มิน่าล่ะตอนนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้สนใจกระเป๋าเดินทางใบนี้นัก ที่แท้ข้างในไม่ได้มีเสื้อผ้า แต่มีคนอยู่
และที่เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกเจ็บใจมากที่สุดคือ เมื่อวานเขาเพิ่งจับกระเป๋าใบนั้นไป
ตอนนั้นผิงอันอยู่ใกล้เขาแค่นี้เอง ทำไมเขาถึงสัมผัสไม่ได้
เย่ฉ่าวเฉินทุ่มกระเป๋าเดินทางลงพื้นด้วยความโกรธจัด แรงของเขาทำให้กระเป๋าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้างๆตกใจถอยหลังไป
เย่ฉ่าวเฉินกำรองเท้าของผิงอันแน่น ตาแดงก่ำ ถามว่า "ห้องนี้ใช้ชื่ออะไรเช็คอิน"
ผู้จัดการตอบกลับอย่างกล้าๆกลัวๆว่า "ผมเช็คสักครู่ครับ" จากนั้นก็รีบวิ่งไป
เขาเคยเจอเย่ฉ่าวเฉินแค่ในทีวี ในนั้นเขาดูเป็นผู้ชายสุขุมสุภาพและใจเย็น คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีด้านที่น่ากลัวขนาดนี้
"รีบเช็คซิ ใครเข้าพักห้อง 217"
พนักงานสาวรีบเช็คข้อมูล จากนั้นตอบว่า "ชื่อจางเหว่ยค่ะ"
"จางเหว่ย?" เย่ฉ่าวเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง ฟังดูก็รู้ว่าเป็นชื่อปลอม
"ตอนเช็คอินเขาได้แสดงเอกสารยืนยันตัวตนไหม?"
"แสดงค่ะ" พนักงานกล่าวอย่างกล้าๆกลัวๆ สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินเหมือนจะกินคนได้อยู่แล้ว
"รูปในบัตรกับตัวจริงหน้าเหมือนกันไหม?" เย่ฉ่าวเฉินถามต่อ
พนักงานสาวตอบว่า "มองไม่เห็นค่ะ เขาใส่หน้ากากอนามัย และบอกว่าไม่สบายเลยไม่ยอมถอดหน้ากากค่ะ"
เย่ฉ่าวเฉินรู้ดีว่ามันต้องเป็นแบบนี้ จึงถามต่อว่า "เมื่อกี้เธอเห็นเขาออกไปจากที่นี่หรือยัง?"
"ไม่เห็นค่ะ" พนักงานสาวตอบ เพราะเมื่อกี้พวกเธอกำลังเม้ามอยกับเพื่อนๆเรื่องเย่ฉ่าวเฉินอยู่ จึงไม่ได้สังเกตคนเข้าออกเท่าไหร่
เย่ฉ่าวเฉินโกรธจัด ตบลงบนโต๊ะหน้าประชาสัมพันธ์อย่างแรง และเดินออกไป
กวินที่อยู่หน้าประตูโรงแรมคิดในใจว่า งานนี้ง่ายเหลือเกิน
อีกฝั่งด้านของหน่วยเหยี่ยวราตรี
เขาและฉู่เซวียนเดินหารอบๆ จนคิดว่าน่าจะไม่ได้เบาะแสอะไร ทันใดนั้นฉู่เซวียนก็เห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นเรียกเธอ "จ้าวถิงอวี่!"
ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามาเห็นฉู่เซวียน กำลังจะอ้าปากพูด ก็เห็นกลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขากำลังวิ่งเข้ามา
จ้าวถิงอวี่สบถว่า ฟัค และรีบวิ่งหนี
บนนถนนมีคนจำนวนไม่น้อย และผู้หญิงคนนี้ก็มีรูปร่างไม่สูงมาก ทำให้ง่ายต่อการหลบอยู่ในฝูงชน
แต่หน่วยเหยี่ยวราตรีก็ฉลาดพอที่จะวิ่งตามไปด้วยตะโกนขอทางไปด้วย
เหยี่ยวราตรีรีบวิ่งกลับไปอีกทาง และเป็นไปตามคาด เขาเห็นเธอวิ่งมาทางนั้น พวกเขาต่อสู้กันภายในซอกตึกเล็กน้อย
ถึงแม้จ้าวถิงอวี่จะเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังอ่อนหัดเกินไปสำหรับฝีมือของหน่วยเหยี่ยวราตรี เพียงแค่ไม่กี่นาที พวกเขาก็ล็อคคอและเอาแขนเธอพาดไว้ข้างหลัง
"อย่าขยับ มีดผมมันไม่มีตามองนะ" เหยี่ยวราตรียิ้มมุมปาก
จ้าวถิงอวี่กัดฟันด้วยความโกรธ และเดินออกจากซอกตึกตาพร้อมกับหน่วยเหยี่ยวราตรี
พวกบอดี้การ์ดที่ตามมา เงยหน้ามองผู้หญิงด้วยสีหน้าเรียบ
"แจ้งบอสว่าเราเจอตัวผู้หญิงคนนี้แล้ว"
"ครับ"
เวลานี้ ฉู่เซวียนก็ปรากฎตัวที่ชั้นสอง เมื่อจ้าวถิงอวี่เห็นก็เตรียมจะวิ่งไปซัดเขา แต่ก็ถูกเหยี่ยวราตรีล็อคเอาไว้ จึงทำได้แค่ก่นด่าเขา "ฉู่เซวียน นายกล้าหักหลังเขา"
ฉู่เซวียน ได้แค่ตอบกลับว่า "จ้าวถิงอวี่ ฉันกำลังช่วยเขาต่างหาก"
"โกหก!" จ้าวถิงอวี่ตวัดเท้าใส่เขา ทำให้มีดที่จี้อยู่คอเกี่ยวโดนเธอจนเลือดซึม
"เธอใจเย็นก่อนดีกว่า ผมบอกแล้วไงว่ามีดผมไม่ได้มีตา" เหยี่ยวราตรีเตือนเธอ เขาจะฆ่าเธอตอนนี้เลยก็ได้ แต่นี่ไม่ใช่คำสั่งของเจ้านาย เขาจึงไม่ทำ
จ้าวถิงอวี่ จ้องไปที่ฉู่เซวียนด้วยความโกรธ "ฉู่เซวียนแกรู้ดีว่าเขาเกลียดคนทรยศหักหลังมากที่สุด แต่ตอนนี้แกกลับร่วมมือกับไอ้เย่ฉ่าวเฉิน เขาจะไม่มีวันให้อภัยแกแน่ จำไว้"
ฉู่เซวียนตอบกลับเสียงเรียบว่า "ไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นอะไร แต่ฉันไม่อยากเห็นเขาทำผิดต่อไปแล้ว"
"เขาผิดยังไง? เย่ฉ่าวเฉินมันทำลายทุกอย่างของเขา ทำให้เขาลำบากมาหลายต่อหลายปี และตอนนี้เขาแค่ต้องการแก้แค้นมัน เขาผิดตรงไหน?" จ้าวถิงอวี่ตะโกนตอบ
ฉู่เซวียนได้แต่ถอนหายใจและตอบเธอว่า "เขาผิดตั้งแต่ที่อยากได้ของที่ไม่ใช่ของเขาแล้ว ผ่านเรื่องมามากมายขนาดนี้ เธอยังไม่เข้าใจเหตุผลอีกหรือ?"
จ้าวถิงอวี่แสยะยิ้ม และตอบกลับว่า "โลกของฉันไม่มีคำว่าเหตุผล คำนั้นมีไว้ให้แค่พวกอ่อนหัดอย่างพวกแกฟังเท่านั้นแหละ โลกของฉันมีแค่ผิดกับถูก และสิ่งที่เขาทำก็ถูกทั้งหมด อีกอย่างนะ แผนที่นั่นก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของจริงๆ แล้วทำไมพวกเราจะแย่งมันมาไม่ได้?"
ฉู่เซวียนยืนมองอย่างเวทนา เธอเหมือนเขาเมื่อก่อนมาก ไม่สนถูกผิดซักอย่าง
บรรดาผู้ช่วยหญิงลุกลี้ลุกลนใส่เสื้อผ้าและวิ่งออกไป จากนั้นผู้จัดการสาวสวยก็ถามกับเหยี่ยวราตรีว่า "นี่คุณไม่ใช่ตำรวจ?"
เหยี่ยวราตรีขี้เกียจจะโกหกต่อจึงพูดว่า "ครับ ผมไม่ใช่"
"งั้นเชิญคุณรีบออกไปจากที่นี่ พวกคุณทำให้ที่นี่วุ่นวายแบบนี้ พวกเราจะทำงานกันอย่างไร?" ผู้จัดการสาวกล่าว
เหยี่ยวราตรีตอบกลับอย่างเซ็งๆว่า "ถ้าจะโทษ ก็ไปโทษผู้หญิงที่ผลีผลามเข้ามาคนนั้น พวกเราแค่ไล่ตามเธอมา"
"นี่ คุณพูดดีๆได้ไหม?"
เหยี่ยวราตรีกำลังจะตอบกลับ แต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาเสียก่อน เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเจ้านายของเขา เย่ฉ่าวเฉินเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดหม่น
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาเดินเข้าไปในห้องก็บีบคอของจจ้าวถิงอวี่ขึ้น
"ลูกฉันอยู่ที่ไหน?"
