ่อบ้านหวังที่ทักทายเธอ เธอก็ไม่ใยดีเลยแม้แต่น้อย พ่อบ้านหวังที่กำลังเกิดความสงสัยขึ้นในใจ เย่ฉ่าวเฉินก็เดินผ่านเขาไปด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

พ่อบ้านหวังดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าคุณชายทำให้คุณผู้หญิงโกรธ

โอ้พระเจ้า พึ่งจะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขไปไม่เท่าไหร่ คุณชายเป็นอะไรขึ้นมาอีก? พ่อบ้านหวังกังวลมาก

ที่หน้าห้องมู่เวยเวย เย่ฉ่าวเฉินเคาะประตูด้วยความใจเย็น และพูดว่า

" เวยเวย แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง เธอถึงจะอภัยให้ฉัน? เวยเวย? "

เสียงประตูเปิดออก " ฟุ่บ " มู่เวยเวยมองหน้าเขาอย่างเย็นชา

" ขอโทษเสี่ยวซีหร่านสะ "

" ไม่มีทาง " เย่ฉ่าวเฉินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ถ้าให้เขาขอโทษมู่เวยเวยเขาทำได้ แต่ว่าถ้าให้ขอโทษผู้หญิงอีกคน ฝันไปเถอะ

" ถ้าอย่างนั้นยังมีอะไรต้องคุยกันอีก? " พอพูดจบ มู่เวยเวยกำลังจะปิดประตูแต่กลับโดนเย่ฉ่าวเฉินใช้มือขวางไว้

" เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขอื่น " เขาก้มมองเธอ แววตาสีหน้าเขามีความอ้อนแฝงอยู่

มู่เวยเวยไม่ยอมใจอ่อน " มีเพียงเงื่อนไขนี้เงื่อนไขเดียวเท่านั้น "

" เธอด่าฉันขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันเถียงกลับหรอ? " เย่ฉ่าวเฉินหวงเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นมีเสน่ห์ตรงไหนกันแน่ ถึงทำให้ผู้หญิงของเขาหลงได้มากขนาดนี้

พอพูดถึงเรื่องนี้มู่เวยเวยก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที " ใช่ เธอด่าคุณ แต่ใครกันที่เป็นคนพูดขึ้นก่อนว่าให้รู้จักสถานะของตัวเองด้วยว่าอยู่ฐานะไหน? ถ้าคุณไม่พูดประโยคนี้เสี่ยวซีหร่านจะด่าคุณหรอ? เธอก็แค่อยากจะออกหน้าแทนอาเหยียนเท่านั้นเอง คุณจะรีบตีโพยตีพายไปแบบนั้นทำไม? "

" เวยเวย นี่สมองเธอโดนผู้หญิงคนนั้นครอบงำแล้วหรอ? เสี่ยวซีหร่านเป็นแค่เพื่อนของเธอ ฉันต่างหากที่เป็นสามีเธอ ทำไมเธอถึงได้พูดเข้าข้างคนนอก? "

มู่เวยเวยยิ้มอย่างเย็นชา " เย่ฉ่าวเฉิน ถ้าอย่างนั้นคุณก็ลองคิดดูให้ดี ว่าคุณเป็นสามีที่ดีไหม? "

เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกจุกกับคำพูดของเธอ เพราะมันแทงเข้าจุดสำคัญของเขา เพราะตั้งแต่ต้นเขาก็เป็นสามีที่ไม่ดีเลย

" ฉันจะพักผ่อนแล้ว เชิญคุณไปได้แล้ว " มู่เวยเวยไล่แขก

แน่นอนว่าเย่ฉ่าวเฉินไม่สามารถนิ่งนอนใจได้เพราะว่าเขาลองชั่งน้ำหนักคำพูดของตัวเองดูแล้ว เขาเลยพูดว่า " เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันจะโทรไปขอโทษเธอเดี๋ยวนี้ "

มู่เวยเวยรู้สึกแปลกใจ เขายอมถอย? และหันหลังไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า

ลูกผู้ชายกล้าทำก็กล้ารับ ก็แค่ขอโทษไม่ใช่หรอ? อย่างน้อยก็ไม่ได้พูดต่อหน้าเธอ ไม่ต้องสายตาที่เย้ยหยันของเธอ

เย่ฉ่าวเฉินก้มมองเบอร์โทรศัพท์ เขายืนพิงกำแพงแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็กดปุ่มโทรออก

ผ่านไปสักพักก็โทรติด เพลงรอสายของฝั่งตรงข้ามค่อนข้างเสียงดัง ได้ยินเสียงพนักงานเสริฟ์ดังออกมาจากสายอยู่ไม่ไกล " ต้องการเครื่องดื่มไหมคะ? อันนี้เป็นสินค้าใหม่จากร้านเรา......"

