"โอเค ฉันจะรอ"
หลังโทรหาแฟนเก่าเสร็จ เลขาหวังก็โทรมาด้วยความไม่พอใจ "จ้าวเสวียน ทำไมไม่มาทำงาน"
จ้าวเสวียนยิ้มบางๆ "เลขาหวัง วันนี้ผมขอลางาน"
"ขอลาหรอ ขอลาต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งวันไม่รู้รึไง"
จ้าวเสวียนพูดอย่างคลุมเครือ "เลขาหวัง มันเป็นเหตุสุดวิสัยน่ะ แถมวันนี้ประธานเย่ก็ไม่ได้ไปทำงานด้วย"
เลขาหวังเป็นคนฉลาด หลังฟังประโยคนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่ง และตอบ "รู้แล้ว"
หลังวางสายจ้าวเสวียนก็รู้สึกดีมาก การให้คนอื่นดูชีวิตของตัวเองมันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง รอให้เธอได้ตำแหน่งคุณนายเย่ก่อน เธอจะจัดการพวกที่ดูถูกคนอื่นในบริษัทให้หมด"
ระหว่างทางกลับจากโรงแรมมาที่บ้าน เธอก็เลือกซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาใส่ และแต่งหน้าอย่างสวยงาม เมื่อใกล้เที่ยงเธอก็ไปคอนโดของแฟนเก่า
เมื่อประตูเปิดออก เธอก็รีบเข้าไปทันที แฟนแก่ของเธออุ้มเธอขึ้นมาอย่างคุ้นเคย จากนั้นริมฝีปากหวานๆของเธอก็ประกบเข้าหาปากเขาโดยที่เขายังไม่ทันได้ถามอะไรสักคำ
เขาอึ้งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา มาให้เอาถึงที่ แถมเธอยังเป็นคนรักเก่าของเขา ทำไมเขาจะไม่เอาล่ะ
เมื่อมาถึงเตียง เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบของตรงโต๊ะข้างเตียง แต่ก็ถูกเธอห้ามไว้ก่อน "ไม่ต้องใส่ ระยะปลอดภัย"
แฟนเก่าของเธอได้ฟังก็เลิกคิ้วอย่างดีใจ เมื่อก่อนเธอให้เขาใส่ทุกครั้ง
ลาบปากแล้ว
หลังจากนั้นทั้งสองก็ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม และแฟนเก่าของเธอก็บีบคางของเธอแล้วถามว่า "ทำไมวันนี้เร่าร้อนจัง"
จ้าวเสวียนปรือตามองเขา "ฉันคิดถึงคุณ"
"คิดถึงผมหรอ" แฟนเก่ายิ้มบางๆ "ผมว่าคุณคันมากกว่า ท่าจะหิวจัด"
จ้าวเสวียนยกหน้าขึ้นมามองเขา และพูดอย่างใส่อารมณ์ "ทำไม ไม่ชอบรึไง"
"มาให้เอาถึงที่ก็ต้องชอบสิ" แฟนเก่าพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
จ้าวเสวียนลูบปากเขาเบาๆ แล้วแอบคิดในใจว่าถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จล่ะ อีกครั้งแล้วกัน เมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอก็ประกบปากจูบอีกครั้ง พลางพูด "เอาอีกรอบมั้ย"
ชายหนุ่มลุกขึ้นมาคล่อมเธอ "จะเอาจนหมดแรงเลย"
เกมสวาทอันดุเดือดโหมกระหน่ำอีกครั้ง ครั้งนี้จ้าวเสวียนไม่มีแรงแล้วจริงๆ ที่จริงเธอจะไปหาคนอื่นก็ได้ แต่ใจเธอก็รู้สึกว่าทำกับแฟนเก่าง่ายกว่า
"นี่ อย่าคิดไปไกลว่าฉันมาหาเพราะจะขอคืนดีล่ะ" จ้าวเสวียนพูดขณะนอนอยู่บนอกของเขา
สายตาของแฟนเก่ามืดลงเล็กน้อย และหัวเราะเบาๆก่อนจะพูด "ผมรู้ว่าคุณแค่มาหาความบันเทิง ไม่เป็นไร พวกเราวินวินทั้งคู่ ระหว่างผมยังหาแฟนไม่ได้ เชิญมาได้ตามสบายเลย"
