ี่คนที่อยู่เบื้องหลังของผิงอัน มักจะมีคนเห็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างมีน้ำหนัก เสมอ แล้วก็มีคนคอยช่วยเหลือตลอด
เมื่อเย่จิงเหยียนนั่งทานอาหารเช้าแล้วรับแสงแดดในยามเช้าอยู่ ต้วนอีเหยากับพวกเพื่อนทหารก็หมอบคลานอยู่ในภูเขาหิมะคุนหลุนแล้ว
คนร้ายชาวต่างชาติกลุ่มนี้ได้บุกเข้ามาทางเขตชายแดน ก็ถูกไล่ล่าและซ่อนตัวอยู่ในภูเขาคุนหลุน ที่นี่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดทั้งปี มีไม่กี่คนที่เคยไปที่นั่น ทว่าเป็นละมั่ง หมาป่า หมีสีน้ำตาลรวมทั้งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเสือดาวหิมะ
ต้วนอีเหยานำกองกำลังทหารเข้าสู่ภูเขาหิมะ นี่เป็นเวลาสามวันแล้ว ยังไม่เป็นผลสักนิด แม้ว่าจะสวมหน้ากากป้องกันตา สวมเสื้อหนาวหนาๆ แต่มือและเท้ายังคงได้รับบาดเจ็บจากความเย็นจัด ใบหน้าก็แดงจากการถูกลมพัด
หลังจากสี่ชั่วโมงของการเดินทาง เสียงของเพื่อนร่วมทีมดังมาจากชุดหูฟังของต้วนอีเหยา "วอ 1 ฉันพบเบาะแสที่นี่"
"พูด" ดวงตาที่เฉียบคมของต้วนอีเหยาเผยประกายแวววาวออกมา
"ฉันพบกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 7 กล่องถูกทิ้งไว้ ยังมีห่อไส้กรอก ตามที่ฉันคาดการณ์ มันถูกทิ้งไว้เมื่อสามวันก่อน จนถูกหิมะปกคลุม"
"โอเค ไล่โจมตีต่อไป รายงานทันทีหากมีความคืบหน้า"
"ครับ"
ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดโหยหวน พัดมาที่ใบหน้าราวกับถูกกรีดด้วยมีด ฟ้าดินเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ บางครั้งที่ละมั่งวิ่งผ่านมาจึงรู้สึกว่าที่นี่ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่
ตลอดวันนี้คิดว่าจะกลับไปมือเปล่า คาดไม่ถึงว่าตอนใกล้จะมืด ต้วนอีเหยาก็ได้ยินเสียงคนลางๆ
"ฉันคือวอ 1 มีสถานการณ์ ระวังตัวให้มากขึ้น"
เคลื่อนที่ไปตามทิศทางของเสียงอย่างช้าๆ ต้วนอีเหยาเห็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เสียงนั้นดังออกมาจากถ้ำ
แม่งเอ้ย บอกว่าหาเจ้าพวกนี้ไม่เจอ ปรากฎว่าซ่อนตัวอยู่ครึ่งทางของภูเขาคุนหลุน เธอเอาแผนที่ออกมาดู จากที่นี่เข้าสู่แผ่นดินใหญ่ แค่จำเป็นต้องคนหาบนยอดภูเขาหิมะอีกสองลูก แต่โชคดีที่ตนเองเจอแล้ว
ในหูฟังแจ้งให้เพื่อนร่วมทีมโฟกัสไปในทิศทางของตนเอง ต้วนอีเหยาแฝงตัวอีกครั้งแล้วรออย่างเงียบๆ
ด้านในพูดอะไรได้ยินไม่ชัด แต่แน่ใจได้ว่า ไม่ใช่ภาษาจีน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ชิงหลงกับจูเชวี่ยก็มาหาเธออย่างเงียบๆ "หัวหน้า มีสถานการณ์อะไร"
ต้วนอีเหยาชี้นิ้วไปที่ภูเขาหิมะ "ด้านในมีคน"
ชิงหลงรู้สึกตื่นเต้น "ฉันจะไปสืบล่วงหน้าสักหน่อย"
"ระวังความปลอดภัยด้วย"
"รับทราบ"
เพื่อร่วมทีมคนอื่นๆอีกสิบกว่าคนก็ทยอยตามกันมา ต้วนอีเหยากำชับในชุดหูฟังว่า "คนร้ายมีอาวุธเคมีอยู่ในมือ ต้องระวังเป็นพิเศษ สามารถจับเป็นได้ก็พยายามจับเป็น ทั้งหมดใส่ปืนพกเก็บเสียง เสียงที่ดังมากเกินไปทำให้เกิดหิมะถล่ม
"รับทราบ รับทราบ"
ชิงหลงเป็นนักสืบฝีมือดี ไม่นานก็กลับมา พูดอย่างหอบเหนื่อยเล็กน้อย "หัวหน้า ด้านในมีคนสี่คน เป็นคนต่างชาติทั้งหมด กำลังกินข้าวอยู่ ข้างๆตังมีกระเป๋าขนาดใหญ่สี่กระเป๋า ไม่รู้ว่าด้านในใส่อะไรไว้"
"สี่คนหรอ?" ต้วนอีเหยาสงสัย หันไปถามหนึ่งในนั้น "ตอนเช้าคุณพบกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ็ดกล่องใช่ไหม?"
