วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 306

ชิงหลงมองเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย " คิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ "

เย่จิงเหยียนใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ดนิ้วเรียวยาวของเขาแล้วพูดว่า " แค่นี้ฉันเทียบไม่ได้หรอก ฉันคิดว่าพวกนายต่างหากที่ยอดเยี่ยม ปกป้องบ้านเมือง เอาชีวิตเข้าเสี่ยง นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งควรทำ "

ชิงหลงโดนเขาชื่นชมจนรู้สึกเกรงใจ เขาเอามือจับศีรษะและไม่ได้พูดอะไร

คนที่แพ้คนปากหวานก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ ถึงจะอยากจับผิดเขาก็ใจอ่อนจนได้

เย่จิงเหยียนมาเยือนที่นี่ครั้งแรกเลยไม่อยากอยู่ที่นี่นาน พอเขาเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็หยิบยาออกมาสองขวด แล้วพูดอย่างจริงจังว่า " อีเหยา นี่เป็นยาที่ฉันพูดถึงครั้งที่แล้ว มีสรรพคุณในการลบรอยแผลเป็นได้ดีมาก ถึงแม้ว่าคราวที่แล้วเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ฉันคิดว่า การรักสวยรักงามติดตัวผู้หญิงทุกคนมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ทำไมไม่ลองดูละ? อีเหยา ทั้งหมดนี้มันไม่ได้ขัดแย้งกับการที่จะเป็นทหารที่ดีหรือการรับใช้ชาติบ้านเมืองเลย มันไม่มีอะไรเสียหาย ใช่ไหมละ? "

ต้วนอีเหยามองหน้าเขาด้วยสายตาที่อึ้ง ว่าไม่ได้ ประโยคหลังของเย่จิงเหยียนทำให้เธอรู้สึกประทับใจ

ใช่ ถึงเธอจะเป็นทหาร แต่เธอก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน เธอเองก็รักสวยรักงาม เธอคิดมาตลอกว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายนี้เป็นตราของเกียติยศและความภาคภูมิใจ แต่ว่าถ้าไม่มีรอยแผลเป็นพวกนี้แล้วเธอจะไม่ใช่ทหารที่ยอดเยียมหรอ?

แน่นอนว่ามันไม่ใช่

หลังจากเงียบไปนาน ต้วนอีเหยายื่นมือออกไปรับยาสองขวดนั้นจากมือเขามา มองไปที่ยาแล้วถามว่า " ใช้ยังไง? "

เย่จิงเหยียนดีใจ สีหน้าแววตาของเขาก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน " เป็นยาทาภายนอก ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้เช้าให้พยาบาลช่วยเธอทาก็ได้ ทุกเช้าเย็น ภายในหนึ่งสัปดาห์ รอยแผลเป็นจะสลายหายไป "

" อือ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาพยาบาล "

เย่จิงเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฝ่ามือของเขาเหงื่อออกชุ่มไปหมด เขากลัวว่าเธอจะโกรธเหมือนครั้งที่แล้ว

" ถ้าอย่างนั้นเธอก็พักผ่อนเช้าๆนะ ฉันไปก่อนแล้ว พรุ่งนี้จะมาหาใหม่ "

ฝีเท้าของเย่จิงเหยียนก้าวเดินช้ามากอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อยากออกไปเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เขารู้สึกอาลัยอาวรณ์

ต้วนอีเหยาส่งเขาถึงหน้าประตู เห็นว่าเขาหยุดเดินและเหมือนว่ากำลังรอเธอพูดอะไรบางอย่าง หลังจากที่กลั้นไว้นาน ต้วนอีเหยาก็พูดว่า " ขอบคุณนะสำหรับซุปไก้แล้วก็ยาทา เดินทางปลอดภัยนะ "

" อือ ลาก่อนนะ "ดวงตาของเย่จิงเหยียนอ่อนโยนราวกับน้ำ พอต้วนอีเหยาเห็นเข้าก็รู้สึกตื่นตระหนกเลยรีบปิดประตู

