พูดจบ เขาก็เดินไปข้างหน้าร.ป.ภ.จากนั้นชี้ไปทางหยางจิงว่า "ห้ามให้คนพรรนี้เข้ามาเด็ดขาด"
แต่ไม่ทันที่เธอจะเดินเข้าไป ก็โดนร.ป.ภ.ขวางไว้เสียก่อน "คุณผู้หญิงมาหาใครรับ?"
"ฉันก็มาหาพี่จิงเหยียนไง" คำว่าพี่ที่หยางจิงได้ยิน ทำเอาหน้าชา
ร.ป.ภ.ลังเลอยู่ เพราะเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาบริษัทมาก่อน แต่คำที่เธออ้างว่าจิงเหยียนเป็นพี่ชาย พูดเหมือนสนิทกันมาก นี่ตกลงควรให้เธอเข้าไปดีไหม?
"นัดไว้ไหมครับ?"
เธอจ้องเขาตาโต "ฉันมาหาพี่จิงเหยียน ฉันไม่เคยนัดนะ"
ร.ป.ภ.รู้สึกลำบากใจ จึงเสนอออกไปว่า "หรือคุณลองโทรหาประธานเย่ก่อนดีไหมครับ ไม่อย่างนั้นผมให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆครับ"
"นายนี่ทำไมน่ารำคาญแบบนี้นะ?" เธอกล่าวอย่างหัวเสีย ร.ป.ภ.ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ
หยางจิงมองดูเธอ จากนั้นขำเย้ยออกมา หึหึคงจะเป็นพวกชอบหลอกลวงซินะ
ร.ป.ภ.มองทั้งสองและพูดอย่างสุภาพว่า "พวกคุณรอตรงนี้สักครู่ก็ได้ครับ อีก 5 นาทีประธานเย่ก็เลิกงานแล้ว เดี๋ยวคงลงมาครับ"
"หึ ฉันจะให้พี่จิงเหยียนไล่นายออก" เธอกล่าว และไม่อยากยืนรอตรงนี้สักนิด
ไม่นาน พนักงานของเย่ฮวางค่อยๆทยอยเดินออกมา มองเห็นสาวสวยทั้งสองที่หน้าประตูก็ต่างพากันยิ้มมองและซุบซิบ
ผ่านไปอีกพักใหญ่ ร่างสูงโปร่งก็เดินออกมา เธอรีบวิ่งเข้าไปเพื่อกอดเขา "พี่จิงเหยียนเลิกงานแล้ว"
เย่จิงเหยียนตกใจ รีบดันเธออก จากนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา โอ้ยนี่มันยัยถังยวีเวยแห่งตระกูลถังเอง เธอมาทำอะไรที่นี่เนี้ย?
เย่จิงเหยียนรีบถามเธอว่า "หยุดอยู่ตรงนั้น มาหาผมมีเรื่องอะไร?"
ถังยวีเวยหยุดอยู่ก็จริงแต่ยังไม่วายไปเลื้อยพันแขนของจิงเหยียน "ฉันมาพาพี่ไปทานข้าวไงคะ ที่เรานัดกันไว้คราวก่อนไง"
"ใครนัดกับเธอ?" เย่จิงเหยียนกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า
ถังยวีเวยทำท่าทางงอน และพูดอย่างแอ๊บแบ๊วต่อว่า "ไม่สน ไม่รู้ไม่ชี้ ยังไงก็นัดไว้แล้ว เพราะงั้นวันนี้พี่ต้องพาฉันไปทานข้าว" พูดจบ เธอก็กอดแขนของจิงเหยียนแน่น
"นี่...เธอ ปล่อยนะ" เย่จิงเหยียนพยายามแกะมือเธอออก เกิดมาไม่เคยเจอใครหน้าหนาแบบนี้มาก่อนเลย
"ไม่ๆๆๆค่ะ ถ้าปล่อยพี่ก็หนีซิคะ"
หยางจิงที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นว่า "ประธานเย่คะ..."