"ครับ"
จำนวนคนที่สำนักใหญ่บอกคือ 15 คน นั่นหมายความว่ายังมีอีก 11 คนที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ช่างเถอะ จับสี่คนนี้ก่อนค่อยว่ากัน
"ทุกคนเสริมสมรรถภาพทางกายเล็กน้อย รอให้ฟ้ามืดพวกเขานอนหลับแล้วเราค่อยปฏิบัติการ"
"ครับ"
เพื่ออำพราง ต้วนอีเหยาและพวกเขาสวมเสื้อกันหนาวสีขาว นอนอยู่บนพื้นหิมะ กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ทุกคนหยิบห่อเนื้อวัวที่แข็งจนเป็นก้อนจากในกระเป๋ามาแทะสองคำ หากกลืนไม่ลงก็ยัดหิมะให้กลายเป็นน้ำลงไป ไม่นานท้องฟ้าในภูเขาก็มืดลง เหลือเพียงเสียงลมพัดหวีดหวิวในอากาศ
ต้วนอีเหยานอนอยู่บนพื้น ขาแข็งไปหมดแล้ว
เวลาผ่านไปทีละนิดๆ ไฟในภูเขาหิมะก็ดับลง พวกเขานอนกันแล้ว
รออีกหนึ่งชั่วโมง ต้วนอีเหยาก็สั่งการ "ไป"
ทหารสิบกว่าคนเปลี่ยนจากตุ๊กตาหิมะยืนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ค่อยๆเข้าใกล้ภูเขาหิมะ เพราะสวมแว่นมองตอนกลางคืน ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน
ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างในกำลังนอนหลับสนิท วางกระเป๋าเป้ไว้ข้างๆมือ
"อย่านอนเลย ลุกขึ้น" ต้วนอีเหยาใช้เท้าเตะหนึ่งในนั้น
ทั้งสี่คนถูกทำให้ตกใจตื่น ลืมตาขึ้นมา ก็มีปืนมากกว่าหนึ่งโหลเล็งมาที่พวกเขาแล้ว
"พูด พวกคุณชื่ออะไร มาจากที่ไหน?" ต้วนอีเหยาถามเป็นภาษาอังกฤษ
ทั้งสี่คนแกล้งฟังไม่ออก ยกสองมือแล้วส่ายหัว
"แม่งเอ้ย แกล้งเป็นใบ้กับฉันใช่ไหม?" ต้วนอีเหยาเข้าไปชกหนึ่งหมัด คนนั้นที่อยู่ใกล้เธอที่สุดถูกต่อยจนมึนงง
"ให้พวกเขาเปิดกระเป๋าออก"
เพิ่งจะพูดจบ หนึ่งในนั้นดึงกริชออกมาจากที่เท้าของเขาและรีบตรงขึ้นมา ผลคือเพียงแค่ครึ่งนาที ทั้งสี่คนถูกจับมัดจนกลายเป็นบ๊ะจ่าง
ในกระเป๋าเป้ทั้งสี่ใบมีของไม่มาก เข็มทิศ แผนที่ ปืน ส่วนที่เหลือเป็นบิสกิตและเนื้อวัว ไม่มีอะไรที่ต้วนอีเหยาต้องการ
ชิงหลงนั่งยองๆตรงหน้าคนคนหนึ่ง ถามเสียงแข็งว่า "ชื่ออะไร? มาจากไหน?"