"ความคิดดี"
จ้าวเสวียนแอบนับนิ้วในใจ เมนส์เพิ่งหมดไปได้ไม่นาน ช่วงนี้เป็นช่วงไข่ตกแล้ว เพื่อให้แผนการไม่ผิดพลาด ดูเหมือนว่าเธอจะต้องนอนกับผู้ชายคนนี้อีกสองสามครั้ง
ยังดีที่รู้จักกันดี ไม่อย่างนั้นเธอคงทำไม่ลง
เย่จิงเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ข้างถนนนานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งมีเสียงรถยนต์จอดลงข้างๆเขา เมื่อฟังเสียงเครื่องยนต์เขาก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ดของน้องสาว
และก็มีเสียงของเย่ชูวเสวียดังขึ้นข้างหูจริงๆ "พี่ทำไมนั่งอยู่ตรงนี้ เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้าน ตอนเช้าก็ไม่ไปทำงาน โทรหาก็ไม่รับ พ่อแม่เป็นห่วงจะแย่แล้ว"
เย่จิงเหยียนเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "หรูอี้ พี่เหนื่อยแล้ว"
เย่ชูวเสวียปวดใจขึ้นมา ครั้งก่อนที่เห็นเขาสภาพเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาทะเลาะกับต้วนอีเหยา ทำไมครั้งนี้ถึงหนักกว่าเดิม
"โอเค ฉันจะพาพี่กลับบ้านไปพักผ่อน มา ลุกขึ้นมา"
เย่จิงเหยียนนั่งอยู่ข้างถนนนานมาก ขาของเขาจึงชาไปหมด เมื่อลุกขึ้นมาจึงแทบล้มในทันที โชคดีที่เย่ชูวเสวียรับไว้ได้ทัน
เมื่อพาเขาขึ้นรถแล้ว เย่ชูวเสวียก้ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา พี่ชายของเธอดีทุกอย่าง ยกเว้นเขาชอบต้วนอีเหยาเกินไป ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ โลกของเขาก็พังทลายลงทันที ไม่รู้ว่าครั้งนี้เกิดเรื่องน่ากลัวอะไรขึ้นอีก
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เย่จิงเหยียนก้เดินขึ้นบ้านด้วยสภาพไร้วิญญาณ เย่ฉ่าวเฉินและคนอื่นๆได้แต่มองตามหลังเขาไปด้วยความเป็นห่วง
"เมื่อคืนวานเกิดอะไรขึ้น ท่าทางผิงอันดูไม่ดีมากๆ" มู่เวยเวยพูดอย่างกังวล
เย่ชูวเสวียพูด "ตอนที่หนูเห็นพี่นั่งอยู่ข้างถนนหนูก็ตกใจแทบแย่ เขานั่งนิ่งเป็นต้นไม้เลย"
"หรูอี้ หนูสนิทกับผิงอัน ลองไปถามดูซิ พวกเราไม่รู้อะไรเลยเลยทำอะไรไม่ได้"
"โอเคค่ะ หนูจะไปถามดู"
เย่ชูวเสวียวิ่งเหยาะๆขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้อง "พี่ ฉันเอง"
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากข้างใน เย่ชูวเสวียจึงพูดอีก "ถ้าไม่ตอบจะเข้าไปแล้วนะ"
เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นเย่จิงเหยียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง สายตาล่องลอย จนทำให้เย่ชูวเสวียรู้สึกปวดใจขึ้นมา เะอจึงรีบไปถามเขาข้างเตียงเสียงเบา "เกิดอะไรขึ้น พี่บอกฉันมา เก็บเอาไว้ในใจมันจะแย่เอานะ"
สายตาของเย่จิงเหยียนไม่ขยับสักนิด เขาเงียบไม่พูดอะไรนานมาก