เย่จิงเหยียนหันไปมองเธอ ขมวดคิ้วถามว่า "คุณมาทำอะไร? แค่นี้ข่าวยังอื้อฉาวไม่พอหรือ?"
หยางจิงน้ำตารื้นขึ้นมา พูดกับเขาว่า "ประธานเย่คะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรเอาคุณเข้ามาเกี่ยวด้วยทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ครั้งนี้ขอร้องคุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ"
เย่จิงเหยียนถามกลับเสียงเย็นชาว่า "หึ ถ้าทุกคนทำผิดและพูดขอโทษแล้วมันจบ โลกนี้คงน่าเบื่อมาก"
หยางจิงทำสายตาอ้อน และพูดต่อว่า "ประธานเย่ ฉันสับสนไปหมด ไม่ควรทำแบบนี้ ฉันรู้สึกผิดจริงๆ"
เย่จิงเหยียนยิ้มที่มุมปาก และถามต่อว่า "งั้นคุณบอกผมซิ ว่าเรื่องนี้มันบังเอิญมาเจอผมได้อย่างไร?"
หยางจิงใจกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ตอนนี้เธอรู้ดีว่าควรทำแสดงออกมาอย่างไร
"ประธานเย่จะไม่เชื่อก็ได้ค่ะ แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ทานข้าวครั้งก่อนก็เป็นช่วงที่ฉันไปถ่ายนิตยาสารแถวนั้นพอดี รูปพวกนี้เป็นพวดปาปารัซซี่ที่ตามแอบถ่ายรูปฉัน พวกเขาต้องการเงินจากฉัน แต่ว่าฉันไม่ได้ให้ไป และคิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คิดไม่ถึงว่ามันจะส่งผลให้ท่านประธานแบบนี้ ฉันขอโทษจริงๆค่ะ" หยางจิงโค้งตัว
คำพูดที่เธอพูด มีทั้งความจริงและโกหกอย่างละครึ่ง เย่จิงเหยียนถามเธออีกครั้งว่า "คุณมั่นใจว่าคือความบังเอิญ?"
"บังเอิญจริงๆค่ะ ถ้าประธานเย่ไม่เชื่อ ไปสืบหาหลักฐานได้เลย ฉันไม่กล้าโกหกหรอกค่ะ"
ถังยวีเวยพูดแทรกขึ้นว่า "ดาราอย่างพวกเธอแสดงเก่งจะตาย ใครจะไปรู้ว่าที่เธอพูดมาจริงหรือเปล่า พี่จิงเหยียนคะ อย่าไปเชื่อนะคะ เธอต้องวางแผนมานานแล้วแน่ๆเลยค่ะ"
ในขณะที่พวกเขากำลังเถียงกันอยู่นั้น ก็มีรถทหารคันหนึ่งขับเข้ามาใก้ลเรื่อยๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนต้วนอีเหยานั่นเอง
ต้วนอีเหยามองเห็นร่างสูงที่คุ้นเคย แต่ที่ทำเธอไม่ชอบใจคือที่แขนของเขาถูกผู้หญิงโอบกอดอยู่
บังเอิญจริงๆ เธอมาที่นี่สองครั้ง ทุกๆครั้งจะต้องเห็นเขายืนใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น คำที่พ่อเธอบอกถูกต้องจริงๆ ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ซินะ
เย่จิงเหยียนนี่แพรวพราวน่าดู ไปไหนก็มีแต่ผู้หญิง แต่ไม่เคยมีข่าวเลย
"หัวหน้า ไอ้ชายหน้าขาวคนนั้นทำไมมีผู้หญิงยืนเหาะแขนอีกแล้วล่ะครับ ผมนึกว่าครั้งก่อนเราคงเข้าใจผิด" ชิงหลงบ่น ในใจไม่ชอบขี้หน้าเย่จิงเหยียนเท่าไหร่
ต้วยอีเหยานิ่ง ชิงหลงพูดความในใจเธอออกมา
หัวหน้ายังจะลงไปไหมครับ?" ชิงหลงสังเกตเห็นหน้าของเธอไม่สู้ดีนัก
"มาตั้งไกลขนาดนี้แล้ว ลงไปพูดอะไรสักหน่อยแล้วกัน จอดรถ"
ชิงหลงเหยียบเบรคเอี้ยด ต้วนอีเหยาลงจากรถ พูดกับจิงเหยียนเสียงเย็นชาว่า "ประธานเย่ คุณนี่มันฮอตจริงๆเลยนะ"
เย่จิงเหยียนตกใจเล็กน้อย หันไปเห็นคนที่เขาเป็นห่วงอยู่นาน ยืนใส่ชุดลายพราง ใส่รองเท้าบูทมาตินอยู่
เย่จิงเหยียนรีบปัดมือของถังยวีเวยออก จากนั้นเดินเข้าไปหาเธอ และพูดว่า "คุณกลับมาแล้ว? กลับมาเมื่อไหร่? บาดเจ็บไหม? หน้าไปโดนอะไรมา? หนาวไหม?"