จ้าวถิงอวี่เงยหน้ามองเขา และหัวเราะมุมปาก "ฉันไม่รู้ซิ"
"อยู่กับไอ้กวินใช่ไหม?"
เธอแกล้งพูดและขำต่อว่า "ฉันไม่รู้เหมือนกัน"
"อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำผู้หญิงนะ" เย่ฉ่าวเฉินกัดฟันกรอด
"ก็มาซิ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย
"เพี๊ยะ!" เสียงมือกระทบหน้าดังลั่น ถ้าไม่ใช่เพราะเหยี่ยวราตรีจับเธอไว้อยู่ ป่านนี้คงลงไปกองที่พื้นแล้ว
จ้าวถิงอวี่ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาทำ เงยหน้าไปมองเขาด้วยความโกรธ
"เย่ฉ่าวเฉินนี่แกกล้าทำผู้หญิงหรือ?"
"เพี๊ยะ!" เสียงลั่นอีกหนึ่งฉาด
เย่ฉ่าวเฉินบีบคอเธอ เห็นเลือดเธอไหลลงมาตามมุมปาก และพูดต่อว่า "พวกแกเอาลูกของฉันไป แล้วคิดว่าฉันจะต้องทำดีกับพวกแกหรือ? แกมันก็เป็นแค่นังปีศาจในร่างผู้หญิงแค่นั้นแหละ อย่าได้คิดว่าฉันจะเมตตา"
"โอเค งั้นแกก็ตบฉันเลย ยังไงซะฉันก็ไม่บอก" จ้าวถิงอวี่ท้าทาย ให้ตายอย่างไร เธอก็จะไม่ยอมปริปาก
"การตายมันง่ายเกินไปสำหรับเธอ หน่วยเหยี่ยวราตรี พี่น้องทั้งหลาย ไหนๆเหนื่อยกันมากแล้ว แถมยังไม่มีที่ระบายอารมณ์กันอีกใช่ไหม? เอาซิ เอานังตัวดีนี่กลับไปเล่นด้วยซิ เธอเป็นของพวกนายแล้ว" พูดจบก็หันมามองจางถิงอวี่ด้วยตาแดงก่ำ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เล่นจนมันตาย"
เขานึกภาพตอนพวกมันยัดผิงอันลงกระเป๋าเดินทาง ให้ผิงอันกินยา ทำเหมือนลูกของเขาไม่ใช่คน เขาก็รู้สึกโกรธจนอยากจะฆ่าเธอให้ตายตอนนี้เลย
จ้าวถิงอวี่ได้ยินคำที่เย่ฉ่าวเฉินพูดเมื่อกี้ และได้ยินคำที่หน่วยเหยี่ยวราตรีตะโกนรับทราบ เธอถึงตั้งสติได้ และเรียกเขาเสียงดังลั่น "เย่ฉ่าวเฉิน แกจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ"
เย่ฉ่าวเฉินหยุดเดิน หันมายิ้มเย็นชาให้เธอ "ตอนที่พวกแกทำลูกฉัน แกไม่คิดอะไรบ้างหรือ ตอนนี้ฉันทำกับแกแบบนี้ ถือว่าใจดีมากพอแล้ว" พูดจบ ก็เตรียมเดินออกไป
"แกทำแบบนี้กับฉัน แกอย่าหวังเลยว่าเขาจะปล่อยลูกของแก" จ้าวถิงอวี่กล่าว
ตอนนี้จ้าวถิงอวี่รู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ จึงรีบตะโกนรั้งเขาไว้ก่อนจะหายไป " เดี๋ยว ฉันยอมพูดก็ได้"
เย่ฉ่าวเฉินชะงักฝีเท้าอีกครั้ง และหันมาพูดว่า "พูดมา"
จ้าวถิงอวี่สูดหายใจเข้าลึกๆ และถามว่า "ถ้าฉันยอมบอก แกสัญญาได้ไหมว่าจะปล่อยกวินไป ไม่ฆ่าเขา"
"ฉันสนใจแต่ชีวิตของลูกชายฉัน คนอื่นจะเป็นจะตายยังไง ฉันไม่สนใจ เพราะฉะนั้น" เขาหยุดครู่หนึ่งและยิ้มอย่างชั่วร้าย พูดต่อว่า "ถ้ามันไม่ต้องการชีวิตฉัน ฉันก็จะปล่อยมันไป"
จ้าวถิงอวี่คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดง่ายแบบนี้ จึงพูดต่อว่า "ไม่กี่วันมานี้ พวกแกตามเราแน่นหนาเกินไป เพราะฉะนั้นเวลาปกติพวกฉันมักจะแยกกัน รอให้แน่ใจว่าปลอดภัย ถึงจะโทรนัดกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...