วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 277

ตอนเย็น เย่ฉ่าวเฉินอาบน้ำให้ผิงอันเสร็จ ก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป ขณะเดียวกันมู่เวยเวยก็กำลังอ่านหนังสืออยู่

เขาเช็ดผมให้ลูกชายและถามเธอไปด้วยว่า “คุณกำลังอ่านหนังสืออะไรอยู่?”

มู่เวยเวยยกปกหนังสือขึ้น “นิยายโรแมนติกแฟนตาซี พี่สะใภ้แนะนำฉันมา มันสนุกมาก”

เย่ฉ่าวเฉินหัวเราะและส่ายหัว เมื่อคิดได้ว่าสมองของมู่เทียนเย่บางส่วนนั้นถูกเอนเอียง เขาแนะนำเธอว่า “ตัวหนังสือเล็กขนาดนั้น อย่าอ่านเลย เสียสายตาเปล่าๆ”

“อ้อ ฉันขออ่านบทนี้จบก่อนนะ กำลังถึงจุดสำคัญเลย” มู่เวยเวยพูดโดยไม่ได้หันกลับไปมอง

ผิงอันดูเหมือนจะสนใจมากจึงพูดว่า “แม่ครับ อ่านให้ผมฟังหน่อยสิ”

เอ่อ…….

“หนังสือแบบนี้ไม่เหมาะจะอ่านให้เด็กฟังน่ะ หนูให้พ่ออ่านนิทานให้ฟังแล้วกันนะ”

“ทำไมถึงไม่เหมาะกับเด็กครับ?” ผิงอันซักถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

มู่เวยเวยยากที่จะอธิบาย อาจพูดได้ว่าเนื้อเรื่องนั้นมันลามกเกินไปไหม ? หรือพูดถึงความเป็นอมตะและการกลายเป็นสัตว์ประหลาด? ผิงอันมีพลังลึกลับอยู่ในตัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าเขาเกิดจริงจังขึ้นมาล่ะจะทำอย่างไร?

เย่ฉ่าวเฉินกู้หน้าให้ภรรยา “เพราะสิ่งที่อธิบายอยู่ในนั้นมันลึกซึ้งเกินวัย รอลูกโตกว่านี้ ค่อยอ่านหยังสือพวกนี้แล้วกัน จะไม่ดีกว่านี้เหรอถ้าลูกได้อ่านมันเอง?”

“ผิงอันพยักหน้าอย่างว่าง่าย แต่จริงๆแล้วเขายังอยากรู้ว่าสิ่งที่ลึกซึ้งเหล่านั้นมันคืออะไรกันแน่

“แม่ครับ คืนนี้ผมขอนอนกับแม่นะครับ” ผิงอันฉวยโอกาสทิ้งผ้าขนหนูไว้ที่พ่อแล้วรับปีนขึ้นไปบนเตียงวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของแม่

“เย่ฉ่าวเฉินรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ได้”

“ทำไมล่ะครับ?” ผิงอันถามขึ้น เมื่อกี้ทั้งสองคนยังรักกันอยู่เลยมาตอนนี้กลับกลายเป็นศัตรูกันเสียแล้ว

“คุณแม่มีน้องสาวตัวน้อยอยู่ในท้อง ตอนกลางคืนลูกหลับจะเตะน้องเอาได้” เย่ฉ่าวเฉินแสดงออกอย่างจริงจรัง

ผิงอันกอดแขนเวยเวยแน่น “ผมไม่ดื้อหรอกครับและจะไม่เตะน้องด้วย”

“ลูกหลับไปแล้วจะรู้ตัวได้อย่างไรล่ะ?”

ผิงอันยืดคอ “งั้นพ่อนอนหลับ พ่อก็เตะน้องได้น่ะสิ”

เย่ฉ่าวเฉินพูดไม่ออกกะทันหัน “พ่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เตะหรอก”

“ชิ พ่ออย่ามาโกหกผม พ่อแค่อยากจะครอบครองแม่ไว้คนเดียว ไม่อยากให้ผมนอนกับแม่” ผิงอันไม่พอใจและโกรธมาก เขาหันกลับไปออดอ้อนมู่เวยเวย “แม่ครับ ผมไม่ได้เจอแม่ตั้งหลายวัน ผมคิดถึงแม่ ให้ผมนอนกับแม่นะครับ”

มู่เวยเวยคิดขึ้นได้ว่าผิงอันลำบากมาหลายวันก็ใจอ่อนลงทันที จึงพูดว่า “โอเค”เย่ฉ่าวเฉินขัดคำพูดของเธอ “ไม่ได้ ฉันไม่เห็นด้วย”

ผิงอันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เงยหน้ามองพ่อและพูดว่า “พ่อไม่รักษาคำพูด”

“ฉันเป็นพ่อนาย ถ้าฉันไม่รักษาคำพูดใครจะรักษาคำพูดล่ะ?”