เขาถามเธอรัวๆ แต่ใจของต้วนอีเหยากลับรู้สึกโกรธ เมื่อครู่ยังหยอกกับผู้หญิงอื่นอยู่เลย ตอนนี้มาถามด้วยท่าทีอบอุ่นกับเธอ อารมณ์เปลี่ยนไปเร็วจริงๆ
"ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก แต่วันนี้เห็นประธานเย่น่าจะกำลังยุ่ง เชิญจัดการธุระของคุณต่อเถอะ ฉันไปละ" ต้วนอีเหยาพูดจบ ก็เดินขึ้นรถ แต่ถูกเย่จิงเหยียนดึงเข้ามากอด
"อย่าไปนะ ต้วนอีเหยา อย่าไปจากผม" เย่จิงเหยียนกอดเธอแน่นขึ้น กลัวว่าเธอจะหนีเขาไปอีก "ผมคิดถึงคุณ คิดถึงมากจริงๆ"
เย่จิงเหยียนรู้ว่าเธอกำลังโกรธ แต่ที่เธอโกรธก็หมายความว่าเธอยังสนใจเขาอยู่บ้าง
ต้วนอีเหยาผลักเขาออกอย่างแรง มองเขาด้วยสายตาเย็นชาว่า "ประธานเย่ คุณไม่ใช่ว่ามีคนกอดตลอดหรือ? คุณจะคิดถึงฉันทำไม"
"อีเหยา พวกเธอไม่ได้เป็นอะไรกับผม ผมสาบาน.."
"พี่จิงเหยียน" ถังยวีเวยแวดขึ้น รีบวิ่งเข้ามากอดแขนเขาและถามต่อว่า "ผู้หญิงคนนี้คือใครคะ?"
เย่จิงเหยียนสะบัดมือถังยวีเวยออกและพูดว่า "คุณถัง รบกวนคุณระวังคำพูดของคุณด้วย เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"
ถังยวีเวยน้ำตาไหล พูดต่อว่า "พี่จิงเหยียนทำไมต้องโหดร้ายกับฉันขนาดนี้คะ"
"เหอะ" ต้วนอีเหยาพูดขึ้น "พี่จิงเหยียน? ไอหยา พูดซะสนิทขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นแค่น้องสาวหรือเนี้ย"
"ฉันไม่ใช่น้องสาวย่ะ ฉันคือผู้หญิงที่จะแต่งงานกับพี่จิงเหยียนในอนาคต เธอเป็นใครมิทราบ?"
"เธอหุบปากเดี๋ยวนี้" เย่จิงเหยียนกล่าว เขาไม่ได้สนใจคำที่ถังยวีเวยพูด แต่เลือกที่จะดึงมือของต้วนอีเหยาและพูดขึ้นว่า "ภรรยาของฉันในอนาคต มีแค่เธอ"
ถังยวีเวยตกใจจนช็อก รีบพูดว่า "พี่จิงเหยียนชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ไง สวยก็ไม่สวย ผิวพรรณยัง..."
