เจ้าของร้านครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า "เกือบห้านาทีแล้วมั้ง"
"ขอบคุณมากครับ" ก่อนที่เย่เฉาเฉินจะเดินไปถึงประตูเขาก็ถูกเจ้าของร้านเรียกไว้"เดี๋ยวก่อน"
เย่ฉ่าวเฉินนึกว่าจะมีข้อมูลอะไรเปิดเผยออกมา แต่เจ้าของร้านกลับพูดว่า "รบกวนคุณจ่ายค่าขนมปังหมูหยองด้วย"
"ทำไมฉันต้องจ่ายฉันไม่ได้ซื้อ" เย่ฉ่าวเฉินถามด้วยความประหลาดใจ
เจ้าของร้านยิ้มเจื่อน "ผู้ชายคนนั้นไม่ได้จ่ายเงินตอนออกไป บอกว่าถ้าคุณไม่มาหาเขาสามารถหักเอาจากโทรศัพท์ได้ แต่ถ้าคุณกลับมาและเอาโทรศัพท์ไปคุณจะต้องจ่ายเงิน"
เย่ฉ่าวเฉินอยากจะด่าสาปแช่ง "ไอ้เวรเอ้ย" แต่เมื่อคิดว่าขนมปังที่เขาซื้อไปอาจจะให้ผิงอันกินก็พร้อมจ่ายเงินให้ทันที
กาวินค่อนข้างเป็นคนที่มีความตื่นตัวและระมัดระวังตัวสูง ไม่รู้ว่ามันจับประเด็นอะไรได้จากคำพูดของจ้าวถิงอวี่หรือเห็นจากการที่จ้าวถิงอวี่ถูกไล่ล่า
ควบคุมอารมณ์ให้สงบลง เสียงผู้คนนับร้อยนับพันรอบด้านดังเข้าในโสตประสาท เสียงคุยกันที่มีทั้งเสียงหัวเราะร้องไห้และก่นด่า แต่ไม่ได้ยินเสียงที่ไร้เดียงสาและอ่อนนุ่ม
ไม่รู้ว่าผิงอันยังคงหลับอยู่หรือไม่ได้อยู่บริเวณแถวนี้?
ผ่านไปแค่ห้านาที ไอ้บ้านั้นมันไปหลบอยู่ที่ไหน?
เย่ฉ่าวเฉินเดินช้าๆไปตามทิศทางที่เจ้าของร้านเค้กบอก สักพักโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้นไม่ใช่เสียงเรียกเข้าที่เขาคุ้นเคย แต่เป็นโทรศัพท์ของกาวิน
หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่คุ้นเคยปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เย่ฉ่าวเฉินกดรับทันที
ฝั่งนั้นไม่พูดอะไร เย่ฉ่าวเฉินก็ไม่พูดอะไรเหมือนกัน แต่ได้ยินเสียงรถเสียงคนดังเข้ามา
สิบวินาทีต่อมาเสียงที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยในเวลาเดียวกันของกาวินก็ดังขึ้น
"เย่ฉ่าวเฉิน?"
