เขารู้สึกไม่สบายใจ แค่ถามไปคำถามเดียวทำไมเธอถึงโกรธ แล้วเขาจะกล้าบอกข่าวที่เปรียบเสมือนระเบิดนั้นกับเธอได้ยังไง? เขาต้องถูกตัดสินให้ออกอย่างแน่นอน
ในตอนที่กินอาหารเย็น เย่จิงเหยียนเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เพื่อทำให้เธอมีความสุขเลยพูดว่า " ฉันจะเล่าเรื่องตลกของฉันสมัยเรียนให้เธอฟังนะ "
ต้วนอีเหยาดื่มน้ำสุขอย่างกับคนไร้เรี่ยวแรง เธอตอบเพียงว่า " อือ "
" ตอนที่ฉันอยู่มหาวิทยาลัยปีสอง ฉันก่อตั้งบริษัทเกมส์ขึ้นมาแห่งหนึ่ง เพราะว่าฉันมักจะใช้เวลาอยู่นอกมหาวิทยาลัยมากกว่า ดังนั้นวิชาเลือกบางวิชาฉันเลยไม่ได้ตั้งใจเรียน มีครั้งหนึ่งเป็นวันสอบ ฉันไปห้องสอบแต่เช้าเพื่อเลือกที่นั่ง เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ฉันเลยเข้าไปคุยกับเขาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เพื่อน เดี๋ยวตอนสอบให้ฉันยืมลอกหน่อยนะ เขาหันมามองหน้าฉันแวบหนึ่งแล้วไม่ได้พูดอะไร ฉันเลยถือว่าเขาตอบตกลงแล้ว ไม่นานเสียงกริ่งก็ดังขึ้น สุดท้ายผู้ชายคนนี้กลับเดินขึ้นไปบนแท่นพูด......"
พอเล่าถึงตรงนี้เย่จิงเหยียนก็หยุดพูด ด้วยความที่ต้วนอีเหยาก็อยากรู้เลยถามเขาว่า " เขาขึ้นไปทำไม? "
เย่จิงเหยียนยิ้มอย่างขมขื่น " แจกข้อสอบไง เขาเป็นอาจารย์ประจำวิชานั้นของพวกเรา "
" ฮ่าๆๆๆ......" ต้วนอีเหยาหัวเราะเสียงดัง อารมณ์ที่เศร้าหมองของเธอก็หายไป " หลังจากนั้นละ? "
" เขาก็ให้ฉันสอบตกนะสิ " เย่จิงเหยียนพูด " ครั้งนั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ฉันสอบตกตั้งแต่เรียนมา อีกทั้งในวันสอบวันนั้น เขาจงใจมานั่งข้างๆฉัน อยากใช้โทรศัพท์ออกมาค้นหาก็ทำไม่ได้ การสอบครั้งนั้นมันน่าจดจำจริงๆ "
" ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วย "
" ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะเป็นอาจารย์ ดูภายนอกยังหนุ่มอยู่เลย " พอเย่จิงเหยียนเห็นเธอมีความสุข เขาเองก็มีความสุขมาก ตักซุปเพิ่มให้เธอแล้วพูดว่า " ดื่มอีกหน่อยนะ นี่เป็นซุปที่ฉันสั่งทำพิเศษเลยนะ ผู้หญิงดื่มแล้วช่วยบำรุงเลือดได้ดี "
" ฉันดื่มไปถ้วยใหญ่มากแล้ว " ต้วนอีเหยาทำปากจู๋แล้วพูด เผยให้เห็นถึงความขี้อ้อนแสนอ่อนโยนแบบที่ผู้หญิงมี
" คนดี ดื่มอีกหน่อยนะ จะได้หายเร็วๆ "
ต้วนอีเหยาพอได้ยินคำว่า " คนดี " ใจก็แทบละลาย เธอจึงก้มหน้าดื่มต่อ
เย่จิงเหยียนยิ้มตั้งแต่ปากจนถึงตาเลย
ภายใต้การดูแลเอาใจใส่ของเย่จิงเหยียน แผลของต้วนอีเหยาก็หายอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่ซีดเซียวก็กลับมามีชีวิตชีวา สำหรับเย่จิงเหยียนนั้นเขาแข็งแรงไม่ต่างจากคนปกติทั่วไปเลย
บ่ายของวันนั้น เย่จิงเหยียนถือถุงสองใบลงมา แล้วเคาะประตู ด้านในไม่มีเสียงใดๆ
" หัวหน้านอนกลางวันอยู่ มีเรื่องอะไร? " ชิงหลงที่ไม่รู้ว่าโผล่ขึ้นมาจากไหน
เย่จิงเหยียนสะบัดถุง " ฉันเอาชุดมาให้เธอเปลี่ยนสองสามชุด เธอไม่ควรจะใส่แต่ชุดผู้ป่วย "
" อ้อ อย่างนั้นคุณก็เข้าไปเถอะ แต่ว่าเสียงเบาๆหน่อยนะ " พอพูดจบ ชิงหลงก็หันหลังแล้วเดินไปยังห้องผู้ป่วยข้างๆ