หลังจากที่เย่จิงเหยียนออกไปไกลแล้ว ใจดวงน้อยๆที่ตื่นตระหนกของต้วนอีเหยาก็ค่อยๆกลับคืนสู้สภาวะปกติ

เขาใช้สายตาแบบนั้นมองเธอนี่มันจะฆ่าเธอชัดๆ วินาทีนั้นเธอแทบจะอยากพุ่งตัวไปจูบเขา บ้าไปแล้วบ้าไปแล้วจริงๆ......สายตาสะดุดลงตรงที่ขวดยาในมือ ต้วนอีเหยาเลยพูดกับชิงหลงว่า " ไปเรียกพยาบาลมา "

" ครับ หัวหน้า "

เย่จิงเหยียนดีใจสุดๆ เขาขับรถและฮัมเพลงเบาๆ ดีใจจนตัวแทบจะลอยแล้ว

เช้าวันต่อมา ห้องครัวของตระกูลเย่ก็มีเสียงกริ๊งกั๊งดังเต็มไปทั่วห้อง แม่ครัวยืนมองดูข้างๆด้วยความลำบากใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องเสียงานดีๆแบบนี้ของเธอในตระกูลเย่ไปแน่ๆ

" คุณชาย ให้ฉันทำเถอะ ท่านช่วยยืนมองอยู่ข้างๆได้ไหม? " แม่ครัวพยายามเอางานที่เป็นของตัวเองกลับคืนมาเป็นครั้งที่สาม

เย่จิงเหยียนใช้มีดในมือหั่นผักต่อไปอย่างใจจดใจจ่อโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลย " ไม่ต้อง ฉันจะทำเอง เธอไปทำงานอื่นก่อนเถอะ ถ้าฉันทำเสร็จแล้วเธอค่อยมาที่นี่ก็ได้ "

แม่ครัวลำบากใจมาก หน้าที่ของเธอคือทำอาหาร จะให้เธอไปทำอย่างอื่นคือทำอะไร? เพราะไม่มีทางเลือก แม่ครัวทำได้เพียงยืนมองอยู่ข้างๆ

ตอนที่เย่จิงเหยียนเรียนอยู่ต่างประเทศเขาเข้าครัวทำอาหารบ่อยมาก ต้มโจ๊ก ผัดผักต่างๆ ไม่ยากสำหรับเขาหรอก เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อไป อินทผลัม ข้าวเหนียว และโจ๊กก็เคี่ยวจนสุก และผักทั้งสี่เมนูก็ถูกจัดใส่กล่องเรียบร้อย

เย่จิงเหยียนไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนที่ถือกล่องอาหารขับรถออกไปยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย

แม่ครัวมองแสงไฟที่อยู่ไกลๆ ก็ค่อยๆพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า พลังความรักนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ

ขับมาสุดทางหยุดจอดที่โรงพยาบาล จอดรถกำลังจะขึ้นตึกไป แต่กลับเห็นคนสองคนที่ค่อยๆวิ่งมา คนหนึ่งเตี้ยคนหนึ่งสูง เอวยืดตรงและก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอ

ผู้คนในโรงพยาบาลดีมาก และคนที่ออกมาออกกำลังกายก็มีมากขึ้นด้วย แต่ว่ารูปร่างของทั้งสองคนนี้ชัดเจนมาก เพียงแวบเดียวเย่จิงเหยียนก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร เขาจึงหยุดรอ

ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็เดินเข้ามาใกล้ขึ้น ใบหน้าของหญิงสาวแดงเล็กน้อย หน้าผากของเธอมีเหงื่อนิดหน่อย คิ้วของเธอช่างงดงาม ดวงตาของเธอมีออร่าเหมือนดวงดาว และค่อยๆก้าวเข้าไปในหัวใจของเขาทีละก้าว

