วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 354

เย่จิงเหยียนเหมือนไม่ได้ยิน สะบัดมือของต้วนจื่ออิ๋งออก เดินมึนงงไปทางต้วนอีเหยา

เสื้อของต้วนอีเหยาเปล่งประกายระยิบระยับ ถึงแม้ว่าไฟจะมืดมิด แต่ว่าอยู่ในกลุ่มผู้คนก็สามารถทำให้เขามองเห็นได้ เย่จิงเหยียนรุกเข้าหาเธออย่างรุนแรง

ในสมองของเขาไม่มีความคิดอื่นแล้ว เพียงแค่ทำตามเสียงนั้น อย่าหยุด อย่าหยุด.......

ต้วนอีเหยาก็มึนงงมองมาที่เขา เสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้างหูเธอค่อยๆเลือนหายไป ในดวงตาสีดำคู่นั้นมีเพียงเขา แสงไฟสาดส่องมาแต่ทว่าสีหน้าที่แสดงออกมาของเขาถูกปิดบังอยู่ มองเห็นไม่ชัด

สุดท้ายหลังจากที่รอมานาน เย่จิงเหยียนก็หยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ เขาพูดลองหยั่งเชิงว่า"อีเหยา?"

หลังจากที่เรียกออกมาถึงได้พบว่าเสียงตัวเองแหบแห้งไม่คล้ายคำพูด ต้วนอีเหยายืนอยู่ที่เดิม เธอตอบกลับไป แต่ทว่าทำไมถึงไม่มีเสียงออกไป ทำได้เพียงผงกศีรษะ

"ใช่เธอจริงๆใช่ไหม?" เย่จิงเหยียนไม่กล้าที่จะเชื่อยื่นมือออกไป กำลังจะสัมผัสที่หน้าเธอก็ได้หยุด เขาไม่กล้าที่จะสัมผัสเธอ เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในฝันอยู่หลายครั้ง ตื่นขึ้นมาความฝันนั้นก็เลือนรางจางหายไป

"ผู้หญิงคนนี้คือเมียน้อย?"

"ใช่เหรอ อย่างนั้นเธอก็หน้าไม่อายจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะกล้ามาปรากฎตัวที่งานแต่ง!"

"ก็นะ หน้าไม่อาย...."

คนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ที่รู้เหตุการณ์ก็ขมวดคิ้วขึ้น คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ก็เริ่มพูดคุยซุบซิบกัน ทุกคนกำลังสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร พูดถกกันจนถึงสุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

ต้วนจื่ออิ๋งเห็นว่าเหตุการณ์นี้จัดการได้ไม่ง่าย รีบเดินไปยืนของหน้าทั้งสองคนไว้ สีหน้าอ้อนวอน"พี่จิงเหยียน มีเรื่องอะไร พวกเราแต่งงานกันแล้วค่อยคุยกันเถอะ ได้ไหม?"

"ถอยไป"

"ไม่"ต้วนจื่ออิ๋งดื้อรั้นยืนขวางเขาไว้ สายตามองคนด้านหลังด้วยความพยาบาท

เย่จิงเหยียนมองเธอด้วยสีหน้าราบเรียบ สายตาแสดงออกถึงความรำคาญ เมื่อก่อนรู้สึกว่าเธอคล้ายอีเหยา ตอนนี้เหมือนว่าตอนนั้นตาลายแล้วจริงๆ อีเหยาจะมีสายตาพยาบาทอาฆาตอย่างนี้ได้อย่างไร

ทั้งสามคนทนรออยู่เฉยไม่ไหว มู่ยู่วฉีกับเย่ชวูเสวียอยู่ด้านหลังในเวลานั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เย่จิงเหยียนมองเห็นต้วนอีเหยา การแต่งงานครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป!

มู่ยู่วฉีกับเย่ชูวเสวียมองสบตากัน มีความคิดที่ไม่ได้นัดกันผุดขึ้นมา

มู่ยู่วฉีหันหลังกลับ ทำสัญญาณมือให้สงบ "ทุกคนกรุณาอยู่ในความสงบ ผมมีเรื่องที่อยากจะพูด"

ประโยคเดียวทำให้บทสนทนาของทุกคนชะงักไป พวกเขาเงยศีรษะมองมาที่มู่ยู่วฉี ทุกคนมองมาว่าเขาต้องการที่จะทำอะไร

มู่ยู่วฉีกระแอมที่ลำคอแล้วพูดว่า"ขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาไกลเพื่อมาร่วมงาน แต่ว่าวันนี้เกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อย เกรงว่าจะไม่สามารถดูแลต้อนรับทุกคนได้แล้ว"

ด้านล่างเสียงดังเกรียวกราว พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเก่าแก่ของห้างสรรพสินค้า รู้ว่ามู่ยู่วฉีต้องการที่จะให้คนกลับไป ละครบนเวทียังเล่นไม่จบ ออกไปอย่างนี้รู้สึกว่ายังไม่โล่งเลย

"ทุกคนอยู่ในความสงบ!"