" ฮัลโหล? อาเหยียน มีอะไรรึป่าว? " น้ำเสียงของเสี่ยวซีหร่านมีความสุขมาก

เย่ฉ่าวเฉินมองหน้ามู่เวยเวย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ " ฉันคือเย่ฉ่าวเฉิน "

ฝ่ายนั้นหยุดชะงักไปสองวินาที น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เยาะเย้นอย่างรวดเร็ว " ประธานเย่ มีเรื่องอะไร? "

" เมื่อสักครูฉันพูดแรงไปหน่อย หวังว่าเธอจะไม่ถือสานะ "

" ฮ่าๆ นี่ประธานเย่กำลังขอโทษหรือว่าออกคำสั่งลูกน้องคะ? มีคนที่ขอโทษแบบนี้ด้วยหรอ? "

เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อและตัดสายทิ้งไปเลย หันไปพูดกับมู่เวยเวยว่า " เธอบอกว่าไม่เป็นไร "

มู่เวยเวยมองเขาด้วยความสงสัย " จริงหรอ? "

" จริงสิ ถ้าไม่เชื่อเธอลองโทรไปถามก็ได้ " เย่ฉ่าวเฉินยื่นโทรศัพท์ให้เธอ และมองเธอด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

มู่เวยเวยเหลือบไปมองเขาแล้วเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อจากนั้นก็ปิดประตู

" นี่ ฉันก็ขอโทษไปแล้ว ทำไมเธอยังไม่ให้ฉันเข้าไปอีก " เย่ฉ่าวเฉินรีบใช้มือขวางประตูไว้

" คืนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ " ถึงแม้ว่าปากของมู่เวยเวยจะพูดแบบนี้แต่ว่าน้ำเสียงของเธอไม่ได้จริงจังเหมือนเมื่อสักครู่

" ถ้าอย่างนั้นเธอหหมายความว่าพรุ่งนี้ก็อยากเห็นหน้าฉันแล้วใช่ไหม? " เย่ฉ่าวเฉินถามอย่างหัวเราะมีความสุข

" อาจจะ "

เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้าและเอามือที่ขวางไว้ออก " ถ้าอย่างนั้นเจอกันพรุ่งนี้เช้านะ "

เสียงตอบรับคือเสียงปิดประตู

เอาเถอะบางครั้งสามีภรรยาก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เขาจะค่อยๆปรับตัว

ในตอนเช้า เย่ฉ่าวเฉินเห็นมู่เวยเวยที่นั่งอยู่ด้านข้างของโต๊ะอาหาร ก็ยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น " เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่า? "

มู่เวยเวยจิบนมแล้วพุดอย่างเรียบเฉย " ดีขึ้นกว่าเดิมมาก "

เย่ฉ่าวเฉินรู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้ถือสา แต่ว่าดูจากท่าทางเธอก็ไม่ได้โกรธแล้ว

" เดี๋ยวบอกฉู่เซวียนหน่อยนะ ฉันเอาของไปเก็บไว้ที่ห้องนิรภัยโซนC ตู้เซฟหมายเลข108 "

ท่าทางของมู่เวยเวยดูจริงจังขึ้น " คุณจัดการเรียบร้อยแล้วหรอ? "

" จัดการเรียบร้อยแล้ว "เย่ฉ่าวเฉินหยิบกุญแจเคลือบทองออกมาจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้เธอ " นี่คือกุญแจตู้เซฟ ถ้าไม่มีกุญแจดอกนี้พวกเขาจะไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้ "

" ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถเปิดตู้เซฟได้ แล้วเอาแผ่นที่สมบัติไปล่ะ? "