ในห้องผู้ป่วยมีผ้าม่านปิดอยู่และมีแสงส่องเข้ามาแบบสลัวๆ หญิงสาวนอนตะแคงหลับอยู่ในผ้าห่ม แต่ก่อนเธอนอนตัวตรงตลอด แต่เป็นเพราะตอนนี้หลังของเธอได้รับบาดเจ็บ เธอเองก็พึ่งชินกับการนอนตะแคง
เย่จิงเหยียนวางเสื้อผ้าลงบนโซฟา เดินไปนั่งลงข้างเตียง แล้วมองหน้าเธอเงียบๆ
หน้าของเธอกลมกว่าเมื่อสองวันก่อนเยอะมาก เธอขมวดคิ้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอฝันถึงอะไร
เย่จิงเหยียนโน้มตัวไปจูบที่หน้าผากเธอหนึ่งที ตอนที่ลุกขึ้นก็สังเกตเห็นว่าเธอลืมตาแล้ว ลูกปืนในมือของเธอจ่ออยู่ที่หน้าอกของเขา
" ทำไมเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย "ต้วนอีเหยาเก็บปืนเข้าไปในผ้าห่มเหมือนเดิม เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
" ชิงหลงบอกว่าเธอหลับแล้ว ฉันไม่อยากรบกวนเธอ " ท่าทีของเย่จิงเหยียนไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นห่วงเธอมากขึ้น นอนหลับยังหลับไม่สนิท
ต้วนอีเหยาขยี้ตาแล้วเธอก็ยิ้ม " ไม่ได้ทำให้คุณตกใจใช่ไหม? "
เย่จิงเหยียนเสยผมหน้าม้าขึ้นแล้วพูดอย่างอ่อนโยน " สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดในโลกก็คือการที่เธอต้องจากฉันไป นอกเหนือจากนั้นไม่ว่าอะไรฉันก็ไม่กลัว "
ดวงตาของต้วนอีเหยาเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น จากนั้นก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม และพูดพึมพำว่า " ฉันยังอยากนอนอยู่ "
" เธอนอนไปเลย ฉันจะอยู่กับเธอตรงนี้ "
ต้วนอีเหยาลังเลอยู่พักหนึ่ง ตบไปข้างเตียงตัวเองแล้วพูดว่า " คุณง่วงไหม? ถ้าง่วงนอนก่อนได้นะ "
เย่จิงเหยียนรู้สึกประหลาดใจสองวินาที จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมและรองเท้าออก เขามุดตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็นอนมองหน้าเธอ มองใบหน้าที่เขินแดงของหญิงสาว เขากระซิบบอกเธอ " ฉันก็ง่วงอยู่พอดี "
หญิงสาวหลับตาอยู่ ตาของเธอกระตุกรัวมาก และเธอก็ยิ้มอย่างอดใจไม่ไหว
อาจจะเป็นเพราะว่าใกล้กันมาก ใกล้ถึงขั้นได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของกันและกัน เย่จิงเหยียนถูกลมหายใจของเธอดึงดูด เขามองไปที่ริมฝีปากของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนสุดๆ " เหยาเหยา ฉันอยากจูบเธอ "
ต้วนอีเหยาลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายและแววตาเธอแสดงถึงความไม่เห็นด้วย กำลังจะตอบว่า " ไม่ได้ " แต่ริมฝีปากของเธอถูกชายหนุ่มจูบไปแล้ว......"
เหมือนมีขนนกเกาะอยู่บนหัวใจเธอ รู้สึกคันแต่ก็รู้สึกมีความสุข ต้วนอีเหยามองไปที่ดวงตาคู่นั้น ในแววตามีแต่เงาของตัวเธอเอง แล้วเธอก็หลีบตาลง
เย่จิงเหยียนเห็นว่าเธอยินยอม เลยยิ่งจูบอย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีก เขาคิดถึงเธอมาตั้งนาน แต่นี้จะไปพอได้ไง? แลบลิ้นเข้าไปพันลิ้นของเธอ ลิ้นทั้งสองพันกันเป็นเกลียว จูบกันอย่างดูดดื่มและโหยหิว เขากระหายที่จะลิ้มลองรสชาติที่เป็นของเธอ......