ต้วนอีเหยาก็ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ริมถนน เขาใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม กางเกงสแล็คสีดำสบายๆ หน้าตาดูสดใส ในมือถือกล่องอาหารอยู่สองกล่อง ไม่สมารถบดบังความสง่าของเขาได้ แต่เขากลับมีความอบอุ่นแฝงอยู่ด้วย เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย ใช้ผ้าขนหนูที่อยู่ที่คอเช็ดเหงื่อสักหน่อย วิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ถามเขาอย่างเหนื่อยหอมว่า " ทำไมคุณถึงได้มาเช้าขนาดนี้? "

" ฉันมาส่งอาหารเช้าให้เธอ "

" ฉันยังต้องวิ่งอีกหนึ่งรอบ "

เย่จิงเหยียนยิ้ม " เธอค่อยๆวิ่งนะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้ "

" ได้ ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะ " พอต้วนอีเหยาพูดจบก็วิ่งต่อไป

แสงอ่อนๆในยามเช้า ลมเย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากที่หญิงสาวออกไปแล้ว แต่ในบรรยากาศยังมีกลิ่นไอของเธออยู่ และมีกลิ่นยาทานั้นแฝงอยู่ด้วย

อาหารที่เย่จิงเหยียนเตรียมมาเป็นเมนูง่ายๆ มี มันฝรั่งทอด แตงกวาผัด บรอกโคลีผัดเนื้อ และยังมีอีกหนึ่งอย่างก็คือเกี๊ยวทอดกรอบสีทองอร่าม จัดวางอยู่บนโต๊ะช่างมีกลิ่นหอมน่ากินจริงๆ

ชิงหลงที่พึ่งล้างหน้าเสร็จออกมา ถึงกับกลืนน้ำลาย " แค่มองก็รู้แล้วว่าอร่อย พอพูดๆอยู่ก็คีบเกี๊ยวแล้วโยนเข้าปาก เคี้ยวแล้วพูดออกมาว่า " อร่อยๆ "

เย่จิงเหยียนตักโจ๊กให้ทั้งคู่ ต้วนอีเหยาเดินเข้าไปล้างหน้า พอผ่านไปสักพักก็พูดว่า " ชิงหลง เข้ามาเช็ดเหงื่อที่หัวไหล่ให้ฉันหน่อย "

" มาแล้วๆ " ชิงหลงพึ่งจะโยนเกี๊ยวอันที่สองเข้าปาก ตอนที่ลุกขึ้นกลับโดนมือคู่หนึ่งกดที่ไหล่ พอเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของเย่จิงเหยียนจ้องไปที่เขาอย่างน่ากลัว

ชิงหลงก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน เขากรอกตาแล้วยิ้มจากนั้นก็นั่งลงทานอาหารเช้าของตัวเองต่อ เขาไม่กังวลเลยสักนิดที่หัวหน้าจะพลาดเสียท่าให้นายหน้าขาวคนนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของหัวหน้าไม่มีคนในกองทัพที่สามารถสู้เธอได้เลยแม้แต่คนเดียว

เย่จิงเหยียนแตะไปที่ไหล่ของเขาสองทีเพื่อแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็เข้าไปในห้องน้ำ

ต้วนอีเหยาหันหลังให้ประตู ตอนนี้บนตัวเธอยังใสเสื้อสีดำตัวเดิมที่ใส่ตอนวิ่ง พอได้ยินเสียงฝีเท้าเธอก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าในมือให้เขา

เย่จิงเหยียนรับมาโดยไม่ได้พูดอะไร ผ้าเช็ดหน้าเย็นๆนิดหน่อย เขาก็เลยเปิดน้ำร้อนโดยมุมก๊อกน้ำไปในทิศทางของน้ำอุ่น ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบีบให้แห้ง

" เจ้านี่มั่นใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน " ต้วนอีเหยาพูดแฉเขา

