"ขอถามหน่อย ท่านประธานเย่ ท่านจะชดใช้ จ้าวเสวียนอย่างไง"
"จะชดใช้อย่างไงขึ้นอยู่กับจ้าวเสวียน ฉันจะเคารพในการตัดสินใจของนาง ขอแค่ไม่เกินที่ฉันจะรับได้ ฉันจะทำให้นางสมหวัง ว่าไปแล้วเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้นก็เป็นฉันเองที่เป็นคนผิด"
เย่จิงเหยียนพูดอย่างชัดเจน แม้จะไม่ได้เต็มใจทั้งหมด แต่การยอมรับของเขาก็ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า เขาเป็นคนกล้าทำกล้ารับ
" นางเสนอเงื่อนไขอะไร ทำให้ท่านไม่กลับรับหรือ เป็นเงินหรือว่าเป็นอย่างอื่น" นักข่าวคนก่อนถามต่อ
"ในด้านการเงินเราคุยกันได้ และให้นางพอใจแน่นอน มีเพียงเงื่อนไขเดียวที่ฉันไม่มีวันตอบรับแน่นอน" เย่จิงเหยียนมองหน้ากล้องและพูดอย่างจริงจังว่า "นั่นก็คือการแต่งงาน คนที่ฉันรักมีแค่คนเดียว และชีวิตนี้จะแต่งกับคนนี้คนเดียว นั่นก็คือ คนที่สามที่พูดถึงกัน คนอื่นไม่อยู่ในตัวเลือกของฉัน"
ผู้หญิงเสียงที่อยู่ในสถานการณ์ถอนหายใจทุกคน ผู้ชายที่จริงใจอย่างนี้ ผู้หญิงคนไหนจะไม่สนใจล่ะ
จ้าวเสวียนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเห็นข่าวที่ถ่ายทอดสดนี้โกรธจนแทบจะโยนมือถือบนมือทิ้ง ครั้งนี้ผิดแผนแล้ว ตอนแรกคิดจะใช้ความกดดันจากการเจรจา บังคับให้เย่จิงเหยียนสู่ขอนาง และรวดทำร้ายต้วนอีเหยา คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่สนใจชื่อเสียงของตนเอง แม้ว่าจะมีคนด่าเป็นพันมีคนว่าเป็นหมื่นเขาก็ไม่ได้แคร์เลย
ในทางตรงกันข้าม ต้วนอีเหยาที่อยู่ในโรงพยาบาลถึงกับตาแดง นางคิดไม่ถึงว่าต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างนี้เย่จิงเหยียนยังชี้แจงเพื่อนาง ต้องเข้าใจว่าการยอมรับว่า ตัวเองกินแล้วเมาทำ
อะไรอย่างไรสติ และยอมรับว่าจ้าวเสวียวทำแท้ง จะมีผู้หญิงมากมายด่าเขาว่าเป็นผู้ชายไร้จิตสำนึก แม้ว่าจะมีผู้หญิงที่ทำแท้งเพื่อเขาแต่เขาก็ยังพูดอย่างเลือดเย็นว่าจะไม่แต่งกับนาง
"ท่านประธานเย่ ฉันเพิ่งเห็นพาดหัวข่าวนั้น ท่านทำจริงๆหรือ"
"ใช่" เย่จิงเหยียนพูดอย่างตรงไปตรงมา "ข่าวที่จริงครึ่งไม่จริงครึ่งแบบนี้ไม่ควรลบออกหรือ พวกท่านไม่เห็นว่าโพสต์นี้ได้ถูกแชร์อีกหรือ มันชี้ชัดว่ามีคนตั้งใจให้เกิดอย่างแน่นอน อีกอย่างฉันได้บอกให้คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หยุดการกระทำของคุณซะ ถ้าไม่อย่างงั้น หลักฐานทางกฎหมายของเราจะไปถึงมือคุณในไม่ช้า"
ท่าทางของเย่จิงเหยียนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและมีเสน่ห์ สามารถกดทับความไม่พอใจของนักข่าวที่อยู่ในขณะนั้นได้ เขาหันหน้าไปหาไมค์ทุกตัว ถามยังไม่ไม่เกร็งว่า “ขอถามหน่อย มีอะไรจะถามอีกไหม”
มีนักข่าวหญิงคนหนึ่งถามเบาๆว่า “ ประธานเย่ ได้ยินมาว่าแฟนของคุณเป็นทหาร คุณพอจะให้ข้อมูลมากกว่านี้ได้ไหม”
เมื่อพูดถึงต้วนอีเหยา สีหน้าของเขาก็นุ่มนวลลงเยอะ บนใบหน้าหน้ายังมีลักยิ้มเล็กน้อย “ เธอเป็นทหาร เธอเป็นคนที่สูงส่งมาก ใช่ว่าใครก็จะให้ร้ายกับเธอได้ง่ายๆ แต่ต้องขอโทษจริงๆ ผมไม่สามารถให้ข้อมูลมากกว่านี้ได้ และขอพวกคุณไม่ต้องไปจับตานาง จะทำให้นางรู้สึกอึดอัด และเป็นการสร้างความกดดันให้กับเธอด้วย”