ทั้งสองบรรลุนิติภาวะแล้ว และมีความรักที่ดีต่อกัน พอเจอกันก็เหมือนไฟที่โหมกระหน่ำ แตะกันก็จุดติดในทันที
อ่อนโยนราวกับน้ำ ครอบงำอย่างดุเดือด
เย่จิงเหยียนกอดเอวของเธอแน่น ราวกับว่าอยากจะฝังเธอไว้บนร่างการตัวเอง มือของเขาล้วงเข้าไปในเสื้อผ้าของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ รู้สึกบ้าคลั่งกับความบอบบางและความอ่อนโยนของเธอ......
จนกระทั่งต้วนอีเหยารู้สึกว่ามีบางอย่าง เธอก็เลยเรียกสติกลับมา แล้วใช้มือบิดหูใครบางคน แล้วพูดว่า " หยุด หยุด "
รอยจูบของเย่จิงเหยียนลามไปถึงไหปลาร้าของเธอ พอได้ยินเสียงเธอเขาก็หยุด เขาเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่เปล่งประกายและอ่อนโยนราวกับน้ำของหญิงสาว ขากนั้นก็จูบที่ริมฝีปากของเธอแล้วเอาตัวเธอมากอด
" เหยาเหยา เหยาเหยา......" เขากระซิบอยู่ข้างหูเธอครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่าจะตะโกนเข้าไปฝังในจิตวิญญาณของเธอให้ได้ ในวินาทีนั้น ต้วนอีเหยาเกือบจะละทิ้งความต่อต้านของเธอมีในใจแล้ว
" คุณทรมานมากหรอ? "ต้วนอีเหยาถามด้วยน้ำเสียงอึดอัด
เย่จิงเหยียนไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เละแกล้งทำเป็นน่าสงสาร " ใช่ ทรมานมาก แต่ว่าถ้าเธอไม่อยากฉันก็จะไม่บังคับ "
ต้วนอีเหยาเงียบไปสักพัก แล้วพึมพำออกมาว่า " ฉันรู้สึกว่าเราพัฒนาไปเร็วเกินไป "
" ฉันรู้ ฉันรอได้ " เย่จิงเหยียนขยี้ผมสั้นของเธอ แล้วพยายามระงับไฟในตัวของตัวเอง " คนดี นอนสะนะ "
ต้วนอีเหยาหลับด้วยวิธีนี้ครั้งแรก แต่ก็หลับไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเป็นเพราะมีเขาอยู่ข้างกายแล้วรู้สึกสบายใจ
เย่จิงเหยียนยิ้มเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ
เดิมทีเขาแค่อยากจะมาส่งเสื้อผ้าให้เธอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะโชคดีขนาดนี้ เขารู้สึกดีใจและพอใจมาก
ในช่วงบ่ายที่เงียบสงบ ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เป็นการนอนกลางวันที่สุดแสนงดงามที่สุด
ในวันต่อมา หลังจากที่คุณหมอได้ทำการตรวจเช็คร่างกานของเย่จิงเหยียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งมาก " คุณเย่ คุณสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว "
" หะ? ไวขนาดนี้เลยหรอ? " เย่จิงเหยียนรู้สึกประหลาดใจ
" คุณหายดีแล้ว เลยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว " หลังจากผ่านการรักษาตัวมาหลายครั้ง หมอก็เริ่มคุ้นเคยกับความสามารถที่รักษาตัวเองอันทรงพลังของเขา
ร่างกายของตัวเอง ตัวเองย่อมรู้ดีที่สุด แน่นอนว่าเย่จิงเหยียนรู้ตัวดีว่าเขาหายดีแล้ว แต่ว่าต้วนอีเหยายังไม่หายดี " คุณหมอ ฉันของอยู่ต่ออีกสองวัยได้ไหม? "
คุณหมอลำบากใจ " คุณเย่ ฉันยังไม่เคยเห็นคนที่ไม่อยากออกจากโรงพยาบาลเลยสักครั้ง ต้องขอโทษด้วย ห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลเรามีจำกัด คุณควรหลีกให้กับคนที่ต้องการต้องใช้จริงๆจะดีกว่า "
" แล้วต้วนอีเหยาจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่? "
เยาจิงเหยียนคิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า " แล้วเธอสามารถออกไปพักฟื้นที่บ้านได้รึเปล่า? "
" ไม่ได้ ก่อนที่หัวหน้าจะไปเขาเคยสั่งไว้ ตราบใดที่เธอยังไม่หายดีเธอห้ามก้าวขอออกจากโรงพยาบาลแม้แต่ก้าวเดียว อีกทั้งตอนเวลาให้ยา ทายา ก็ไม่สะดวกด้วย "
เย่จิงเหยียนล้มเลิกความคิดนี้ แล้วถามขึ้นอีกครั้ง " ฉันขออยู่อีกสองวันไม่ได้จริงหรอ? "
" ไม่ได้ ท่านลองไปถามพยาบาลที่โต๊ะดูสิ ว่ายังคนไข้อีกกี่คนที่รอเตียงนี้อยู่ "
เย่จิงเหยียนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย " ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล"
" ท่านไม่ต้องเสียค่ารักษาแล้ว ค่ารักษาทั้งหมดยกให้เป็นภาระของโรงพยาบาลของเรา "
เรื่องนี้เย่จิงเหยียนไม่มีอะไรจะพูด น่าจะเป็นคำสั่งของคนเบื้องสูงคนนั้น " ฉันรู้แล้ว "
หลังจากที่คุณหมออกไปแล้ว เย่จิงเหยียนก็โทรหาน้องสาว ให้เธอมารับเขาออกจากโรงพยาบาลหน่อย และรวดเดินไปบอกลาต้วนอีเหยาชั้นบนสักหน่อย
" ไปเถอะๆ อย่าลืมมาส่งอาหารอร่อยๆให้ฉันนะ " ต้วนอีเหยาใส่ชุดที่เขาเอามาให้เมื่อวาน นอนเล่นเกมส์อยู่บนเตียง สำหรับเรื่องที่เขาได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอะไร ถึงเขาจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่เขาก็ต้องมาบ่อยๆอย่างแน่นอน
" ถ้าเธอมีอะไรที่อยากกินก็โทรบอกฉันนะ "
" รู้แล้ว "
" ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ " เย่จิงเหยียนอาลัยอาวรณ์ ในตอนนั้นต้วนอีเหยากำลังเล่นเกมส์อย่างดุเดือดเลยไม่ได้สนใจเขา เย่จิงเหยียนมีแรงกระตุ้นบางอย่าง เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วเสยคางเธอขึ้นจากนั้นก็ก็จูบเธออย่างดุเดือด
ต้วนอีเหยาอึ้งไปสองวินาที ได้ยินคำว่า " โอเค " ดังมาจากในโทรศัพท์ เธอก็ตะโกนออกมา " โอ๊ย เป็นเพราะคุณเลย ฉันเล่นเกมส์ตายเลย "
" ใครให้เธอไม่สนใจฉันละ? " เย่จิงเหยียนรู้สึกร้อนรน
ต้วนอีเหยายังไม่เคยชินกับบทบาทของแฟน เลยพูดออกไปด้วยความมึนๆงงๆ " คุณก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มาที่นี่อีกนี่นา คุณต้องการให้ฉันล่ำลาคุณอย่างเศร้าโศกเสียใจหรอ? "
เย่จิงเหยียนรู้สึกหดหู " ได้ เธอเล่นเกมส์ไปเถอะ ฉันไปละ "
" เดี๋ยวก่อน " ต้วนอีเหยาเห็นว่าเขาโกรธ เลยชี้แล้วบอกเขาว่า " มานี่ "
เย่จิงเหยียนเชื่อฟังคำสั่งเธอและโน้มตัวเข้าไปใกล้เธอ ต้วนอีเหยากอดคอเข้าไว้ แล้วจูบริมฝีปากเขาอย่างสบายๆแล้วพูดว่า " พรุ่งนี้ฉันอยากดื่มซุปไก่ "
เย่จิงเหยียนโน้มตัวเข้าไปกัดริมฝีปากที่ชุ่มชื้นของเธอไปหนึ่งที แล้วพูดเสียงต่ำ " รับทราบครับ ผู้พัน "
ในระหว่างทางกลับบ้าน เย่จิงเหยียนก็เอาแต่รำลึกถึงรสชาติการจูบนั้น หญิงสาวที่เธอชอบบางทีเธอก็อ่อนโยนมาก บางทีเธอก็โหดมาก แต่ว่าไม่ว่าจะตอนไหน เขาก็ชอบทั้งนั้น
ในตอนที่รถขับไปจนเกือบจะถึงคฤหาสน์แล้ว เย่จิงเหยียนก็พึ่งสังเกตเห็นว่านี่ไม่ใช่ทางกลับคอนโด เขาขมวดคิ้วแล้วหันหน้าไปถามหรูอี้ " ทำไมเธอถึงขับกลับบ้านละ? "
" ข้าน้อยทำตามคำสั่งของแม่ว่าจะต้องพาตัวพี่กลับบ้านให่ได้ น้องจะไปกล้าขัดคำสั่งได้ไง? " เย่ชูวเสวียพูดด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...