ต้วนอีเหยาพยายามลุกขึ้น จากนั้นเอามือแตะที่ท้องดู รู้สึกมีอะไรบางอย่างเหนียวๆอยู่ ใช่แผลเขาปริออก
ต้องไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
จากประสบการณ์ของเธอ เพียงแค่ยี่สิบนาทีก็พาตัวเองออกมาหาถนนบนภูเขาได้ เธอเห็นหมู่บ้านหนึ่งและมีคนอาศัยอยู่
เธอพาตัวเองเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จากนั้นเจอบ้านหลังหนึ่งที่ไฟกำลังสว่างอยู่
ต้วนอีเหยาเคาะประตูเบาๆ มีเสียงผู้ชายตอบกลับมาว่า "ใครน่ะ?"
"ผ่านมาค่ะ" ต้วนอีเหยาพูดแบบไร้เรี่ยวแรง
"มีอะไร?"
"พี่ชาย ฉันมาเที่ยวแล้วหลงทาง ขอฉันนอนที่นี่สักคืนได้ไหม?"
อีกฝากหนึ่งของประตุได้ยินดังนั้นก็เดินมาเปิดประตู ทันทีที่เปิดประตูเขาก็ตกใจกับภาพที่ได้เห็น หญิงที่ยืนอยู่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เขาถามเสียงสั่นๆว่า "นี่คนหรือผี?"
"พี่ชายอย่ากลัวไปเลย ฉันเป็นคน" ต้วนอีเหยาพูดจบก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่ชายคนนั้นขวางเอาไว้ และพูดกับเธอว่า "เอ่อ เธอออกไปเถอะ บ้านฉัน...."
ต้วนอีเหยาไม่อยากฟังเขาพูดอะไรต่อ ยกปืนขึ้นจ่อหน้าเขา "พี่ชายช่วยฉันได้ไหม?"
ชายคนนั้นตกใจตัวแข็งทื่อ ปืนจ่อแบบนี้เขาจะปฏิเสธอย่างไร?
"ใครกันคะ?" เสียงหญิงอีกคนดังจากในบ้าน
ชายคนนั้นตั้งสติได้ รีบตะโกนกลับไปว่า "คุณอย่าออกมา"
"ข้างนอกใครมาหรือคะ..."หญิงคนนั้นพูดยังไม่ทันจบ ต้วนอีเหยาก็เดินเซเข้าไปในบ้านแล้ว
ทันทีที่เธอนั่งลงบนโซฟา เธอก็พูดอย่างหมดแรงว่า "พี่สาว อย่าร้องตะโกนเลย ฉันไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก"
หญิงสาวยืนหลบอยู่หลังสามีและถามว่า "เธอคือใครกันแน่? แล้วทำไมในมือถึงมีปืน"
"ฉันเป็นตำรวจ กำลังตามจับคนร้ายอยู่" ต้วนอีเหยาอธิบายง่ายๆ จากนั้นหันมามองบริเวณท้องมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด "พี่ชาย ฉันขอบืมโทรศัพท์ได้ไหม"
สามีภรรยามองหน้ากันเล็กน้อย คิดว่าไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือไม่จริง แต่ยังไงก็ต้องให้เธอยืมโทรศัพท์ เพราะในมือเธอมีปืน...
จากนั้นเขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอ
โทรศัพท์ดังขึ้นแค่ครู่เดียว ปลายสายก็รับ
"ฮัลโหล?"
"ฉันเอง ต้วนอีเหยา"
ปลายสายตอบกลับเสียงตื่นเต้นว่า "หัวหน้า ในที่สุดคุณก็ติดต่อมา พวกผมแทบจะพลิกเมืองเอหาอยู่หัวหน้าแล้ว..."
"อย่าพูดมาก ฉันได้รับบาดเจ็บ ส่งคนมารับฉันด้วย"
"ห๊า? ตอนนี้หัวหน้าอยู่ที่ไหน พวกผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้."