ยังไม่ทันพูดจบ เธอหันไปเห็นสายตาของต้วนอีเหยาพอดี เธอกลัวจนไม่กล้าพูดต่อ รีบไปหลบหลังเย่จิงเหยียน และพูดกับเขาว่า "พี่จิงเหยียนคะ เธอดุจัง"
ถ้าตอนนี้มีมืดอยู่ในมือ เย่จิงเหยียนต้องแทงเธอตายแน่
"คุณถัง เชิญคุณออกไปเดี๋ยวนี้" เย่จิงเหยียนพูด
ถังยวีเวยเป็นคนเอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก เธอสามารถว่าคนอื่นได้ แต่คนอื่นจะมาว่าเธอไม่ได้ "ถ้าพี่จิงเหยียนไม่ไปทานข้าวกับฉัน ฉันก็จะไม่ไปไหนคะ"
ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นผู้ชาย เย่จิงเหยียนคงซัดหน้าหงายไปแล้ว แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิง เขาเลยพยายามทน
เมื่อรู้ว่าไม่มีปัญญาปฏิเสธอเธอ จึงหันไปพูดกับต้วนอีเหยาว่า "คุณหิวไหม? ผมพาคุณไปทานข้าวดีไหม?"
ต้วนอีเหยาสะบัดมือเขาออกอีกครั้ง พร้อมกับพูดเสียงเรียบว่า "เย่จิงเหยียน ที่ฉันมาวันนี้มีจุดประสงค์แค่ 2 อย่าง 1.ดูว่านายเป็นเหมือนในข่าวไหม 2.มาตามสัญญา มาบอกว่าฉันปลอดภัยกลับมา ยังไม่ตาย และตอนนี้ฉันทำทุกอย่างที่ตั้งใจเสร็จหมดแล้ว ฉันก็จะกลับ นายทำธุระของนายต่อเถอะ ฉันไม่กวนแล้ว"
เย่จิงเหยียนใจร้อนรน เห็นภาพที่เธอกำลังจะเดินจากไป รีบรั้งเธอไว้ "ข่าวลือไม่เป็นความจริงเลย"
"ฉันรู้ เมื่อครู่ที่เธอโค้งคำนับ คงกำลังขอบคุณอยู่ซินะ ฉันเดาได้" ต้วนอีเหยาหัวเราะเบาๆ
แต่ยิ่งเธอขำ เย่จิงเหยียนยิ่งรู้สึกหวั่นใจ "แล้วทำไมต้องรีบไป? เวลาทานข้าวด้วยกันสักมื้อก็ไม่มีหรือ?"
ต้วนอีเหยายักไหล่และตอบง่า "ฉันยุ่งมาก"
"งั้นไม่เป็นไร แค่ได้เห็นหน้าุณก็โอเคแล้ว"
"แต่ฉันอยากบอกนายไว้นะ ถ้าต่อเราคบกันแล้ว ฉันไม่อยากเห็นภาพนายอยู่กับผู้หญิงคนอื่นในทุกๆครั้งที่ฉันกลับมา และยิ่งไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าของฉันไปกับเรื่องไร้สาระอะไรพวกนี้ด้วย"
เย่จิงเหยียนขวางเธอไว้ไม่ให้ขึ้นรถ และพูดกับเธอว่า "ผมไม่ดีเอง ครั้งต่อไปผมจะจัดการให้ดี ไม่ให้คุณมีเรื่องพวกนี้มารบกวนจิตใจ"
"หึ ใครจะไปรู้ ปกติฉันก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยนี่นา เย่จิงเหยียน ฉันคิดว่านายไปหาผู้หญิงที่เหมาะกับนายมากกว่านี้ดีไหม และแน่นอน.." ต้วนอีเหยามองไปทางถังยวีเวย "ว่าคงไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้ สมองมีปัญหา.."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...