นักข่าวก็ยังไม่ยอมแพ้ ถามต่อว่า “ เมื่อกี้ ท่านบอกว่ารู้จักเธอตั้งแต่เด็ก คุณสองคนเป็นคู่รักตั้งแต่เด็กใช่ไหม”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่จิงเหยียนชัดเจนมาก “ เรารู้จักกันในบ้านเด็กกำพร้า หลังจากนั้นก็ติดต่อกันด้วยจดหมาย แบบนี้เรียกว่าเป็นคู่รักกันตั้งแต่เด็กได้ไหมล่ะ”
นักข่าวหญิงถูกความรักที่โบราณโบราณของเย่จิงเหยียนดึงดูดเข้าแล้ว เธอ รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ ได้ ได้แน่นอน”
“ขอบคุณ ถ้างั้นนางก็เป็นคู่รักของฉันแน่นอน”
ทางด้านของต้นอีเหยาแย้งว่า“ ใครบอกละว่าฉันเป็นคู่รักของเธอ เป็นเจ้านายของเธอต่างหาก”
การสัมภาษณ์ข่าว สิ่งที่ควรจะถาม ก็ถามไปหมดแล้ว สิ่งที่ไม่ได้ถามก็พูดไปไม่น้อย สุดท้ายเย่จิงเหยียนพูดว่า “เรื่องส่วนตัวของฉัน สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากมายขนาดนี้ กลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนทั่วไป สิ่งนี้บ่งบอกว่า แย่ฮวางของเราในสายตาของผู้คนก็มีความสำคัญไม่น้อย หวังว่าทุกคนจะติดตามผลิตภัณฑ์ใหม่ของเย่ฮวาง แน่นอนว่า ตอนนี้มีคนนินทาลับหลังฉันไม่น้อย คำแนะนำและคำติเตียนพวกท่านผมจะเป็นคนรับทั้งหมด และผลที่ตามมาทั้งหมดฉันก็จะรับผิดชอบ แต่ว่า ขอพวกท่านอย่าได้ไปก้าวก่ายคนอื่น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันสิ้นสุดความอดทนได้ ขอบคุณทุกคน”
คำพูดสรุปสุดท้ายของเย่จิงเหยียนทำให้ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ของเย่ฮวางอินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ปตบมือเป็นกันใหญ่ เป็นประธานตัวจริง แม้ว่าจะชี้แจงข่าวต่างๆ ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดถึงบริษัท
เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดสด หลังจากการสัมภาษณ์สิ้นสุดลงครึ่งชั่วโมง โพสต์ที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตก็หายไปในพริบตา ทุกคนเชื่อในคำพูดของเย่จิงเหยียน ที่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมีคนตั้งใจทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งเย่ฉาวเฉินและมู่เวยเวยที่นั่งอยู่ที่บ้านเมื่อดูการสัมภาษณ์จบ จ้องหน้ากันแล้วหัวเราะ พูดว่า “ดีแล้ว จากนี้ไปเรื่องของลูกชายเราไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว เขาสามารถจัดการเองได้”
“ถูกต้อง จากเหตุการณ์นี้ ฉันรู้สึกว่ามอบเย่ฮวางไว้ในมือของเขา ไม่ล้มละลายแน่นอน เราสองคนคิดเรื่องจะไปเที่ยวประเทศไหนดีกว่า”
“ ดีๆ ตามใจเธอแล้วกัน” เย่ฉาวเฉินกอดลงบนไหล่ของเธอ ถ้าหากว่าเป็นตอนหนุ่มสาว เขาอยากจะไปกันแค่ 2 คน แต่ว่าตอนนี้อายุมากแล้ว การไปกับครอบครัวและไปกับเพื่อน คงจะเป็นอะไรที่มีความสุขกว่า
ในโรงพยาบาล
มือทั้งสองข้างของต้วนอีเหยารองหัวของเธอไว้ เธอมองบนเพดานตลอดเวลา ตัวเองรู้สึกว่ามีเหตุผลบางอย่างที่จะต้องให้อภัยต้วนอีเหยา แต่สิ่งที่เขาทำลงไป ล้วนแล้วไม่ได้มีอะไรดีต่อตัวเองเลย
“ ผู้กอง เกิดเรื่องแล้ว” ชิงหลงผลักประตูเข้ามา ด้วยใบหน้าที่จริงจังมากกว่าปกติ
ต้วนอีเหยายกตัวขึ้นมา “ เกิดอะไรขึ้น”
“ คนของเราถูกจับขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่”
“อะไรนะ” ต้วนอีเหยาอึ้งไปสักพัก “ถูกใครจับ แล้วอยู่ที่ไหน”
“ที่ชายแดนของประเทศเมียนมาร์ มู่เชวี่ยกับซ่วนวู่ก็ถูกจับไปด้วย สถานการณ์ฝั่งเราคาดเดายากมาก ฝั่งตรงข้ามมีทหารรับจ้างจำนวนมาก...”