"ฉันอยู่ในภูเขา ไม่รู้ว่าที่ไหนเหมือนกัน นายก็หาโลเคชั่นของเบอร์โทรศัพท์นี้แล้วกัน รีบๆมา ขืนชักช้าฉันจะกลับไปคิดบัญชีกับนาย"
"หัวหน้าอย่าแกล้งผม อดทนไว้....."
อีกฝั่งยังคนพูดต่อไป แต่ต้วนอีเหยาโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆแล้ว และไม่ได้สนใจต่อ
ผู้ชายคนนี้มักจะจู้จี้ตลอด
ต้วนอีเหยาถอนหายใจยาวๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาถึงเมื่อไหร่ และถึงแม้ว่าเธอจะมึนหัวมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าหลับลงได้ จึงหันไปถามชายคนนั้นว่า "พี่ชาย ขอน้ำฉันกินสักแก้วได้ไหม?"
สองสามีภรรยามองดูที่เธอพูดกับพวกเขา กับคนในสายเมื่อครู่นี้ ต่างกันลิบลับ ตอนนี้เธอสุภาพและเกรงใจกับพวกเขามาก เว้นเสียแต่เรื่องถือปืนจ่อหน้าเมื่อครู่นี้
ชายคนนั้นยื่นน้ำอุ่นให้เธอ เพียงรวดเดียวเธอก็ดื่มจนหมด รู้สึกสมองโอเคขึ้นมานิดหน่อย
"ขอบคุณมากพี่ชาย"
เธอดื่มน้ำเสร็จ เสียงข้อความก็ดังขึ้น ปลายสายเมื่อครู่ส่งเสียงมาว่า "หัวหน้าผมหาตำแหน่งเจอแล้ว เดี๋ยวผมรีบไปตอนนี้เลย อดทนไว้นะครับหัวหน้า"
ต้วนอีเหยาขี้เกียจจะตอบกลับ
หญิงสาวคนเมื่อครู่หายจากอาการตกใจไปพอสมควร จึงถามกับเธอว่า "น้องคะ ไปทำอะไรมาถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?"
ต้วนอีเหยาไม่กล้าให้ตัวเองหลับ จึงฝืนถ่างตาคุยกับเธอว่า "พี่สาวรู้เรื่องที่บนภูเขามีถนนลับไหม?"
"ถนนลับ?" สาวคนนั้นอึ้ง และพูดต่อว่า "ไม่มีนี่นา พวกเราเกิดและโตที่นี่ ไม่ได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลบ"
"งั้นพวกคุณเคยเห็นคนแปลกหน้าเข้าออกบ้างไหม?"
สาวคนนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และส่ายหัว "ไม่มีนะ ที่นี่มีคนอาศัยอยู่ไม่เยอะ และก็เป็นพวกที่รู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วทั้งนั้น เวลาปกติไปทำงานก็ไม่เคยเห็นคนแปลกหน้าอะไรเลย"
ต้วนอีเหยายิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก คนคนนั้นแอบซ่อนตัวอย่างไร ถึงทำให้คนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่สังเกตเห็น
"พี่ชาย เดินออกไปปิดประตูข้างนอกก่อนดีกว่า และอย่าลืมปิดไฟเข้านอนด้วย ฉันกลัวว่าพวกนั้นเห็นไฟเปิดอยู่แล้วจะตามมา"
ชายคนนั้นเดินออกไปปิดประตูอย่างว่านอนสอนง่าย และยังไม่ลืมที่จะเอาไม้ท่อนขัดประตูไว้
แต่มีเรื่องหนึ่งที่พวกเขายังไม่ทำ คือเข้านอน คนทั้งคนนั่งอยู่ตรงนี้ พวกเขาจะหลับลงได้อย่างไรกัน?