ผิงอันชี้ไปที่ท้องนูนเวยเวยและพูดอย่างมีชัยว่า “น้องไงรักษาคำพูด”

เย่ฉ่าวเฉินอดหัวเราะไม่ได้ “น้องจะพูดได้อย่างไร ? เธอยังอยู่ในท้องแม่อยู่เลย”

“เชอะ ผมมีวิธีละกัน”พูดจบ ผิงอันก็ก้มหน้าไปใกล้ๆท้องมู่เวยเวยแล้วพูดว่า “น้องสาวครับ ฉันคือพี่ชายนะ ถ้าเธออยากให้พี่นอนข้างๆเธอ เธอดิ้นหนึ่งครั้ง ถ้าไม่อยากให้พี่นอนด้วยก็ดิ้นสองครั้ง”

ทั้งสามจ้องมองท้องนูนๆ ไม่กี่วินาทีต่อมา น้องสาวตัวน้อยที่อยู่ในท้องก็ยืดแขนออกมาหนึ่งที

ผิงอันหัวเราะอย่างชอบใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อดูสิ น้องขยับหนึ่งทีล่ะ เธอเห็นด้วยกับผม”

เย่ฉ่าวเฉินจำต้องยอมแพ้ วันนี้เขาโชคไม่ดีจริงๆ แพ้ตลอด

“นอนข้างๆแม่ได้ แต่อย่าเผลอเตะเชียวล่ะ”

ผิงอันตบลงที่หน้าอกน้อย “ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำหรอก”

และแล้ว ศึกแย่งชิงตำแหน่งข้างเตียงของมู่เวยเวย ก็จบลงด้วยชัยชนะของผิงอัน

ทว่า เย่ฉ่าวเฉินแทบมองไม่เห็นอนาคตที่สดใสเสียเลย ตอนนี้มีผิงอันเข้ามาแย่งชิงความโปรดปรานเขาไป ถ้าน้องสาวคลอดออกมาอีกละ เขาจะอยู่ที่ไหนได้เนี้ย?

เส้นทางยังอีกยาวไกล เขายังต้องอดทนอยู่กับมัน

คืนนี้ ผิงอันเข้านอนด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้นอนตรงกลางระหว่างพ่อแม่มานานแล้ว

สองสามนาทีต่อมา เมื่อมู่เวยเวยเห็นว่าผิงอันหลับสนิทแล้วจึงถามเย่ฉ่าวเฉินว่า “คุณจัดการกับหมอนั้นอย่างไร?”

“เคยอ่านนิยายเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าไหม?” เย่ฉ่าวเฉินถามขึ้นโดยไม่มีเหตุผล

มู่เวยเวยพยักหน้า “เคยดูละครน่ะ”

“ศิลปะฝีมือที่ยอดเยี่ยมของมู่หรงฟู่ ตาต่อตาฟันต่อฟัน” เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างลับลมคมใน

ปฏิกิริยามู่เวยเวยเชื่องช้าลงเล็กน้อยหลังตั้งท้อง “หมายความว่าอย่างไร?”

เย่ฉ่าวเฉินเอ่ยเสียงเบา “ในตอนนั้นมันต้องการให้เราตายอย่างไร ผมก็ให้มันคืนอย่างนั้น แต่ก็เสียเฮลิคอปเตอร์ไปหนึ่งลำและเงินอีกสิบล้าน”

มู่เวยเวยใช้สมองอันน้อยนิดครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะเข้าใจความหมายคำพูดของเขา

“ไม่มีใครเห็นหรอ?”มู่เวยเวยถามอย่างกังวลใจ

“ตอนนั้นพระอาทิตย์ตกสวยงามมาก น่าจะไม่มีใครเห็นนะ แต่ถึงเห็นก็แล้วอย่างไรล่ะ? ไม่มีใครรู้อยู่ดีว่าฉันทำอะไร”

มู่เวยเวยเงียบไปครู่หนึ่ง เธอถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า “กรรมตามทันในชาตินี้เสียจริง”