เย่ฉ่าวเฉินพูดปลอบเธอ " สบายใจได้ พวกเขาเอาไม่ได้หรอก ถึงจะเอาไปได้ก็เป็นแค่ของปลอม อีกทั้งแผ่นที่ในนั้นมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้ พอถึงเวลานั้นพวกเขาก็ต้องมาหาฉันอยู่ดี "

" โอเค ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะ "

พอกินข้าวเสร็จแล้ว เย่ฉ่าวเฉินก็ตั้งใจที่จะไปส่งมู่เวยเวยที่ชั้นล่างของบริษัท MK

ตอนที่ฉู่เซวียนเห็นกุญแจบนโต๊ะของเธอก็มองหน้าเธออย่างประหลาดใจ " เธอได้กุญแจมาอยู่ในมือแล้วหรอ? "

มู่เวยเวยพุดด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก " ที่จริงมันก็แค่บังเอิญ คุณยังจำได้ไหมกล่องเล็กๆดำๆบนชั้นวางหนังสือที่เราเจอเมื่อครั้งที่แล้ว? "

ฉู่เซวียนครุ่นคิดและพูดอย่างแน่ใจว่า " ใช่ ฉันจำได้ ฉันคิดว่าเย่ฉ่าวเฉินไม่น่าจะเอาแผนที่ไว้ในที่ๆชัดเจนแบบนั้นหรอก ดังนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์ หรือว่า......"

" อยู่ที่กล่องสีดำนั้นนั่นแหละ เมื่อคืนฉันวางยาสลบเย่ฉ่าวเฉิน รหัสเป็นวันครบรอบแต่งงานของเราสองคน ข้างในมีสัญญาสำหรับตู้เซฟและกุญแจดอกนี้ ฉันคิดว่ากุญแจดอกนี้น่าจะมีประโยชน์ก็เลยหยิบมาด้วย "

ฉู่เซวียนพูดด้วยความตื่นเต้น " แน่นอนว่ามันมีประโยชน์ แบบนี้ก็ลดความยุ่งยากขงเราได้เยอะเลย "

มู่เวยเวยแสร้งทำเป็นกังวลแล้วถามขึ้นว่า " คุณจะลงมือเมื่อไหร่? เหลือเวลาแค่เดือนกว่าแล้ว ฉันอยากจะเจอหน้าลูกชายฉันเร็วๆ ฉันไม่อยากเป็นหมากในเกมส์ของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันอดทนมามากพอแล้วกับชีวิตแบบนี้ "

ฉู่เซวียนจับกุญแจขึ้นมาดุแล้วพูดว่า " ยังเหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งเดือนกว่าไม่ใช่หรอ? ฉันจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย "

มู่เวยเวยพยายามแสดงให้สมบูรณ์แบบ " คุณรีบไปปั๊มกุญแจดอกนี้เก็บไว้ ฉันจะเอาดอกนี้เก็บกลับคืนที่เดิม ถ้าเย่ฉ่าวเฉินจับได้ว่าฉันขโมยกุญแจดอกนี้มาทุกอย่างจบแน่ๆ "

" กุญแจประเภทเคลือบทองนี้เป็นการทำขึ้นจากคลังนิรภัยเอง เป็นวัสดุพิเศษ มีเพียงดอกเดียวในโลก หากต้องการใช้เวลาเพียงสั้นๆเพื่อลอกเลียนแบบมันไม่สามารถทำได้

" ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไร? "

" ไม่ต้องทำอะไร ฉันจะเอากุญแจดอกนี้แหละไปเปิด "ฉู่เซวียนขมวดคิ้วแล้วชำเลืองตามองเธอด้วยรอบยิ้มแปลกๆ " เธอจะกลัวอะไร? ตอนนี้เย่ฉ่าวเฉินหลงเธอมากขนาดนี้ เพื่อช่วยเธอก็ยอมเอาแผนที่สมบัติมาแลก แค่ขโมยกุญแจห้องนิรภัยแค่นี้ เธอกลัวว่าเขาจะฆ่าเธออย่างนั้นหรอ? "

หัวใจของมู่เวยเวยลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ " นี่คุณพูดแบบนี้คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ ผู้ชายแบบพวกคุณเป็นคนแบบไหนคุณไม่เข้าใจอย่างนั้นหรอ? ที่เขาชอบฉันเพียงเพราะว่าฉันคล้ายภรรยาเขามาก ถ้าเขารู้ว่าฉันหลอกเขามาโดยตลอด และเอาของที่มีค่าที่สุดของเขาไป ถ้าคุณเป็นเขา คุณจะยอมปล่อยฉันไปไหม? ตลก! "