มู่ยู่วฉีรู้ตั้งนานแล้วว่าจะจบด้วยเหตุการณ์เช่นนี้ สุดท้ายเย่ชูวเสวียก็มาช่วยพูด เพิ่มระดับของเสียงพูดว่า"ครั้งนี้ทุกคนได้รับความเสียหาย พวกเราจะทำการชดเชยให้ จนกระทั่งหลังจบงานแต่งแล้วพวกเราจะแจ้ง หวังว่าทุกคนจะกลับกันไปก่อน"

พูดเสียงดังมาก ทำให้คนจำนวนมากที่กำลังคุยกันอยู่หยุดชะงัก เย่จิงเหยียนขมวดคิ้วกำลังจะพูด แต่ทว่าถูกเย่ชูวเสวียรั้งไว้ก่อน

"พี่ มีเรื่องอะไรก็ค่อยคุยกันหลังจากนี้เถอะ!ถึงอย่างไรที่นี่ก็คนเยอะ ทำให้ส่งผลกระทบไม่ดีต่อพวกเรานะ"

เย่จิงเหยียนมองตาของเย่ชูวเสวีย ไม่ได้พูดอะไรออกมา มู่ยู่วฉีก็ทำตามวิธีการของเขาเริ่มต้นพยายามอย่างสุดความสามารถให้แขกแยกย้ายกระจายตัว

สิบนาทีหลังจากนั้น ห้องโถงขาดใหญ่ก็เหลือเพียงพวกเขาหกคน มู่เวยเวยกับเย่ฉ่าวเฉินที่อยู่หน้าประตูได้ยินข่าวก็ลงมาจากชั้นบน

มองอย่างละเอียด ด้านหลังของพวกเขามีพ่อต้วน แม่ต้วน สีหน้าของพวกเขาดูไม่ได้มาก พ่อต้วนเดินมาหยุดตรงหน้าเย่จิงเหยียนด้วยความโมโห คว้าจับที่ปกเสื้อเขาแน่น

"คนที่จะแต่งงานก็เป็นนายที่พูดออกมา ตอนนี้ก็ไม่แต่งแล้ว นายเห็นลูกจื่ออิ๋งของพวกเราเป็นของเล่น?ห้ะ?พูด!"

เย่จิงเหยียนไร้การเคลื่อนไหว ปล่อยให้เขาจับที่ปกเสื้อของตัวเอง พูดขอโทษว่า"ลุงต้วน ผมขอโทษครับ....."

"ขอโทษ? คำพูดขอโทษมันทำอะไรได้?"

พ่อต้วนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มือข้างซ้ายจะโบกสะบัดเข้าที่หน้าของเย่จิงเหยียน มู่ยู่วฉีสายตาไวมือเร็ว รีบไปจับที่แขนของเขาไว้

มู่ยู่วฉีปล่อยมือของพ่อต้วน แต่ทว่าถูกสายตาพิฆาตของเขามองมาจนต้องก้มศีรษะ "ลุงต้วน ขอโทษครับ อย่างนั้น....พวกเรามีอะไรค่อยพูดค่อยจากันดีกว่านะครับ มีอะไรพูดกันดีๆ!"

"มีอะไรที่จะต้องพูดดีๆ?พวกนายทำให้ตระกูลต้วนเสียหน้า ยังหวังว่าจะให้ฉันขอบคุณพวกนาย?"พ่อต้วนโมโห จับที่หน้าอกหายใจหอบแหก

ต้วนจื่ออิ๋งเห็นอาการไม่ค่อยดี รีบเข้าไปประคองไว้"พ่อ....."