“อืม” เย่ฉ่าวเฉินสัมผัสที่หน้าของเธอ เสียงอ่อนโยนเอ่ย “นอนเถอะ ทุกอย่างจบลงแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอและลูกกลับบ้าน”

“อืม” มู่เวยเวยหลับตาลง

ตั้งแต่ถูกอลิซลักพาตัวไปที่เกาะเล็กนั้น ฝันร้ายนี้ก็ได้เริ่มขึ้น ช่วงเวลาแห่งการเจ็บปวดและทรมาณ สับสน ทางเลือก เสียงหัวเราะ น้ำตา ในที่สุดก็ได้ตื่นจากฝันครั้งนี้เสียที

เธอหาลูกชายพบ หาความรักที่ต้องการเจอ พี่ชายก็ได้กลับไปหาคนข้างกายตามที่ปรารถนา ทั้งยังมีชีวิตใหม่ สำหรับบทสรุปนี้ หนึ่งปีที่ผ่านมา มู่เวยเวยไม่อยากจะคิดเลย

กาวิน ผู้ชายที่ไม่มีใครรู้ชื่อจริง ไม่มีใครรู้จักหน้าตา ตอนนี้ ในที่สุดก็ได้เดินออกจากชีวิตเธอไปแล้ว

คืนที่ไร้ความฝัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เย่ฉ่าวเฉินพาภรรยาและลูกกลับบ้าน หญิงตั้งครรภ์ทั้งสองอำลากันด้วยความอาลัยอาวรณ์ ต่างนัดแนะกันไว้ว่าครั้งหน้าจะไปเดินชอปปิงด้วยกัน

มู่เทียนเย่พูดกับเย่ฉ่าวเฉินว่า “วันนี้อย่าลืมเอารถมาให้ฉันล่ะ”

เย่ฉ่าวเฉินไม่แสดงสีหน้าแต่อย่างใด “รู้แล้ว”

น่าอายมาก รถคันนั้นเขายังไม่เคยแตะเลย ตอนซื้อมาก็ว่าจะลองขับสักครั้ง

มู่เทียนเย่มองสีหน้าอายๆของเขาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข

ถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่ เย่ฉ่าวเฉินวางมู่เวยเวยลงแล้วค่อยพาผิงอันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ลงทะเบียน ตรวจเลือด รอผลตรวจ ผู้คนที่เข้าๆออกๆแทบจำเย่ฉ่าวเฉินได้หมดทั้งยังเห็นเด็กมหัศจรรย์ที่เล่าต่อๆกันมานั้นด้วย

ผู้คนต่างจดจำเกี่ยวกับข่าวลือที่ถูกแพร่ออกมาได้ ถึงแม้ว่าเย่ฉ่าวเฉินจะชี้แจงและเรื่องนี้ก็ถูกปิดลงไปแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านิสัยเดิมของผู้คนนั้นมักจะสนใจต่อเรื่องลี้ลับ ดูไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรแต่เป็นการมองเรื่องแปลกใหม่มากกว่า

“ว้าว มันเป็นอะไรที่แปลกมากเลยจริงไหม สุดยอดมาก” สาวน้อยคนหนึ่งมองไปที่ผิงอันและพูดด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ใช่ ฉันไม่เคยเห็นสองตาที่แตกต่างอย่างนี้เหมือนกัน มันเหลือเชื่อมากๆ”

ผิงอันนั่งอยู่ข้างพ่อ ตอนแรกเขายังไม่ได้รู้สึกอะไร ใครมองเขา เขาก็ยิ้มให้ฝ่ายนั้นอย่างร่าเริง แต่เมื่อมีคนมองเขามากขึ้น ทั้งยังชี้มาที่เขาอีก ผิงอันที่ฉลาดหลักแหลมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ

“พ่อครับ พวกผู้ใหญ่มองผมทำไมเหรอครับ? เพราะผมโตมาหล่อเหรอครับ?” ผิงอันถามอย่างไร้เดียงสา

เย่ฉ่าวเฉินอึดอัดใจและบีบเข้าที่จมูกน้อยๆของลูกชาย “ใช่แล้ว เพราะลูกพิเศษมาก พวกเขาไม่เคยเห็นเด็กน้อยที่น่ารักขนาดนี้ เพราะงั้นจึงมีหลายสายตาที่มองมา”

ผิงอันย่นจมูกและพูดอย่างไม่มีความสุขว่า “แต่ผมรู้สึกว่าพวกเขากำลังพูดถึงลูกตาของผม เพราะผมและพวกเขาแตกต่างกัน”