ฉู่เซวียนสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอและเขาก็พูดไม่ออก แต่ว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง ถ้าเขาเป็นเย่ฉ่าวเฉิน โดนคนที่รักหลอกลวงแบบนี้ เขาต้องอยากสลายร่างของฝ่ายตรงข้ามให้ออกเป็นชิ้นๆแน่

" อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าพวกคุณได้สมบัติมาครอบครองแล้ว และเมื่อเย่ฉ่าวเฉินรู้ตัวว่ากุญแจหายไป คนแรกที่เขาจะสงสัยต้องเป็นฉันแน่ๆ ฉันไม่สามารถรับความเสี่ยงเช่นนี้ได้ ดังนั้น ฉันไม่สนใจว่าคุณจะใช้วิธีไหนฉันให้เลาคุณแค่สองวัน ฉันจะต้องเอากุญแจดอกนี้คืนกลับที่เดิม "

ฉู่เซวียนรู้สึกรำคาญ " ฉันรู้แล้ว ช่วงนี้เธอก็พยายามอย่าให้เย่ฉ่าวเฉินคิดถึงเรื่องที่จะไปตรวจสอบตู้เซฟก็พอแล้ว "

" รู้แล้ว" มู่เวยเวยลุกขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ หยิบกระเป๋าขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานของฉู่เซวียน

.......

บริษัทจินตุ้น ห้องนิรภัยระดับมืออาชีพและปลอดภัยที่สุดในเมือง A ตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีเหตุการณ์ขโมยเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว มีความน่าเชื่อถือสูงมาก

เวลาหนึ่งทุ่มเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเวรกัน

" ได้ยินมาว่าสองวันมานี้มีเหตุการณ์ไม่สงบ พวกคุณเป็นทีมที่ต้องอยู่กะดึกต้องระมัดระวังและรอบคอบให้มากๆ "ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยบอกกับหัวหน้าทีม

" คุณสบายใจได้ผู้จัดการ " หัวหน้าทีมพูด

ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยพยักหน้าแล้วไปเปลี่ยนชุดเพื่อเลิกงาน หัวหน้าทีมหยิบปืนออกมา แล้วยืนเฝ้าด่านแรกของการเข้าสู่ห้องนิรภัย

เวลาห้าทุ่มกว่า จู่ๆรองผู้จัดการบริษัทจินตุ้นก็เดินมาที่ห้องใต้ดิน หัวหน้าทีมรีบเก็บปืนลง และพูดกับเขาว่า "ประธานเฝิง มาที่นี่มีเรื่องอะไรรึเปล่า? "

" ฉันได้รับแจ้งมาว่า ช่องระบายอากาศของโซน C มีปัญหา ฉันจะไปตรวจดูหน่อย " ในขณะที่พูดอยู่ผู้จัดการเฝิงก็กำลังจะเดินเข้าไป แต่กลับโดนหัวหน้าทีมขวางไว้

" ประธานเฝิง ตามกฎระเบียบแล้ว ท่านไม่สามารถเข้าไปคนเดียวได้ อีกทั้งตอนนี้เป็นตอนกลางคืนท่านควรจัเลิกงานแล้ว "

ประธานเฝิงไม่ได้เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ต่ำต้อยอย่างเขาอยู่ในสายตา " ฉันจะเลิกงานเวลาไหน ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างแกมาบอก อีกอย่างฉันแค่เข้าไปดูเฉยๆไม่กี่นาทีก็ออกมาแล้ว "

หัวหน้าทีมยังคงปฏิเสธ " ไม่ได้ มันไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ "

ประธานเฝิงจ้องหน้าเขาอย่างเย็นชา จู่ๆก็ยิ้ม " ฉันจำได้ว่าแกนามสกุลกง ที่บ้านพึ่งคลอดลูกผู้ชาย และพ่อก็ป่วยตลอดทั้งปี ใช่ไหม?"