"ไม่ต้องสนใจฉัน ปิดไฟเถอะ" ต้วนอีเหยาสั่ง
สองสามีภรรยาไม่กล้าขัดคำสั่งใดๆ รีบปิดไหเข้านอนทันที
ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาหาต้วนอีเหยาอย่างหนักหน่วง เธอได้แต่กัดฟันทนความเจ็บนี้ ไม่รู้ทำไมเธอถึงฉุกคิดถึงเย่จิงเหยียนขึ้นมา เพราะตอนที่ออกมาเธอโดนจับตัวมา ไม่ได้บอกอะไรเขาสักคำ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง
และก็ไม่รู้ว่าเขาจะโทษตัวเองอีกไหม
น่าเสียดายที่คำตอบนั้นเธอยังไม่ได้บอกเขา รอเธอกลับไปเมืองเอ แล้วบอกเขาด้วยตัวเองแล้วกัน
อาจจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของเธอ จึงทำให้รู้สึกว่าเวลาเดินช้ากว่าปกติ
และในที่สุด ด้วยความอ่อนล้าและความเจ็บปวด จึงทำให้เธอหลับไป และไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีตอนเสียงเคาะประตูดังขึ้น
สองสามีภรรยาก็ตกใจสะดุ้งตื่น ร้อนรนถามว่า "พวกที่ตามมาหรือเปล่า?"
ต้วนอีเหยารีบจับปืนให้กระชับมือ และพูดกับพวกเขาเสียงเบาๆว่า "อย่าเอะไป และอย่าเพิ่งออกมาด้วย"
ขณะนี้ด้านนอกประตูยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีเสียงผู้ชายดังขึ้นตามมาด้วยว่า "เปิดประตู!"
ต้วนอีเหยาตกใจครู่หนึ่ง นี่พวกนั้นตามมาได้แล้วหรือ
แม่งเอ้ย นี่พระเจ้าจะให้ฉันตายที่นี่ตอนนี้หรือ?
"ถ้าไม่เปิดประตู พวกกูพังประตูเข้าไปแน่" สิ้นเสียงพูด ก็ได้ยินเสียงทุบประตูดังขึ้น
ต้วนอีเหยารีบหลบเข้ามุมที่เล็งได้ง่ายๆ พร้อมกับตั้งลำปืนขึ้นเตรียมยิง แต่จากที่เธอคาดเดา ข้างนอกน่าจะมาแค่ 5 คนเท่านั้น
"ปั้ง..."
เสียงประตูถูกเปิดออกอย่างแรง สองคนที่พังประตูเมื่อครู่ รีบเดินเข้ามาในบ้าน ต้วนอีเหยาไม่รีรอ รีบลั่นไกใส่พวกนั้น
"ปัง ปัง" เสียงปืนดัง ทั้งสองตายทันที
เหลืออีกสามคนได้ยินเสียงปืนก็รีบหลบทันที จากนั้นต้วนอีเหยารีบหาที่หลบใหม่ ไม่รอให้พวกนั้นเพ่งเล็งมาทางเธอได้
เธอไม่รีรอรีบหยิบถาดเล็กโยนออกไปอีกทาง พวกนั้นสองคนก็รีบหันปืนไปทางนั้น จากนั้นต้วนอีเหยาก็รีบยิงพวกเขาทั้งสองตาย
ตอนนี้เหลืออีกหนึ่ง
และทันใดนั้น นอกประตูก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาช่วยเธอแล้ว
อีกหนึ่งคนที่เหลืออยู่หน้าประตู รีบถอยเท้าวิ่งหนี แต่วิ่งไม่ถึงไหน ก็โดนลั่นไกใส่ขา ล้มลงไปกองที่พื้น
ต้วนอีเหยาหันไปเคาะหน้าต่าง และบอกสองสามีภรรยาว่า "พี่ชาย เปิดไฟได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว"
จากนั้นไฟก็สว่างขึ้น เผยให้เห็นหน้าของต้วนอีเหยา
จูเชวี่ยโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ มองเห็นคนนอนเกลื่อนกลาด ก็ได้แต่ภาวนาขอให้หัวหน้าของเขาไม่เป็นอะไร
เมื่อเดินเข้ามา เห็นต้วนอีเหยายืนพิงกำแพงอยู่ตรงมุมห้อง หน้าของเธอซีดราวกับกระดาษ จูเชวี่ยแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไม่เคยเห็นเธอตกอยู่ในสภาพย่ำแย่แบบนี้มาก่อนเลย ทั้งตัวมีแต่เลือด เหมือนกับไปนอนในกองเลือดมา
ต้วนอีเหยายิ้มให้เขา และพูดเสียงแผ่วเบาว่า "ในที่สุดพวกนายก็มา ถ้ามาช้ากว่านี้ฉันคงต้องตายอยู่นี่แหละ"
จูเชวี่ยเดินเข้ามากอดเธอ และพูดต่อว่า "กัปตัน อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยครับ ตอนนี้เลือดไหลจะหมดตัวอยู่แล้ว"
"ไอ้บ้า อยากเจอดีหรือไง?"