"ใช่ ฉันเอง" เย่ฉ่าวเฉินกวาดสายตาไปบริเวณรอบๆ" ถ้าแกอยากได้อะไรให้มาลงที่ฉัน จับเด็กคนหนึ่งไปมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
"ได้ งั้นเอาเงินจำนวนห้าสิบล้านหยวนกับเฮลิคอปเตอร์หนึ่งเครื่องมาให้ฉัน แลกกับตัวของลูกชายแก"
เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างไม่ลังเล "ได้ ฉันรับข้อเสนอนี้ของแก"
อย่าว่าแต่ห้าสิบล้านหยวนเลย ถ้ามันต้องการห้าร้อยล้านหยวนเย่ฉ่าวเฉินก็ยอมให้ ไม่ใช่ต้องการเงินเหรอ? เงินหมดเขายังหามาใหม่ได้แต่ถ้าลูกได้เป็นอะไรไปแล้วไม่สามารถกลับมาได้อีกตลอดไป
"ประธานเย่ผู้ร่ำรวยมั่งคั่ง นึกไม่ถึงเลยว่าจะยอมรับข้อเสนออย่างง่ายดายขนาดนี้"กาวินพูดประชดประชัน
"ไม่ต้องพูดมาก จะให้โอนให้หรือให้เป็นเงินสด แล้วเจอกันที่ไหน"
"วันนี้ตอนห้าโมงเย็นฉันจะรอแกที่ชายหาดฉันต้องการเงินสดและฉันหวังว่าแกจะเอาเงินวางไว้มันบนเฮลิคอปเตอร์"
"ได้ ห้าโมงเย็นใช่ไหม ฉันไปแน่นอน หวังว่าแกจะรักษาคำพูดนะ"
"แน่นอนอยู่แล้ว ฉันก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง"
เย่ฉ่าวเฉินด่าในใจ นักธุรกิจ? อย่าเป็นตัวทำให้นักธุรกิจมีมลทินมัวหมอง
"เดี๋ยวก่อน ฉันอยากฟังเสียงของผิงอัน เพื่อยืนยันว่าลูกฉันยังไม่เป็นอะไรไป"
เย่ฉ่าวเฉินขอร้องอีกฝ่าย
"เขากำลังนอนหลับอยู่"
"ไอ้สารเลว แกทำอะไรลูกฉัน" เย่ฉ่าวเฉินร้องตะโกนอยู่บนถนน ทำให้ผู้คนต่างหันมามองเขา
"เย่ฉ่าวเฉิน ถ้าแกอยากช่วยชีวิตลูกแก นี่เป็นโอกาสเดียวแล้ว อย่ามาเรียกร้องนู่นนี่นั่นกับฉันมากมาย ถ้าแกไม่เชื่อว่าลูกแกหลับอยู่งั้นตอนห้าโมงเย็นก็ไม่ต้องมาแล้ว" พูดจบกาวินก็ตัดสายทันที
เดิมทีกาวินอยากเอาผิงอันไปด้วยแต่เหตุการณ์ตอนนี้เขาทำสิ่งนี้ไม่ได้ คิดแล้วคิดอีกทำไมเขาถึงเอาลูกชายของเย่ฉ่าวเฉินมาเดิมพันกับชีวิตตัวเองด้วย? ถึงเป็นการแก้แค้นแต่จะคุ้มค่าอะไร สู้เอาเงินก้อนหนึ่งไปเริ่มชีวิตใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ
ทางด้านเย่ฉ่าวเฉินหลังวางสายด้วยความโกรธเขาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงที่พื้นแตกออกเป็นชิ้นๆ
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายสองโมง ยังเหลือเวลาอีกสามชั่วโมงที่จะถึงเวลานัดหมาย
เตรียมแผนการทุกอย่างให้เรียบร้อยและมิดชิด ครั้งนี้ต้องเอากาวินมาชดใช้ในสิ่งที่เขาทำให้สาสม
เย่ฉ่าวเฉินโทรไปที่ธนาคารเพื่อเตรียมเงินทำเอาผู้จัดการธนาคารตกตะลึงใจ "ประธานเย่ต้องการเงินสดจำนวนมากในคราวเดียว ทางเราไม่มีเงินในคลังที่เพียงพอขนาดนั้นครับ"
"นั้นมันเป็นเรื่องของพวกคุณ รีบไปคิดหาวิธีของพวกคุณเถอะ อีกหนึ่งชั่วโมงผมจะไปถึงและถอนเงินออกมา"