"พี่ พี่สาวทำพี่เสียใจหรอ" เย่ชูวเสวียถามอีกครั้ง
ครั้งนี้สายตาของเขากระตุกไปมา นัยย์ตาเต็มไปด้วยความเสียใจ
เย่ชูวเสวียเห็นว่าตัวเองเดาถูกจึงนั่งไขว่ห้างอยู่หน้าเตียงเขา "พี่จริงๆแล้วฉันอิจฉาพี่มากเลยนะที่ผู้หญิงในใจตั้งแต่เล็ก อย่างน้อยพี่ก็มีที่ยึดเหนี่ยวในใจ ตอนเบื่อพี่ยังคิดถึงเธอได้ แต่ฉันล่ะ โตขนาดนี้แล้ว ขนาดคนที่คิดถึงยังไม่มีเลย"
แม้หนานกงเจาจะไม่ได้มาปรากฏตัวอยุ่ในสายตาของเธอช่วงนี้ แต่ข้อความของเขาก้มาไม่เคยขาด อรุฯสวัสดิ์ ฝันดี เมื่อากาศหนาวก็เตือนเธอให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ และบางที่ก็ส่งของขวัญให้เธอต่างๆ
เธอไม่เคยตอบกลับข้อความเขาสักอัน ขนาดของขวัญถ้าเปิดแล้วไม่ชอบหรือไม่อยากได้ เธอก็ให้ผู้หญิงในร้านไปฟรีๆ
แต่เมื่อได้ยินมาว่าครั้งนั้นหนานกงเจาถูกทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาล และเหมือนจะต้องผ่าตัดซึ่งเสี่ยงมาก เธอก็รู้สึกเห็นใจเขาเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกเกลียดเขาขนาดนั้น
ขณะที่เย่ชูวเสวียจมอยู่กับความคิดของตัวเองนั้น เย่จิงเหยียนก็พูดด้วยเสียงแหบพร่า "พี่ทำเธอเสียใจ"
"ห๊ะ" เย่ชูวเสวียยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งคิดครู่หนึ่งถึงจะเข้าใจ ที่แท้เขาก็ตอบคำถามเมื่อกี้ของเธอ จากนั้นเธอก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ พี่ชายของเธอดีกับต้วนอีเหยาขนาดนั้น จะทำให้เธอเสียใจได้ยังไง
"พี่...ทำอะไรให้พี่สาวหรอ" เย่ชูวเสวียถามอย่างระวัง
ใจของเย่จิงเหยียนแตกละเอียด เขาหัวเราะเยาะตัวเองอย่างขมขื่น "พี่นอนกับผู้หญิงคนอื่น"
"ห๊ะ" เย่ชูวเสวียร้องออกมาอย่างตกใจ จากนั้นก็คุมอารมณ์ถามเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ "พี่ว่าอะไรนะ"
เย่จิงเหยียนหัวเราะเบาๆ แต่น้ำตากลับไหลออกมาจากหางตา
"เมื่อวาน...พี่ดื่มหนัก ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปนอนโรงแรมกับผู้หญิงคนอื่น...." เย่จิงเหยียนพูดถึงตรงนี้ก็หยุด จากนั้นสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า "ตอนเช้า อีเหยามาหาพี่ และเธอก็บังเอิญเห็น..."
เย่ชูวเสวียดวงตาเบิกโพรง นานมากกว่าจะเปล่งคำพูดออกมาได้ "พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไง"
เย่จิงเหยียนยกมือขึ้นมาปิดหน้า "พี่ก็ไม่รู้ พี่เมา ไม่รู้อะไรเลย..."
"พี่...." เย่ชูวเสวียอยากจะชกพี่ชายจริงๆ เธอโกรธจนเดินวุ่นไปทั่ว "จบแล้วๆ ถ้าฉันเป็นพี่สาวฉันจะไม่ให้อภัยพี่ไปตลอดชีวิตเลย ทำไมพี่ถึงทำไปได้ ถึงจะเมาก็ไม่ควรไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น"
เย่จิงเหยียนเสียใจอย่างสุดซึ้ง "พี่อาจจะเห็นผู้หญิงคนนั้นเป็นอีเหยา ดังนั้นก็เลย...."