"พวกเรา……เรามาปีนภูเขาหิมะ" ชายคนั้นพูดภาษาอังกฤษอย่างตะกุกตะกัก
ปีภูเขาหิมะหรอ? ปีภูเขาหิมะแล้วเอาปืนมาทำอะไร? ยังมีกระสุนอีกไม่น้อย
"จูเชวี่ย ถ่ายรูปคนเหล่าแล้วส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่ ทำการเปรียบเทียบ"
"โอเค หัวหน้า"
ต้วนอีเหยาหัวเราะเยาะแล้วขู่ว่า "จะบอกพวกคุณให้นะ ถ้าพวกคุณยอมรับสารภาพ ฉันจะพิจารณาส่งพวกคุณไปให้คนของเราทั้งยังมีชีวิตอยู่ ถ้ายังมีท่าทีเช่นนี้ ก็จะหักขาพวกคุณ แล้วจับโยนไว้ในหิมะ หมาป่ากับเสือดาวหิมะน่าจะสนใจเป็นอย่างมาก"
"พวกคุณทำฝ่าฝืนกฏหมาย" ชายคนนั้นพูดอย่างเคร่งขรึม
"ฝ่าฝืนกฏหมาย?" ต้วนอีเหยายิ้มอย่าเจ้าเล่ห์ "ธารน้ำแข็งคุนหลุนนี้นอกจากสัตว์ป่าก็เป็นพวกเรา พวกคุณถูกสัตว์ป่าจับกิน ใครจะรู้ล่ะว่าพวกเราฝ่าฝืนกฏหมาย"
"หัวหน้าพูดถูก พาพวกเขาไปก็เป็นภาระ ให้เป็นอาหารหมาป่าไปเถอะ" เพื่อนทหารข้างๆสนับสนุนขึ้นมา
หลังจากสองสามนาที ข่าวจากสำนักงานใหญ่ก็ส่งมา ว่าสี่คนนี้เป็นพวกผิดกฏหมายจริงๆ
ต้วนอีเหยาจับคอเสื้อของคนคนหนึ่งขึ้นมา พูดอย่างดุดันและเกรี้ยวกราดว่า "ฆ่าคนของพวกกูแล้วยังคิดจะตบตาอีกหรอ? คนที่เหลือมันอยู่ที่ไหน?"
ชายคนนั้นมองต้วนอีเหยาด้วยสายตาเหยียดหยาม แล้วเบนหน้า
"ไม่พูดใช่ไหม เชื่อไหมล่ะว่าฉันจะฆ่าคุณ?" ต้วนอีเหยาเอาปืนจ่อที่หน้าอกเขา
ชายคนนั้นไม่ยี่หระต่อความเป็นความตาย "อยากฆ่าก็ฆ่า สักคำพวกกูก็จะไม่พูด เพราะว่าอีกไม่นาน ก็จะมีคนจีนอีกนับไม่ถ้วนได้โดนฝังพร้อมกันกับพวกกู ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
"ตุ๊บ!" ต้วนอีเหยาทุบเข้าที่หัวของเขา คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ทนต่อการต่อยตีเช่นนี้ จึงหมดสติล้มลงไป
"พวกมึงก็ไม่พูดใช่ไหม?" ต้วนอีเหยาดึงอีกคนขึ้นมา
คนนั้นถ่มน้ำลายลงพื้น "พวกกูต่อสู้เพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศ ตอนที่มาก็ไม่คิดว่าจะได้กลับไปอยู่แล้ว"
"ยังคงหัวแข็งอยู่" ต้วนอีเหยาปล่อยเขาลงแล้วพูดกับพวกพี่น้องว่า "จัดการให้ฉันหน่อย ตายแล้วก็โยนไว้ในหิมะเป็นอาหารหมาป่า"
ชิงหลงสะดุ้งตกใจ ดึงต้วนอีเหยาไปด้านข้าง "หัวหน้า จะทุบตีให้ตายจริงๆหรอ หากเบื้องบนรู้ว่าทั้งสี่คนนี้ถูกทุบตีจนตาย จะอธิบายยังไง"
ต้วนอีเหยาเหลือบมองเขา "คุณเป็นคนหังรั้นไปได้ยังไง? ฉันไม่ได้โง่นะ ขู่ๆไปก่อน ฉันยังไม่พูดสรุปเลย ทุบตีให้สลบแล้วมัดไว้ จากนั้นก็แจ้งเบื้องบนมารับตัวไป"
"ก็ถูก ต้องสนุกกับพวกนี้ก่อน อย่างไรก็ดึกขนาดนี้แล้ว พวกเราเดินต่อไม่ไหวหรอก ก็พักในภูเขาหิมะนี้สักหน่อยเถอะ"
"เป็นเพราะเหตุผลนี้แหละ"
ต้วนอีเหยารู้ว่าพวกพี่น้องลงมือหนัก เกรงว่าจะตามขึ้นมาจริงๆ จึงค่อยๆพูดว่า "เอาล่ะ พอ เก็บแรงไว้"
หัวหน้า เช่นนี้จะปล่อยพวกเขาไปหรอ?" จูเชวี่ยไม่สบายใจ สองสามวันจับได้สี่คนไม่ง่ายเลย
"ใครบอกว่าจะปล่อยพวกเขาไปล่ะ?" ต้วนอีเหยายิ้มแล้วขยับตาให้ชิงหลง
ชิงหลงรู้ใจ เหน็บปืนไว้ที่เอว "คืนที่ยาวนาน เราค่อยๆสนุกกับพวกมัน จะรีบร้อนไปทำไม?"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ใช่ ค่อยๆสนุก" พวกพี่น้องทุกคนหัวเราะกันใหญ่
คนสติแตกทั้งสามมองพวกเขาด้วยความหวาดกลัว ขยับๆถอยหลังอยู่บนพื้นไม่หยุด "พวกมึง……พวกมึงคิดจะทำอะไร?"