เย่จิงเหยียนก้าวเข้าไปใกล้เธอสองก้าว เปิดชายเสื้อของเธอขึ้นแล้วค่อยๆยื่นมือเข้าไป ด้วยความที่คอเสื้อของเธอค่อนข้างกว้าง เย่จิงเหยียนจึงเห็นถึงรอยแผลเป็นที่อยู่บริเวณล่างลำคอของเธอ ตอนนี้แผลเริ่มแห้งเป็นสีดำแล้ว

แค่เห็นเพียงนิดเดียว ใจของเย่ฉ่าวเฉินก็รู้สึกหวั่นไหว การกระทำของเขาก็อ่อนโยนและนุ่มนวลมากขึ้นมากๆ

รู้สึกที่

ต้วนอีเหยารู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ พอเธอหันหน้าไปดูและเห็นใบหน้าของเย่จิงเหยียนปรากฏตรงหน้า เธอรีบหันกลับมา แล้วใช้ผ้าขนหนูในมือบังไปที่หน้าอกของตัวเอง......

" คุณเข้ามาทำไม? "

เย่จิงเหยียนรู้สึกได้เธอความรู้สึกอ่อนไหวของเธอ ในใจของเขาก็ร้อนรุ่ม น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เคร่งขรึม " หันไป อย่าดิ้น "

ต้วนอีเหยาเองก็มีความรู้สึกแปลกๆ เธอก้มหน้า มือของเธอบังอยู่ตรงบริเวณหน้าอก เธอหันหลังไปด้วยความสงสัย

เย่จิงเหยียนค่อยๆเช็ดเหงื่อให้เธอ ตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงเอวทุกครั้งที่เช็ดเธอก็จะรู้สึกเหมือนมีลมเย็นๆพัดมา

" แผลพวกนี้ของเธอ......ยังเจ็บอยู่ไหม? " ในแววตาของเย่จิงเหยียนแสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

" ตกสะเก็ดแล้วก็เลยไม่เจ็บ แต่ช่วงนี้รู้สึกคันๆนิดหน่อย "

" คันแสดงว่าใกล้จะหายดีแล้ว เธออย่าไปเกานะ " น้ำเสียงของเย่จิงเหยียนแผ่นเบาราวกับว่าเป็นลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาในหัวใจเธอ

" ฉันรู้แล้ว " ต้วนอีเหยารู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าว และหูของเธอก็แดง เพียงแต่ว่าเธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง มันน่าแปลก พวกชิงหลงเองพวกเขาก็เป็นผู้ชาย แต่ทำไมเธอถึงไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่ทำไมพอเป็นเขา เธอถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว แม้กระทั่งหัวใจยังเต้นเร็วมาก

เย่จิงเหยียนดูออกว่าแผลพวกนี้เป็นแผลใหม่ น่าจะเป็นแผลจากครั้งนั้นที่จู่ๆเธอก็หายตัวไป ที่แท้เธอก็มีเรื่องด่วนจริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะไปโดยไม่ลาเขาก่อน

" เสร็จแล้ว ออกไปกินอาหารเช้าเถอะ "เย่จิงเหยียนระงับความเจ็บปวดในใจไว้ เขาล้างผ้าขนหนูอยู่ข้างอ่าง ต้วนอีเหยารีบก้าวเท้าออกจากห้องน้ำไป

ครั้งที่แล้วที่เย่จิงเหยียนเห็นแผลของเธอตรงแขน ตอนนั้นเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเธอมากๆ แต่ว่าวันนี้มันเหนือความคาดหมายของเขามาก บาดแผลในที่ที่เขาไม่สามารถมองเห็นในตัวของเธอไม่รู้ว่ามันมีรอยแผลเป็นมากเท่าไหร่ที่ซ่อนอยู่