เย่ชูวเสวียยกมือเท้าเอว ความเห้นใจที่มีต่อพี่ชายได้หายไปหมด เหลือแต่ความโมโห "โอเคๆ ในเมื่อพี่นอนกับคนอื่น แล้วตอนเช้าพี่จะให้พี่สาวไปหาทำไม รนหาที่ตายหรอ"
"พี่ไม่ได้เรียกเธอให้มาหา...." พูดถึงตรงนี้ เย่จิงเหยียนก็ลุกขึ้นมาจากเตียงทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย "ใช่สิ อีเหยารู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่โรงแรมไหน ห้องไหน"
เย่ชูวเสวียรีบถาม "พี่ไม่เคยบอกพี่สาวหรอว่าอยู่ไหน"
"ไม่ได้บอก พี่เกิดอยากกินเหล้าขึ้นมา พอเมาแล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปที่ไหน พี่จะบอกเธอได้ยังไง"
เย่ชูวเสวียตาเป็นประกายขึ้นมา เธอนั่งลงข้างเตียง "พี่น่าจะโดนจัดฉากแล้ว บางทีพี่อาจจะไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้"
เย่จิงเหยียนเงยหน้ามองเธอนิ่ง
"มาถึงขนาดนี้แล้วจะมีอะไรให้พูดอีก" เย่ชูวเสวียพูดโกรธๆ
เย่จิงเหยียนพูดอย่างคลุมเครื่อ "บนเตียงมีคราบเลือด"
เย่ชูวเสวียรู้สึกเขินขึ้นมา เมื่อเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ หน้าของเะอก็แดงขึ้น
บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ ทั้งคู่ต่างจมอยู่กับความคิดของตนเอง ก่อนที่จะพูดออกมาพร้อมกัน "เรื่องนี้ไม่ธรรมดา"
ทั้งคู่ตกตะลึง เมื่อเห็นดวงตาที่แน่วแน่ในดวงตาของกันและกัน ความหดหู่และความเสียใจของเย่จิงเหยียนก็หายไปหมด เขารีบลงจากเตียงพลางพูด "พี่ไปตรวจดูก่อน"
เย่ชูวเสวียเดินตามหลังเขา พูดอย่างไม่อาย "ถูก จะโดนข่มขืนไม่ได้..."
เย่จิงเหยียนหยุดหันไปมองเธอ "พูดถึงตัวเองหรอ"
เย่ชูวเสวียพูดหน้าด้านๆ "วันนั้นฉันเมาจริงๆ...คือถ้าจะไปตรวจสอบก็อาบน้ำก่อนเถอะ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย"
เขาก้มหน้าดมกลิ่นตัวเอง มันเหม็นจริงๆ แถมบนตัวยังมีกลิ่นของผู้หญิงคนนั้น เขาจึงเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
เย่ชูวเสวียรีบลงไปรายงานให้พ่อกับแม่ฟัง
สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินกับมู่เวยเวยเปลี่ยนไปไม่ต่างจากสีหน้าของลูกสาว ตอนแรกก็มีความกังวล จากนั้นก้เคร่งเครียดขึ้นมา
"สองคนพี่น้องนี่มันช่าง..." มู่เวยเวยโกรธจนพูดไม่ออก เย่ฉ่าวเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆจึงรีบลูบหลังเธอให้ใจเย็นลง "อย่าโกรธๆ"
"คุณก็เหมือนกัน เพราะกินเหล้าทั้งนั้น" มู่เวยเวยคิดถึงตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกขึ้นมา ถึงแม้ตอนจบจะลงเอยด้วยดี แต่ก็ผ่านความยากลำบากมามาก
เย่ฉ่าวเฉินรีบยอมรับผิด "ผมผิดไปแล้ว คุณอย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวความดันก็ขึ้นหรอก"
เย่ชูวเสวียไม่กล้าเถียง ได้แต่นั่งก้มหน้ายอมรับความโกรธของแม่
"ผิงอันล่ะ" มู่เวยเวยถามโกรธๆ
เย่ชูวเสวียชี้ไปข้างบน "อาบน้ำอยู่ค่ะ"
"หึ ลูกสะใภ้ดีๆก็โกรธหนีไปแล้ว ต่อไปเหลือแต่เขาที่ต้องร้องไห้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...