อีกฝ่ายไม่ทันได้พูดอะไรเย่ฉ่าวเฉินก็ตัดสายทันที ทุกปีเขาฝากเงินกับธนาคารนี้เป็นจำนวนหลายร้อยล้านหยวน แต่ทำไมถอนออกมาแค่ไม่กี่สิบล้านถึงถอนไม่ได้ล่ะ
หลังจากนั้นเย่ฉ่าวเฉินโทรหามู่เทียนเย่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ มู่เทียนเย่เงียบไปชั่วขณะและพูดอะไรบางอย่าง เย่ฉ่าวเฉินเลยพูดตอบกลับ "นายคิดเหมือนกันกับฉัน"
"งั้นพวกเราไปเจอกันที่ธนาคาร หลังจากนั้นไปที่ชายหาดนั้นด้วยกัน ฉันอยากเห็นหน้าไอ้สารเลวนั้นเต็มทนแล้ว"
"โอเค แล้วเจอกัน"
เมื่อเตรียมเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เย่ฉ่าวเฉินก็ขับรถไปยังธนาคารที่นัดหมายกันไว้
เมื่อเห็นว่าเขามาถึงที่ด้วยตัวเองผู้จัดการธนาคารก็รีบเชิญเขาเข้าไปในห้องรับแขก เสิร์ฟชาและรินน้ำด้วยความกระตือรือร้น "ประธานเย่เดี๋ยวเงินสดจะเตรียมพร้อมในไม่ช้านี้"
"คุณเพิ่งพูดว่ามีไม่พอไม่ใช่เหรอ" เย่ฉ่าวเฉินพูดประชด
ผู้จัดการธนาคารยิ้มแห้ง "คือไม่ได้มีมากขนาดนั้นอ่ะครับ เพิ่งไปเอาจากสาขาอื่นมาเพิ่ม ถึงจะยากแค่ไหนพวกเราก็ไม่อยากให้ธุระของประธานเย่ล่าช้า"
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่กล้าขัดลูกค้าคนสำคัญของธนาคาร ผลงานในปีหน้ายังต้องพึ่งพาเศรษฐีที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอยู่
"ผมมีบางเรื่องจะให้คุณช่วย"
"สั่งมาเลยครับประธานเย่"
เย่ฉ่าวเฉินเข้าไปกระซิบข้างหูของเขา
ผู้จัดการธนาคารทำสีหน้าแปลกๆ "ทำแบบนี้มันจะเหมาะสมเหรอครับ"
เย่ฉ่าวเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ทำไมจะไม่เหมาะสม คุณแค่ทำตามแบบนี้ก็พอ อย่างอื่นอย่าถามเยอะ อีกอย่างให้รถขนเงินไปส่งให้ผมด้วย เงินสดจำนวนมากรถของผมใส่ได้ไม่พอ"
"โอเคครับ อันนี้ไม่มีปัญหา"ผู้จัดการธนาคารตอบรับอย่างเต็มที่
"รีบไปสั่งการเถอะ เวลานี้ผมค่อนข้างรีบร้อน" เย่ฉ่าวเฉินพูดเร่งเขา
"รับทราบครับ เชิญประธานเย่นั่งรอก่อนนะครับ ผมจะรีบไปจัดการให้ครับ"
"อืม"
ในห้องรับแขกเหลือแค่เย่ฉ่าวเฉินคนเดียวเขากำลังคิดแผนการที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านไปประมาณสิบนาทีมู่เทียนเย่เดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
มู่เทียนเย่ถามเขาว่า"การเตรียมเงินเป็นอย่างไรบ้าง?"
"ธนาคารกำลังทำเรื่องอยู่" เย่ฉ่าวเฉินชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆ "เชิญนั่งก่อน"
มู่เทียนเย่กดน้ำดื่มแล้วถามว่า "ทำไมอยู่ๆเขาถึงต้องการเงินค่าไถ่ล่ะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน" เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้ว "แต่นี่เป็นความคิดของคนปกติไม่เช่นนั้นมันจะเอาตัวผิงอันไปทำไม? ต้องการแก้แค้นฉัน?"
