หลังตกลงกันว่าจะรวมตัวกันในอีกสองชั่วโมง ทุกคนก็แยกย้ายพักผ่อนในห้องของตนเอง เก็บข้าวของ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆและมารวมกันที่ล้อบบี้
มู่ยู่วฉี เย่ชูวเสวีย ต้วนจื่ออิ๋ง และนักแสดงอื่นๆมารออยู่ที่ล็อบบี้กันตั้งนานแล้ว แต่พวกเขากลับไม่เห็นเย่จิงเหยียนเลย
พวกเขาพูดในรถว่าจะเจอกันเวลานี้ และเย่จิงเหยียนก็ไม่ได้คัดค้าน ทำไมเขาถึงยังไม่ออกมา
"โอ้ย ฉันไปดูเองว่าเกิดอะไรขึ้น!" ในที่สุดเย่ชูวเสวียก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นจากเก้าอี้ "ปึก" เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้
"ฉันไปเองดีกว่า" ต้วนจื่ออิ๋งก็ยืนขึ้นเช่นกัน
อีกสามคนมองด้วยสายตากงวล เธอไปน่าจะแย่กว่าเดิม
มู่ยู่วฉีและเย่ชูวเสวียรีบหยุดเธอ เย่ชูวเสวียนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อตะกี้ ตอนนี้เธอก็เกิดความกังวลขึ้นมา "ฉันไปดีกว่า!"
หลังจากพูดจบ เพราะกลัวว่าเธอจะไม่เข้าใจสีหน้าของคนอื่นอีก เธอจึงรีบขึ้นบันไดไป
ประตูห้องของเย่จิงเหยียนปิดอย่างแน่นหนา เย่ชูวเสวียยืนอยู่ที่ประตู แต่เธอก็กลัวที่จะเคาะประตู เธอมองกลับไปที่ชั้นล่าง ก่อนจะเห็นว่ามู่ยู่วฉีกำลังขยิบตาให้ตัวเอง
เธอปล่อยลมหายใจออกมาเบาๆ หลับตา และเคาะสามครั้งอย่างรวดเร็ว
เย่ชูวเสวียแนบหูฟังอยู่บนประตู แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆจากข้างใน เธอเริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น จึงอดที่จะเพิ่มแรงในการเคาะประตูไม่ได้
เมื่อเห็นว่าข้างในยังไม่มีความเคลื่อนไหว เธอจึงขึ้นเสียงและตะโกนว่า "พี่ใหญ่!"
"อะไร"
เย่ชูวเสวียรู้สึกโล่งใจ ในที่สุดก็มีคนตอบกลับ เธอคิดว่าเขาจะไม่สบายใจจนหนีไปแล้วซะอีก
"ตอนบ่ายมู่หยูฉีเตรียมงานปาร์ตี้ริมชายหาดไว้แล้ว พี่ก็มาร่วมงานสิ"
"พี่ไม่ไปแล้ว"
ประโยคเรียบๆของเขาทำให้คำพูดของเย่ชูวเสวียติดอยู่ในลำคอ
"พี่ไปเถอะนะ! ฉันจะบอกพวกเขาไว้แล้วว่าพี่จะไป ถ้าไม่เห็นพี่ ฉันต้องโดนหัวเราะเยาะแน่ๆ" มู่หยู่ฉีไม่รู้ว่าขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนพูดขึ้น
เย่ชูวเสวียตกใจ มองไปข้างล่างอัตโนมัติ ก่อนจะรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นต้วนจื่ออิ๋งยังยืนอยู่ชั้นล่าง
มู่หยูฉีมองไปที่เย่ชูวเสวีย และเย่ชูวเสวียก็เข้าใจทันทีจึงรีบพูดว่า "ใช่ น่าเบื่อจะตายอยู่ในห้องคนเดียว"
พวกเขารอสักพัก เมื่อรู้ว่าเย่จิงเหยียนไม่ออกมาอีก พวกเขาก็เตรียมลงบันไดไป
ทันใดนั้นประตูก็หมุนเปิดออก มู่หยูฉีและเย่ชูวเสวียหันหน้าไป ก่อนจะเห็นเย่จิงเหยียนยืนอยู่ที่ประตูในชุดลำลอง
เขาเดินผ่านพวกเขาไป เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่เคลื่อนไหวจึงพูด "ไหนบอกว่าต้องไปไง"
"อ้อๆ ไปๆๆ"
พวกเขากลับมามีสติ และรีบก้าวตามเย่จิงเหยียนไป ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน
ต้วนจื่ออิ๋งไม่ได้ตามเย่จิงเหยียน เธอรู้ว่ามันน่ารำคาญถ้าตามเขาตลอดเวลา
เธอต้องเปลี่ยนวิธี ต้องปล่อยให้พี่จิงเหยียนค่อยๆยอมรับเธอ!