ชิงหลงตั้งท่าต่อสู้ "น่าสนุก ฉันเห็นลูกพี่คนนี้รูปร่างหน้าตาไม่เลว งั้นเริ่มที่เขาก่อนเลย"
ชายคนนั้นถูกชิงหลงจัดการจนหน้าเขียวไปหมด "ลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้! พวกมึง……พวกมึงยังคงเป็นทหารของประเทศจีน จะทำเรื่องน่าละอายแบบนี้ได้ยังไง"
"ห๊ะ มึงเรียนภาษาจีนด้วยหรอ ถึงได้รู้สุภาษิตของพวกกู" ชิงหลงพูดถากถางเขา "มา พวกพี่น้องลงมือเลย"
จากนั้น ในสายตาของชาวต่างชาติคนนี้ทั้งหวาดกลัวและงุนงง ทั้งสองคนรีบถอดรองเท้าของเขา แล้วก็ม้วนถุงเท้าจนกลมแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา
ชาวต่างชาติคนนั้นยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ แค่รู้สึกจั๊กจี้ที่ฝ่าเท้า หัวเราะฮ่าฮ่าฮ่า ถุงเท้าเหม็นๆถูกกลืนเข้าไปในปาก สะอิดสะเอียนอยากจะอ้วก
"อื้ออื้ออื้อ……อื้อ……”
ชิงหลงหยิบลูกบอลนุ่มๆออกมาจากไหนไม่รู้แล้วโยนให้เพื่อนทหาร เวลานี้ ชาวต่างชาติคนนั้นก็ยิ่งทรมานมากขึ้น อยากจะหลีกเลี่ยงการจั๊กจี้ แต่ขาถูกมัดไว้ เดิมทีก็ไม่มีแรงอยู่แล้วอีกทั้งยังถูกคนกดไว้ คนทั้งคนนอนบิดตัวขดอยู่บนพื้นที่เย็นเป็นน้ำแข็ง ในใจคิดแต่อยากจะตาย
แม่งเอ้ย นี่ทรมานยิ่งกว่าเขาถูกทุบตีเสียอีก
นอกจากนี้สองคนข้างๆเห็นก็อกสั่นขวัญแขวน รู้สึกจั๊กจี้เช่นนั้นเหมือนถูกเกาอยู่บนตัวเอง
"หยุด"
ต้วนอีเหยาเดินไปตรงหน้าชาวต่างชาติ ดึงถุงเท้าออกมาแล้วพูดว่า "มีอะไรอยากจะพูดไหม?"
"ไม่พูด" คนคนนั้นหอบแฮ่กๆ น้ำตาไหลพราก
ต้วนอีเหยาก็ยัดถุงเท้าเข้าไปในปากต่อ "ทำต่อเลย"
ผ่านไปไม่กี่นาที ในที่สุดคนๆนั้นก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พูดอู้ๆอี้ๆใส่ต้วนอีเหยา
"อยากพูดแล้วใช่ไหม?" ต้วนอีเหยาถาม
เขาพยักหน้าอย่างสุดๆ
"ชิงหลง พาเขาออกไป แล้วถามให้ชัดเจน"
"โอเค" ชิงหลงจับคอเสื้อของชายคนนั้นแล้วลากเขาออกไป เนื่องจากพื้นเต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ไม่สามารถใช้แรงมากๆได้
ต้วนอีเหยาเดินไปตรงหน้าสองคนที่เหลือ "จะพูดหรือไม่พูด?"
ทั้งสองมองหน้ากัน พูดอย่างโมโหๆว่า "พวกกูจะไม่ทรยศเพื่อขัดขวางยับยั้ง"
"ได้ เอาเข้าเครื่องทรมาน" ต้วนอีเหยาไม่พูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา
……
เป็นธรรมดา อีกครึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนก็ยอมแพ้
หลังจากไต่สวนรายบุคคลแล้ว เปรียบเทียบเส้นทางที่ทั้งสามคนกล่าว เหมือนกันทั้งหมด
"เอาล่ะ แจ้งให้เบื้องบนทราบ ให้พวกเขามารับตัวไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...