"บางทีมันอาจต้องการเลี้ยงดูผิงอันให้เติบโต แล้วให้กลับมาเพื่อหาทางแก้แค้นนายก็ได้"
เย่ฉ่าวเฉินมองเขาด้วยความงงงัน "มู่เทียนเย่ นายดูซีรีส์ดูละครเยอะเกินไปหรือเปล่า อะไรที่มันเวอร์เกินไปยังนึกออกมาได้"
"ฮ่าฮ่า ไม่ใช่เพราะดูซีรีส์ดูละครหรอก แต่เป็นเพราะอ่านนิยายต่างหาก หลังจากที่เสี่ยวซีหร่านตั้งครรภ์เขาก็ชอบอ่านนิยาย พออ่านจบก็มาเล่าให้ฉันฟัง "
เย่ฉ่าวเฉินลองจินตนาการตามที่มู่เทียนเย่พูดก็นึกขำออกมา
สิบนาทีต่อมาผู้จัดการธนาคารกลับมาเขาถึงกับผงะเมื่อเห็นมู่เทียนเย่ เขาจึงเข้าไปจับมือทักทายอย่างกระตือรือร้น“ สวัสดีครับประธานมู่ ผมเคยได้ยินชื่อคุณมานานแล้ว ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะได้เจอตัวเป็นๆ”
"เอาล่ะ อย่าเพิ่งมาพิธีรีตองตอนนี้ เงินเตรียมพร้อมหรือยัง?" เย่ฉ่าวเฉินขัดจังหวะคำทักทายของเขา
ผู้จัดการธนาคารยิ้มอย่างเก้อเขิน แล้วปล่อยมือของมู่เทียนเย่และกล่าวว่า "พร้อมแล้วครับ เชิญท่านทั้งสองไปตรวจสอบได้เลยครับ"
"อืม"
"เชิญทางนี้ครับ"
ผู้จัดการธนาคารเชิญทั้งสองคนไปยังคลังเก็บเงินของธนาคารที่อยู่ด้านนอก มีบอดี้การ์ดคุ้มกันหลายคนและมีอาวุธครบมือคุ้มกันอยู่ มีกล่องหนาสิบกว่ากล่องวางอยู่บนโต๊ะ เย่ฉ่าวเฉินลองเปิดสุ่มหนึ่งกล่องข้างในมีธนบัตรร้อยหยวนรวมกันเป็นปึกๆ
"กล่องนี้มีห้าล้านหยวนครับ ส่วนสิบกล่องนั้นมีห้าสิบล้านหยวนครับ เชิญประธานเย่ตรวจสอบอีกครั้งครับ" ผู้จัดการธนาคารพูดตามกฎของธนาคาร
เย่ฉ่าวปิดกล่องที่เพิ่งตรวจสอบทั้งหมดแล้วพูดน้ำเสียงเคร่งขรึม
"เอาล่ะ เอาเงินทั้งหมดใส่เข้าในรถ แล้วตามฉันไป"
"รับทราบครับ" ผู้จัดการธนาคารรีบสั่งการบอดี้การ์ดให้ขนเงินใส่เข้าไปในรถ
หลังจากนั้นเย่ฉ่าวขับรถนำไปยังลานจอดที่ตกลงกันไว้ มีเฮลิคอปเตอร์จอดรอเรียบร้อยแล้ว
เย่ฉ่าวเฉินสั่งการขนย้ายเงินสดสิบกว่ากล่องไปไว้ในเฮลิคอปเตอร์ที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีน้อยมาก
"ของที่ฉันต้องการล่ะ" เย่ฉ่าวเฉินหันไปถามสายสืบของเขา
สายสืบของเขายื่นรีโมทขนาดเล็กให้เขาแล้วชี้ไปที่มุมที่ลับที่สุดแล้วพูดว่า "อยู่ตรงนั้นครับ"
"ติดตั้งเสร็จแล้วเหรอ?"
"เจ้านายวางใจได้เลยครับ ไม่มีปัญหาแน่นอน"
เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้า "โอเค"
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น
"ออกเดินทางเถอะ" เย่ฉ่าวเฉินสั่งการ
"เจ้านายครับ ผมต้องการไปด้วย" สายสืบที่อยู่ข้างๆเขาพูดขึ้นมา "ผมตามหาไอ้สารเลวนั้นมาครึ่งปี ผมไม่เคยเจอตัวมันเป็นๆอยากไปเห็นว่าหน้าตามันเป็นยังไงครับ"
เย่ฉ่าวเฉินจ้องมองเขาและในที่สุดก็ตอบตกลงตามคำขอของเขา"ขึ้นรถ เอ่อ แล้วฉู่เซวียนล่ะ?”
"อยู่ในรถคันนั้นครับ"
เย่ฉ่าวเฉินหันหน้าไปมอง ก่อนเดินไปที่คันนั้น "กาวินเตรียมตัวจะหนีแล้ว นายต้องการจะไปเจอมันเป็นครั้งสุดท้ายไหม?"
ฉู่เซวียนที่นั่งอยู่ในรถมองเขาด้วยความประหลาดใจ "นายจะพาฉันไปเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...