ชายหาดในตอนพลบค่ำ แสงอาทิตย์ไม่ได้แรงแล้ว เมื่่อเย่จิงเหยียนและน้องๆมาถึง หนุ่มสาวทั้งหลายก็ได้รวมตัวกันพูดคุยและดื่มกันไปแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นเย่จิงเหยียนก้ต่างกรูกันเข้ามา
....
หลังจากต้วนอีเหยาช่วยป้าเก็บมะพร้าวเสร็จแล้ว ประตูในบ้านก็ถูกเคาะจนสั่นไหว
"ป้าหลี่ ป้าหลี่!”
"มาแล้ว ไม่ต้องเรียกแล้ว!" ป้าหลี่วางมะพร้าวในมือลงแล้วค่อยๆเปิดประตู
ประตูเปิดออก ต้วนอีเหยามองออกไปนอกประตูอย่างอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะเจอชายวัยกลางคนถูมือของเขา สีหน้าดูกังวล
"มีอะไรเหรอ" ป้าหลี่ขมวดคิ้ว "เมื่อก่อนแกไม่ได้เป็นคนผลีผลามอย่างนี้นี่"
"นี่มันรีบไง...."
ชายวัยกลางคนกระทืบเท้า "มีคนจากทะเลเหนือมาขอซื้อมะพร้าวหนึ่งรถเข็น แต่ช่วงนี้ธุรกิจของฉันไปได้ดี เลยไม่ได้เหลือไว้เยอะ แถมเมื่อกี้ตอนกลับมา ขาเจ้ากรรมนี่ก็ดันมาแพลง...."
"อย่ารีบไป ถึงการหาเงินจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่แกต้องดูแลร่างกายของแกให้ดีด้วย!" ป้าหลี่ได้ยินว่าเท้าของเขาเป็นแพลง และเมื่อก็เห็นเขากระทืบเเท้า ธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
"นี่ไม่ใช่ นี่เป็นลูกค้ารายใหญ่นะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยส่งให้เขาหลายครั้ง แต่ตอนนี้มันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น...."
"โอ้ย ฉันก็นึกว่าเรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวจะช่วยส่งให้" ป้าหลี่หันไปด้านข้าง เพื่อให้เขาเห็นรถเข็นมะพร้าวที่อยู่ข้างหลังเธอ "ฉันเพิ่งไปเก็บมา เดี๋ยวกลับมาแล้วจะเอาเงินมาแบ่งให้"
"ป้าหลี่พูดอะไรอย่างนั้น มะพร้าวนี่เป็นของเธอ เงินที่ได้ก็ต้องเป็นของเธอสิ เธอช่วยส่งให้ก็ขอบใจมากแล้ว"
หลังชายวัยกลางคนขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า ป้าหลี่ก็ตบหน้าอกของเธอสัญญาว่าจะส่งให้เขาแน่นอน
หลังจากเขาไป ป้าหลี่ก็รีบเอามะพร้าวไปส่ง แต่แน่นอนว่ามะพร้าวไม่เบาเลย ผู้หญิงอายุเท่าเธอจึงเข็นได้อย่างยากลำบากมาก
ป้าหลี่พยายามเข็นออกไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อเห็นว่ารถเข็นกำลังจะล้มไปพร้อมป้าหลี่ ต้วนอีเหยาจึงรีบมาพยุง
"หนู..." หลังออกมาจากบ้าน ป้าหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง ยังไม่ทันที่มือของต้วนอีเหยาจะแตะรถ เธอก็เรียกไว้
ต้วนอีเหยาเดินจากท้ายรถเข็นไปที่ด้านหน้า จากนั้นก็จับที่ด้านหนึ่ง "คุณป้า พวกเราไปด้วยกันเถอะ"
ที่จริงเธอสามารถเข็นรถด้วยตัวเองได้ แต่เธอตั้งครรภ์ และหมอก็บอกว่ามดลูกของเธออ่อนแอ ดังนั้นเธอจึงใส่ใจกับเรื่องนี้
ถึงอย่างนั้นป้าหลี่ก็ประหลาดใจมาก ผู้หญิงสมัยนี้แรงเท่ามด จะเข็นรถเข็นน้ำหนักหลายร้อยโลนี้ได้ยังไง
ทั้งคู่เคลื่อนตัวช้าๆไปตามถนน ทะเลเหนืออยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลจากที่พวกเขาอยู่ แต่มันค่อนข้างลำบากที่ต้องดึงรถพ่วงสองสามร้อยกิโลกรัมไปข้างหน้า