แววตาของเย่ฉ่าวเฉินวูบไหว เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า “ผิงอัน โลกใบนี้กว้างใหญ่มาก มีผู้คนหลากหลายรูปแบบ จนถึงทุกวันนี้ยังมีคนอีกหลายประเภทที่ยังค้นหาไม่เจอ พวกเขามองที่แววตาของลูก เพราะว่าพวกเขาไม่เคยเห็น พวกเขาได้เห็นเพียงแค่ความตื้นเขินเพราะอย่างนี้มันไม่เกี่ยวกันกับลูกหรอก ลูกเป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ ใครๆจะไม่อยากรู้ได้บ้างล่ะ?”

ผิงอันที่ดูเหมือนจะเข้าใจ ลังเลอยู่นานก่อนถามขึ้นว่า “พ่อครับ ได้เห็นแค่ความตื้นเขินหมายความว่าอย่างไรเหรอครับ?”

“ก็คือ...อ่านหนังสือน้อยเกินไป ประสบการณ์ก็น้อยและคนที่เคยเห็นก็มีน้อยมาก”

“อ้อ” ผิงอันก็ไม่รู้ว่าเขาฟังเข้าใจหรือเปล่า เขาพูดอย่างจริงจังว่า “งั้นเมื่อผมโตขึ้นต้องอ่านหนังสือให้มากๆ พบผู้คนเยอะๆ และทำหลายๆอย่าง”

“แน่วแน่มาก” เย่ฉ่าวเฉินให้การสนับสนุนลูกชายอย่างแน่นอน

เย่ฉ่าวเฉินนับถือผิงอันจากใจจริง ไม่ใช่เพราะว่าเป็นลูกชายของเขา แต่เป็นเพราะเขามีจิตใจที่เปิดกว้างและสามารถแบกรับความกดดันได้อย่างเข้มแข็ง คิดถึงปีนั้น เย่ฉ่าวเฉินก็คิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นเช่นกัน ครั้งหนึ่งเขาเคยตกอยู่ในภวังค์ปมด้อยของตนเอง ไม่กล้าที่จะคุยกับเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนๆ กลัวว่าคนอื่นจะรู้ความลับของตนเอง

ตอนนี้ดูเหมือนว่าผิงอันจะสบายใจขึ้นมาก

สิบกว่านาทีหลังจากนั้น ใบผลตรวจก็ออกมา

หมอวัยกลางคนสวมแว่นตาหนาเตอะมองไปที่ผลตรวจอย่างไม่พอใจ

“หมอครับ เป็นปัญหาร้ายแรงมากไหมครับ?” เย่ฉ่าวเฉินถามอย่างกังวลใจ

คุณหมอขยับแว่นตาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “พวกคุณเป็นพ่อแม่อย่างไรไปทำอีท่าไหนทำไมถึงให้เด็กกินยานอนหลับได้?แถมยังกินยาเกินขนาดอีก?”

เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้แก้ตัวแต่อย่างใด รับฟังคำตำหนิของหมออย่างว่าง่าย ภายในใจกลับนึกเกลียดกาวินมากขึ้นอีก

คุณหมอมองค้อนเขาที่ไม่พูดอะไรก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “พ่อแม่ที่อายุน้อยๆ การดูแลลูกมันลำบากขนาดนั้นเหรอ? ถ้าลูกซนไม่ยอมนอน งั้นก็ให้เขาเล่น เล่นให้เต็มที่เดี๋ยวเขาก็หลับเอง ทำไมต้องให้เขากินยานอนหลับด้วยล่ะ? คุณเห็นไหมว่าลูกโตมาน่ารักแค่ไหน? ถ้าหากว่าให้กินเยอะมากกว่านี้เกิดอะไรขึ้นมาแล้ว คุณจะเสียใจภายหลัง”

“พวกเราผิดไปแล้ว หลังจากนี้จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” ในที่สุดเย่ฉ่าวเฉินก็ยอมเปิดปากยอมรับความผิด เขากลัวจนไม่พูดอะไร คุณหมอจึงดุว่าเขาไปหนึ่งชั่วโมง “คุณหมอครับ แล้วตอนนี้จะทำอย่างไร?”

“ไม่มีวิธี ผลของยานอนหลับเข้าไปในกระแสเลือดเรียบร้อยแล้ว ยาที่ยังหลงเหลืออยู่จะขับออกจากร่างกายได้ตามการเผาผลาญของเด็กเองเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