หัวหน้าทีมมองหน้าเขาอย่างเย็นชา " ประธานเฝิง นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของผม "

ประธานเฝิงเดินขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดว่า " เสี่ยงกง พวกเราล้วนแต่ทำงานให้กับบริษัท โซน C อยู่ในความรับผิดชอบของฉัน พรุ่งนี้เจ้านายจะมาตรวจสองฉันไม่อยากให้มีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงอยากเข้าไปเดินดู นายไม่ต้องกังวล ในห้องนิรภัยมีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมดฉันจะทำอะไรได้? "

หัวหน้าทีมก็ยังคงปฏิเสธและพูดคำเดิม " ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ "

" เสี่ยวกง ฉันได้ยินมาว่าปกติคุณทำงานจริงจังมาก ผู้จัดการของพวกแกก็จะเกษียณปลายปีนี้แล้ว ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยคนใหม่จะเลือกมาจากคุณและหัสหน้าทีมอีกสองคนที่เหลือ นายอำนวยความสะดวกให้ฉันครั้งนี้ พอถึงเวลานั้นฉันก็จะช่วยเหลือนาย โอเคไหม? "

หนังตาของหัวหน้าทีมกระตุก เขากัดริมฝีปากล่างและไม่ได้พูดอะไร

ผู้จัดการเฝิงเอามือไขว้หลัง และเอามีดสั้นออกจากแขนเสื้อ เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว ถ้าหัวหน้าทีมยังไม่ยอมให้เขาเข้าไปแบบนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลองเสี่ยงดู

" ได้ แต่คุณต้องรีบออกมา " หัวหน้าทีมยอมประนีประนอมให้

เขารีบเก็บมีดสั้นกลับไปไว้ที่แขนเสื้ออย่างเดิม ผู้จัดการเฟิงพูดอย่างยิ้มแย้ม " ฉันจะออกมาให้เร็วที่สุด "

เดินผ่านหน้าเขาไป ประตูเหล็กบานหน้าด้านนอกค่อยๆเปิดออก ด้านในยังมีประตูกันระเบิดอีกบานหนึ่ง หัวหน้าทีมใส่รหัสลงไป ประตูกันระเบิดบานนั้นก็ค่อยๆเปิดออก

ผู้จัดการเฝิงรีบเข้าไปด้านใน ภายในสว่างจ้าไปหมด เขารีบตรงไปที่บันได และเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินสาม ที่นี่ก็คือโซน C ที่เขาเดินตรวจทุกสองวัน

ประตูเป็นการเปิดด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ผู้จัดการเฝิงใช้นิ้วหัวแม่มือของตัวเองสแกนก่อนหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หยิบถุงกระดาษออกมาจากกระเป๋าของชุดสูทจากนั้นก็เอาผิวหนังเทียมบางๆออกจากถุงกระดาษ บนนั้นเป็นลายนิ้วมือของผู้จัดการอีกคน เขาใส่ผิวหนังเทียมนั้นที่มือเขาอย่างระมัดระวังและใช้ผิวหนังเทียมสแกนนิ้วไปที่ประตูอีกครั้งหนึ่ง

" ติ๊ด - - " แสงไฟสีเขียวกระพริบ ประตูหนาที่กันระเบิดและป้องกันการเจาะเปิดออก

ที่นี่เป็นคลังสมบัติโซน C ที่มีอุณหภูมิและความชื้นคงที่ตลอดทั้งปี และติดตั้งระบบควบคุมขั้นสูงของโลก เมื่อไฟแสดงสถานะผิดปกติ การควบคุมหลักจะปรากฏเป็นไฟสีแดง ดังนั้นจะไม่สามารถเกิดปัญหาในช่องระบายอากาศได้เลย

ผู้จัดการเฝิงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มากอย่างเห็นได้ชัด แค่ก้าวเท้าเข้ามาโซน C ก็หาตู้เซฟหมายเลข 108 เจอในพริบตา เขาหยิบกุญแจออกมาสองดอก เปิดตู้เซฟด้วยมือที่สั่นไปหมด ทันทีที่เขาเห็นแผ่นหนังแกะเก่าๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นในห้องใต้ดินที่เงียบงันมันน่ากลัวมาก

ผู้จัดการเฝิงรู้ตัวว่าตัวเองโดนจับได้แล้ว เขาหยิบแผ่นหนังแกะเก่าๆนั้นยัดใส่ในเสื้อผ้าและไปยังทางออกทันที แต่ว่าเขาจะหนีพ้นได้อย่างไร? ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากโซน C เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