"พ่อไม่เป็นอะไร"พ่อต้วนยื่นมือออกไปรั้งต้วนจื่ออิ๋งที่กำลังต้องการจะดูให้ละเอียด "วันนี้พ่อต้องพูดเรื่องเน่าเหม็นนี้แทนเธอ ไม่อย่างนั้นตระกูลเย่จะคิดว่าตระกูลต้วนของเราไม่ใช่คน !"พูดถึงตรงนี้ก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง มองเย่จิงเหยียนด้วยสายตาเกลียดชัง ใช้ไม้เท้าที่อยู่ข้างกายเคาะที่ตัวของเย่จิงเหยียน

ต้วนอีเหยากับไป๋จิ่นอี้ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขามองดูข้อมือม่วงช้ำของเย่จิงเหยียนที่ถูกไม้เท้าเคาะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปกู้หน้าให้อย่างไร

"ลุงต้วน คุณอย่าทำอย่างนี้!"มู่ยู่วฉีอยู่ด้านหลังเย่จิงเหยียน ตอนที่ไม้เท้าโดนตัวของเย่ฉ่าวเฉินก็โดนขาของเขาอยู่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน

เขาอดทนมาตลอดถึงเจ็บจนทนไม่ไหว เขาถึงรีบลุกขึ้นไปบังการโจมตีด้วยไม้เท้าของพ่อต้วน

พ่อต้วนเจอเขาอีก ยิ่งโกรธมากขึ้น"นายหลีกไป ไม่อย่างนั้นฉันก็จะตีนายด้วย!"

มู่ยู่วฉีมองไม้เท้าที่อยู่ในมือของเขา ค่อยๆถอยไปด้านหลัง แต่ปากก็ยังไม่ยอมลดละ "ลุงต้วนต้องคิดให้ดีนะ ตีจนได้รับบาดเจ็บจนพิการเรื่องต้องรับผิดชอบตามกฎหมายนะ!"

"รับผิดชอบตามกฎหมาย!"

ไม้เท้าในมือยกสูงขึ้น กำลังจะฟาดลงมา ต้วนจื่ออิ๋งหลับตาลงมาหยุดขวางอยู่ตรงหน้า"พ่อ ฉันไม่อยากให้พี่เย่จิงเหยียนได้รับบาดเจ็บพิการ พ่อ......"

"เธอ.....ลูกดื้อ!"พ่อต้วนพูดจาสะเปะสะปะ เขาทำอย่างนี้กับเธอแล้ว เธอยังจะปกป้องเขา มันน่าทำให้คนโมโหจริงๆ!

พ่อต้วนรู้สึกว่าเลือดกำลังไหลออกมาจากศีรษะ ตาลาย ล้มลงที่พื้น

"เหล่าต้วน! "แม่ต้วนมองจากด้านหนึ่งอยู่ตลอด จนถึงพ่อต้วนล้มลงที่พื้น อดไม่ได้ที่จะวิ่งมาดูอาการก่อน

เดิมที่ห้องโถงใหญ่เงียบสงบลง แต่พ่อต้วนล้มลงรู้สึกว่าทุกคนดูวุ่นวาย มู่ยู่วฉีเห็นเย่จิงเหยียนยังไงก็ไม่สามารถมีจิตใจขับรถได้ รีบแสดงตัวเป็นคนที่จะไปส่งพ่อต้วนที่โรงพยาบาล

เย่จิงเหยียนหลังจากที่ตื่นตระหนก หมุนตัวกลับมาพูดกับต้วนอีเหยาหนึ่งประโยคว่า"รอฉันนะ"

ต้วนอีเหยาผงกศีรษะ แสดงออกว่าให้เขาวางใจไปได้จากที่นี่ได้เลย จึงทำให้เย่จิงเหยียนวางใจเดินตามไปขึ้นรถ

ห้องโถงขนาดใหญ่ก็กลับมาเงียบอีกครั้ง เย่ชูวเสวียไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย ปล่อยให้อยู่ที่นี่จ้องกันกับต้วนอีเหยาอยู่

ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เย่ชูวเสวียยากที่จะเข้าใจแล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ"พี่อีเหยายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!"

ต้วนอีเหยาชินกับการตอบคำถามนี้แล้ว จัดการกับตัวเองอยู่สักพัก ก็พูดเรื่องราวความเป็นมาให้เธอฟัง เย่ชูวเสวียเม้มปากอย่างยากที่จะเข้าใจ"ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ พี่ชายคิดว่าพี่อีเหยาตายแล้ว ตอนนั้นพี่ชายเหมือนกับคนที่ตายแล้วยังเคลื่อนไหวได้เลย"

เธอหัวเราะแหะๆ ที่แท้เขาก็ไม่ได้ลืมตัวเอง!แต่ว่าทำไมถึงไปแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?

"เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด!"เย่ชูวเสวียเห็นต้วนอีเหยาไม่เชื่อ อดไม่ได้ที่จะอธิบาย

"ตอนวันวาเลนไทน์ พี่ชายไปไว้อาลัยพี่ ดื่มเหล้าหนักมาก ก็เลยคิดว่าต้วนจื่ออิ๋งเป็นพี่...."