มือทั้งสองข้างของเขาจับไปที่ขอบอ่างแน่น เย่จิงเหยียนรู้สึกโศกเศร้ามากๆ เขาอยากจะปกป้องเธอ ให้เธอใช้ชีวิตแบบสงบสุขและปลอดภัยไปตลอดชีวิต แต่ว่าตัวเขาเองกลับช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ยี่สิบปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งที่สองที่เขารู้สึกท้อแท้ ครั้งแรกเป็นตอนอนุบาลที่วันจบการศึกษาแล้วเธอก็จากไป

เย่จิงเหยียนถึงขั้นคิดว่าถ้าเขาไม่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตระกูลเย่ เขาก็คงจะตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพอย่างไม่ลังเล และคอยปกป้องเธอทุกวินาทีอยู่ข้างกาย แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็ทำได้เพียงคิดเท่านั้น

พอจัดการกับอารมณ์ตัวเองเสร็จ ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เย่จิงเหยียนมองตัวเองยิ้มในกระจก เขาก็เช็ดมือแล้วเดินออกมา

เกี๊ยวในจานโดนเก็บกวาดจนสะอาดเกลี้ยง มันฝรั่งผัดเหลือไว้เพียงครึ่งจาน

" พวกคุณชอบเกี๊ยวทอดมากเลยหรอ? พรุ่งนี้ฉันจะทำมาให้มากกว่านี้ " เย่จิงเหยียนนั่งลงข้างๆต้วนอีเหยา ความรู้สึกของเขาเมื่อกี้ไม่มีปรากฏบนใบหน้าของเขาเลย

ต้วนอีเหยากินโจ๊กแล้วพูดว่า " คุณกินข้าวรึยัง? "

" ยัง " เย่จิงเหยียนพูดไปตามความจริง

ตะเกียบของต้วนอีเหยาและชิงหลงหยุดนิ่ง ท่าทางอึดอัดนิดหน่อย เพราะว่าโจ๊กถ้วยสุดท้ายในกล่องถูกเทไปที่ถ้วยของชิงหลงเรียนร้อยแล้ว

" คุณไม่ได้กินข้าวทำไมไม่บอกกันสักคำ? พวกเราจะได้เก็บไว้ให้ " ต้วนอีเหยาวางตะเกียบลงอย่างเงียบๆ

เย่จิงเหยียนหัวเราะ " ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เตรียมส่วนของฉันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกคุณกินเสร็จ เดี๋ยวฉันกลับบ้านไปกิน "

" แบบนี้......

" จริงๆ ตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเอง อีกสักพักตอนที่ฉันกลับไปก็แปดโมงกว่า ก็เป็นเวลาอาหารเช้าของที่บ้านพอดี " เย่จิงเหยียนไม่อยากให้พวกเขารู้สึกผิด เขาเห็นว่าเตียงยุ่งๆไม่เรียบร้อยเขาเลยลุกขึ้นแล้วพูดว่า " พวกเธอรีบกินเถอะ "

ต้วนอีเหยาและชิงหลงมองดูเขาเดินไปที่เตียง จากนั้นก็ทำความสะอาดเตียง

ชิงหลงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใช้ขาสะกิดไปที่เท้าของหัวหน้า แล้วกระซิบว่า " นายหน้าขาวคนนี้ไม่เลวเลยนะ หัวหน้าลองพิจารณาดูหน่อยนะ "

ต้วนอีเหยาเตะขาเขา " กินข้าวของนายต่อไปเลย "

ตอนที่เย่จิงเหยียนเช็ดโต๊ะอยู่เขาก็สังเกตเห็นยาทาที่เขาให้เธอเมื่อวาน มีขวดหนึ่งเปิดใช้งานแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาอย่างอัตโนมัติ ดูเหมือนว่าเธอจะใช้มันแล้ว

บริษัทเย่ฮว่าง

พอเลขาหวังได้ทราบข่าวที่เย่จิงเหยียนจะพักร้อนประจำปีเขาก็ตะลึง และรีบถามว่า " ประธานเย่ คุณเตรียมจะพักกี่วัน? "

" สิบถึงยี่สิบวัน "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