"โชคดีที่ผมเรียกรถฉุกเฉินมาด้วย" จูเชวี่ยรีบอุ้มเธอขึ้นเตียงเปล และให้แพทย์ทหารห้ามเลือด
ต้วนอีเหยาโบกมือเรียกเขา และสั่งว่า "เดี๋ยวไปจัดการค่าเสียหายให้บ้านหลังนั้นด้วยนะ โดนไอ้พวกสารเลวนั่นพังประตูยับเยินเลย"
"รับทราบครับ"
"แล้วก็คนที่โดนฉันยิงบาดเจ็บ...."
"พวกพี่น้องเราจับมันไว้แล้วครับ"
แพทย์ทหารยกเสื้อของต้วนอีเหยาขึ้น เผยให้เห็นเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด จูเชวี่ยโกรธมาก ทุบลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ และพูดว่า "แม่งเอ้ย ผมต้องตัดไอ้จู๋ของพวกมันทิ้งให้ได้"
ต้วนอีเหยาพูดกับเขาด้วยเสียงอ่อนแรงว่า "มีพวกลับๆซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา พวกมันมาเพื่อขโมยลักของ ยังไงก็ต้องจับพวกมันให้ได้ทั้งหมด"
"กัปตัน วางใจได้ พวกมันจะไม่มีสักคนที่หนีรอดไปได้" จูเชวี่ยพูด และหันไปบอกหมอว่า "หมอครับ งั้นผมฝากกัปตันด้วยนะครับ"
"ครับ"
จากนั้นจูเชวี่ยก็ลงจากเฮลิคอปเตอร์ และเดินมุ่งหน้าไปทางคนร้ายที่จับตัวไว้ได้....
ช่วงเช้ามืด ต้วนอีเหยาเดินทางมาถึงโรงพยาบาลทหารที่เมืองเอ เธอเกือบไม่รอดเพราะเสียเลือดมากประกอบกับแผลติดเชื้ออย่างรุนแรง
ณ ห้องผ่าตัด หมอมองบาดแผลที่อยู่บนตัวของเธอ คิดในใจว่าใครกันที่โหดร้ายขนาดนี้ ท้องขงอเธอถูกแทงสองแผล บริเวณหนังมีรอยถูกแส่ฟาดเยอะจนนับไม่ถ้วน อีกทั้งบริเวณขาก็ยังเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนของต้นไม้ใบหญ้าอีก
เธอยังมีชีวิตอยู่ คงจะใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายอยู่ เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รอดแล้วแน่ๆ
หลังจากผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ต้วนอีเหยาหลับไปสามวันสามคืน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ได้ถามไถ่เรื่องแก๊งอันธพาลลับ ชิงหลงบอกเธอว่าตอนนี้จับได้ทั้งหมดแล้ว และกำลังสอบปากคำอยู่
เพราะแบบนี้ทำให้ต้วนอีเหยาโล่งใจขึ้นมาบ้าง เรื่องที่เธอเจ็บตัวไม่เสียเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...