ความพูดด้านหลังเธอไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ทว่าต้วนอีเหยาเข้าใจทั้งหมดแล้ว เขาเอาผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอ และยังต้องการที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ตอนวันวาเลนไทน์เกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคนที่ไม่ต้องเล่าก็รับรู้ได้นะ

"พี่อีเหยา พี่อย่าโทษพี่ชายเลยนะ....."

ต้วนอีเหยามองเย่ชูวเสวียด้วยความมึนงง ในใจคาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องที่น่าตลก "พี่ไม่โทษเขาหรอก...."

เธอเพียงแค่รู้สึกว่านี่เป็นโชคร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนและหลังเหมือนกับถูกกำหนดไว้แล้ว

ไป๋จิ่นอี้เห็นเธอใจลอยเลยกุมที่มือของเธอ เอาความอบอุ่นในใจมอบให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

พวกเธอยืนอยู่ที่นั่นสักพัก ต้วนอีเหยาไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ถ้ารู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เธอควรที่จะนอนหลับสบายใจอยู่ที่บ้าน ตอนบ่ายไปดูเสี่ยวกุ้ยที่ร้านดอกไม้ หนึ่งวันก็ผ่านไปอย่างนี้

เธอไม่รู้ว่าเย่จิงเหยียนจะแต่งงาน เขาก็ไม่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตผ่านไปได้ บางครั้งก็นึกถึงกัน นานวันไปก็สามารถปล่อยวางได้

"อีเหยา พวกเรากลับกันไปก่อนเถอะ"ไป๋จิ่นอี้ตบที่มือเธอเบาๆ ทำให้เธอได้สติกลับมามากขึ้น

เธออำลาเย่ชูวเสวีย และเดินอย่างสง่างามตามไป๋จิ่นอี้ไปขึ้นรถ .......สันหลังที่ตรงเหมือนกับปากกา เพียงแค่โน้มตัวงอลงที่เก้าอี้นั้น หลังเหมือนกับผนังที่ถูกคนตี ล้มตัวอ่อนลงไปในเก้าอี้

เมื่อก่อนเธอทุกข์ทรมานใจ แต่ในที่สุดก็ปล่องวางได้ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาทำอะไรไม่ได้ ในใจจะยินยอมสมัครใจได้อย่างไร.....

"อีเหยา เธอยังหิวอยู่เลย จะกินอะไรหน่อยไหม"ไป๋จิ่นอี้หมุนพวงมาลัยมองไปข้างหน้า ให้เธอพาความรู้สึกภายในของตัวเองออกมา

ต้วนอีเหยาหลับตาส่ายหน้า "ฉันไม่หิว คุณส่งฉันกลับเลยเถอะ"

ไป๋จิ่นอี้ตอบตกลง สายตาหยุดอยู่ที่เสื้อสูทของ เมื่อกี้เขารู้สึกไม่พอใจ ถอดเสื้อนั้นวางไว้บนรถ กระเป๋าเสื้อมีสิ่งหนึ่งนูนออกมา

สายตาเขาหยุดมองไม่กี่วินาที ในใจรู้สึกทุกข์ทรมาน ในนั้นเดิมทีเขาใส่แหวนที่จะขอเธอแต่งงานไว้

อยู่ในสถานที่แต่งงานที่โรแมนติก มองเห็นการแต่งงานของทั้งสองคน เขาคิดว่าการที่ขอเธอแต่งงานในสถานที่เช่นนี้ต้องทำให้เธอตื้นตันใจอย่างสุดขีดแน่นอน แต่คาดไม่ถึงว่า.......

รถคันด้านหลังบีบแตร ไป๋จิ่นอี้ถึงได้รู้ว่าตัวเองขับช้าลง เขาสะบัดศีรษะไปมาเพื่อควบคุมความคิดของตัวเขาเอง

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเธอกับเย่จิงเหยียนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่การขอแต่งงานในสถานการณ์แบบนี้ อีเหยาไม่มีอารมณ์ตอบตกลงแน่นอน

...................

ในโรงพยาบาล

เย่จิงเหยียนสูบบุหรี่อยู่ที่ทางเดินไม่หยุด ห้องฉุกเฉินถึงไม่มีที่ดับไฟตั้งแต่ต้น

ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เขาประหลาดใจมากพอแล้ว ก็ชดเชยผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งจะดีขึ้น ดวงตาของเขาก็แดงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"พี่......."ในที่สุดมู่ยู่วฉีก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ลุกขึ้นยืนตัดสินใจแย่งบุหรี่ เขาดับมันแล้วทิ้งลงถังขยะ

"อย่ากังวลใจเลย เขาไม่เป็นอะไรหรอก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