ต้วนอีเหยาสวมรองเท้าไปด้วยพูดไปด้วย “ ฉันจะให้เบื้องบน ส่งแครี่คอปเตอร์มารับ รีบกลับไปที่ค่ายด่วน”
“พี่ใหญ่ แต่บาดแผลของท่านยังไม่หายดีนะ”
“ไม่ต้องพูดมาก บาดแผลแค่นี้ไม่มีปัญหา”
ชิงหลงก็ยังเป็นห่วงอยู่ “แต่ว่าเบื้องบนไม่ได้มีคำสั่งให้เราไป”
ต้วนอีเหยาพูดเสียงดังใส่เขา “ฉันจะรีบขอคำสั่งจากเบื้องบน มู่เชวี่ยกับซ่วนวู่เป็นคนของฉัน ต้องช่วยกลับมาให้หมด”
ชิงหลงพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งขรึมทำความเคารพต่อเธอแบบทหาร “รับทราบ”
“ นายเก็บของก่อน เดี๋ยวฉันจะไปหาอาจารย์ใหญ่” ต้วนอีเหยาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกประตูไป ติดต่อเฮลิคอปเตอร์ไปด้วยเดินไปด้วย ไปยังห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่
แน่นอนว่าอาจารย์ใหญ่ไม่อยากจะปล่อยเธอไป แต่ว่าโดยอุปนิสัยของต้วนอีเหยา เมื่อตัดสินใจไปแล้วยากจะมีคนขัดขวางได้ ทำได้เพียงแค่ให้หมอจัดยาให้เธอพกติดตัวไปด้วย เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
หลังจากนั้นชั่วโมงหนึ่งเฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงโรงพยาบาลทหาร หลังจากที่ต้วนอีเหยาเปลี่ยนชุดโรงพยาบาลแล้ว คิดอยู่สักครู่ในที่สุดก็โทรหาเย่จิงเหยียน เพราะว่าการจากกันครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเจอกันครั้งหน้าไหม
เสียงโทรศัพท์ดังครั้งเดียวก็ติดต่อกันได้แล้ว ในสายมีเสียงที่ที่นุ่มนวลและลึกซึ้งของเย่จิงเหยียน “อีเหยา”
ต้วนอีเหยาคิดอยู่ตั้งนานกว่าจะพูดว่า “ฉันจะไปแล้ว มาบอกกับนายก่อน”
เสียงแก้วน้ำแตกดังออกมาในโทรศัพท์ จากนั้นตามด้วยเสียงฝีเท้าที่รีบเร่ง “ เมื่อไหร่ บาดแผลของเธอก็ยังไม่หายดี”
“ 1 ชั่วโมงหลังจากนี้ นายไม่ต้องมาแล้ว ภารกิจครั้งนี้เร่งด่วน...”
“ชั่วโมงนึงพอแล้ว เธอรอฉันก่อน อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว” เย่จิงเหยียนพูดจบก็ก็วางสายโทรศัพท์ทันที เขากลัวว่าเธอจะปฏิเสธคำขอนี้
ต้วนอีเหยาหายใจเข้าลึกลึกทีนึง เริ่มรู้สึกเสียใจที่โทรไป จริงๆแล้วน่าจะไปแบบไม่กล่าวไม่ลาก็ดี ทำไมตัวเองถึงทำไม่ลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...