ชายวัยกลางคนไม่ได้บอกที่อยู่ที่เจาะจง บอกเพียงว่ามีคนมางานปาร์ตี้ริมชายหาด และคนกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มที่ต้องการมะพร้าว
แต่ชายหาดไกลมาก พวกเธอไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ต้วนอีเหยาหยุดรถและนวดแขนเธอ "คุณป้า งั้นคุณป้าเฝ้าอยู่ตรงนี้นะคะ หนุไปหาดูก่อน เดินหาอย่างนี้มันเปลืองแรง"
"รบกวนด้วยนะหนู" ป้าหลี่ตบไหล่เธอ และหายใจหอบบนสนามหญ้า เธอแก่แล้ว แม้ว่าเธอจะเคยเหนื่อยจากการลากรถมาก่อน แต่ก็ไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนี้เธอหายฝจได้ลำบากมาก
ต้วนอีเหยาเข้าใจป้าหลี่ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เธอไม่เห็นใครเลย อันที่จริงก็มีเสียงหัวเราะมาจากไกลๆ แต่หูของเธอไม่ไวมากจึงไม่ได้ยินเสียง
เธอเดินหาไปตามถนนเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆมีแสงไฟปรากฏตรงหน้า ที่ไกลๆมีเต็นท์สีขาวสองสามตัวและโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มและขนม ทุกคนต่างจับแก้วเหล้าพูดคุย หัวเราะอย่างมีความสุข
ต้วนอีเหยามองไปสักพัก เมื่อรู้สถานที่จัดส่งโดยคร่าวๆแล้ว เธอก็หันกลับไปหาป้าหลี่
"พี่ชาย แชมเปญนี้ฉันหายากมากเลยนะ มาเร็ว!"
เย่จิงเหยียนหยิบแชมเปญ เงยหน้าขึ้น ขณะที่เขากำลังจะเทมันเข้าปาก เขาก็เห็นด้านหลังของร่างที่คุ้นเคย เขารีบวางแก้วในมือลง และตามไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะบังเอิญแค่ไหน เขาก็คิดที่จะปล่อยโอกาสไป ตอนที่เขาเจอในร้านดอกไม้เขาไม่ได้ตามไป แต่ตอนนี้...
เขาต้องไปดูให้แน่ใจ
ต้วนอีเหยากำลังจะหันไป แต่จู่ๆก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นในกระจกข้างถนน เธอสะดุ้ง เมื่อเธอเห็นเขาตาของเธอก็กระตุกทันที
เย่จิงเหยียน!
เธอไม่กล้าหยุดอีกต่อไป เธอเร่งฝีเท้า เมื่อเลี้ยวเข้ามุมมาก็เจอต้นไม้ ต้วนอีเหยาดีใจมาก รีบเข้าไปหลบทันที
เย่จิงเหยียนเดินตามไปติดๆ แต่หลังจากผ่านโค้งเขาไม่เห็นต้วนอีเหยาอีก เขาหันมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นป้าขายมะพร้าวอยู่ไกลๆจึงเดินไป
"คุณป้าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผ่านมาทางนี้มั้ย"
ป้าหลี่กำลังเช็ดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้า เมื่อได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น "วัยรุ่นผู้หญิงเหรอ ไม่นะ ที่นี่มีป้าคนเดียว"
เย่จิงเหยียนมองป้าหลี่อย่างสงสัยนานมาก ก่อนที่จะโค้งคำนับอย่างสุภาพ "งั้นไม่รบกวนแล้วครับ"
ป้าหลี่โบกมืออย่างรวดเร็ว "ไม่เป็นไรไม่เป็นไร"
เย่จิงเหยียนยังคงลังเล แต่ไม่มีทางเลือก ก่อนที่จะจากไปเขาก็เหลือบมองป้าหลี่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยิ้มให้ตัวเองพลางพยักหน้าให้ ความสงสัยในใจของเขาก้หายไปจนหมด
ในป่าต้วนอีเหยาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด และเมื่อเธอเห็นเย่จิงเหยียนและป้าหลี่คุยกันก่อนจะจากไป ใจของเธอแทยจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"หนูทำไมออกมาจากป่าล่ะ" แต่เดิมป้าหลี่มองตามเย่จิงเหยียนไป ก่อนที่จะเห็นเงาแวบๆผ่านมุมตา จึงหันมามอง แล้วก็เห็นต้วนอีเหยาออกมาจากป่า
"คุณป้าหนูเจอแล้ว ไปตามถนนนั้น" ต้วนอีเหยา ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร จึงชี้ไปยังทิศทางที่เธอมองไปเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
ป้าหลี่ได้ยินว่าเธอพบสถานที่จัดส่งแล้วก็ไม่ได้ถามต่ออีก "หยุดพักก่อนสักพัก ค่อยไปเถอะ"
ต้วนอีเหยาพยักหน้าเงียบๆ เธอต้องคิดหาทางออก เธอไม่สามารถไปสภาพแบบนี้ได้ ไม่อย่างนั้นต้องมีคนจำเธอได้แน่นอน
เธอมองไปรอบๆ เมื่อเห็นต้นกล้วยที่ปลูกอยู่ข้าง เธอก็เกิดไอเดียขึ้นมา เธอเดินไปบิดน้ำกล้วยทาหน้าให้เละแล้วเช็ดโคลนนิดหน่อยจนมองหน้าไม่ชัดแล้วจึงไปยืนข้างป้าหลี่
"คุณป้าตอนกลางคืนอากาศหนาว ผ้าคลุมไหล่ผืนนี้คลุมไว้กันลมนะคะ"
ป้าหลี่ปฏิเสธ "ป้าใส่หนาแล้ว หนูผอมขนาดนี้ อุณหภูมิตอนเช้ากับตอนกลางคืนต่างกันมากนะ เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า หนูเข็นรถเข็นก็ร้อนมากแล้ว" ถ้าเธอไม่ถอดผ้าคลุมไหล่ออกเธอจะดึงดูดความสนใจของเย่จิงเหยียนแน่นอน เธอดูเหมือนคนที่เขาเพิ่งตามตะกี้ เขาต้องสังเกตเธอแน่
ป้าหลี่หยิบผ้าคลุมไหล่และลังเลสักพักก่อนที่จะถามว่า "หนูบอกความจริงมา หนูหลบใครอยู่ใช่มั้ย"
ต้วนอีเหยาตอบกลับ "เปล่าค่ะ..."
แต่ป้าหลี่ไม่เชื่อ "ป้าอาบน้ำร้อนมาก่อน ถ้าเขาไม่สำคัญ หนูไม่มีทางกังวลขนาดนี้หรอก"
ต้วนอีเหยายังคงต้องการที่ปฏิเสธ แต่เมื่อเธอเปิดปากของเธอก็ไม่สามารถออกมาได้ ในใจเธอเอาแต่พูดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะสำคัญมาก เธอคงไม่เจ็บขนาดนี้
ต้วนอีเหยาไล่ความคิดสักพักก่อนที่จะลากรถไปกับป้าหลี่ และเดินไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงทีละก้าว
ยิ่งเธอเข้าใกล้มากเท่าไหร่ การเต้นของหัวใจของเธอก็ยิ่งผิดปกติมากขึ้น ต้วนอีเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆ และเข็นมันไปที่งานเลี้ยงอย่างเร่งรีบ
"หนูรออยู่นี่นะ ป้าจะไปถามว่าใครสั่ง!"
ต้วนอีเหยาพยักหน้านั่งบนชายหาด โดยหันหลังให้กับสถานที่จัดงาน ตัวเธอเลอะโคลน แถมยังใส่หมวกจนปิดหน้าของเธอเกือบทั้งหมด ใบหน้าของเธอยังมีคราบเป็นชั้นๆด้วย
"ทำไมมานั่งตรงนี้"
ต้วนอีเหยาได้ยินเสียงนั้นก็หันหน้าไปมองเห็น ก่อนจะเจอต้วนจื่ออิ๋งกำลังถือแก้วทรงสูงมองเธออย่างดูถูกอยู่
"ขอโทษค่ะ" ต้วนอีเหยายืนขึ้นจากพื้น และขอโทษเธออย่างจริงใจ แต่เพราะลุกขึ้นเร็วเกินไป จึงชนกับรถเข็นจนมะพร้าวตกลงมาหลายลูก
ต้วนอีเหยารีบก้มไปหยิบมัน เมื่อมือของเธอสัมผัสมะพร้าวต้วนจื่ออิ๋งก็ร้องเหยียดเหยียดๆ "อี๋" "เธอใช้มือนี่เก็บมะพร้าวหรอ"
"เกิดอะไรขึ้น"
เธอหันหน้าไปอย่างเฉยเมย และวางมะพร้าวในมือของเธอบนรถ มะพร้าวสีขาวปรากฏรอยนิ้วมือของเธอทันทีทันที
"แก....." ต้วนอีเหยาชี้ไปที่เธอโกรธๆ "แกทำอย่างนี้จะให้พวกฉันดื่มยังไง"
"เลอะโคลนไปหมด แค่มือฉันไปจับก็ดำหมดแน่"
"โคลนมันซึมเข้าไปหมดแล้ว ไม่ติดมือคุณหรอก"
"มันอยู่ข้างใน! แล้วเราจะดื่มมันยังไง" ต้วนจื่ออิ๋งชี้ไปที่เธออย่างเหลือเชื่อ ไม่รู้จะด่ายังไงดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...