หลุยส์ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปบอกว่า "ไปกับฉันเถอะ"
ต้วนอีเหยาแทบจะก้าวขาไม่ออก แต่พอนึกถึงหน้าของเย่จิงเหยียนกำลังรอเธออยู่ที่ห้องฉุกเฉิน จึงกัดฟันเดินต่อ
ทางเดินของโรงพยาบาลราบเรียบแต่ต้วนอีเหยากลับรู้สึกว่ามันเดินได้อย่างยากลำบากและใช้เวลานาน ตอนนี้ห้องฉุกเฉินอยู่ตรงหน้าเธอ และไฟในห้องยังคงสว่างอยู่ เธอยืนนิ่งไม่ขยับ
"คุณผู้หญิงต้วน?" หลุยส์ถามด้วยความกังวล
ต้วนอีเหยารีบหันไปบอกเขา "ฉันไม่เป็นไร"
หลุยส์เห็นสีหน้าซีดเซียวของเธอก็ยิ่งอดเป็นห่วงไม่ได้ พยายามจะเกลี้ยกล่อมให้เธอไป
แต่ต้วนอีเหยารู้อยู่แล้วว่าเย่จิงเหยียนอยู่ในนั้น เธอจะปล่อยเขาและจากไปแบบนี้ไม่ได้
หลุยส์นั่งรออยู่ข้างหน้า ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงไฟในห้องฉุกเฉินก็ดับลง
ต้วนอีเหยาจ้องตาเขม็ง จากนั้นประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับหมอที่เข็นเตียงออกมา
ใบหน้าของคนที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าที่เป็นที่หลงใหลของใครต่อหลายคน ตอนนี้เขากำลังหลับตานอนอยู่บนเตียง
"เย่จิงเหยียน!"
ต้วนอีเหยาขาอ่อน เธอเอามือดันกำแพงเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ทางด้านหลุยส์เมื่อเห็นเย่จิงเหยียน ก็รู้สึกหดหู่ใจ
ตอนแรกเขาแค่หวังไว้ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ อาจจะแค่ชื่อเหมือนกัน แต่พอเห็นคนที่นอนอยู่เตียงแล้ว ก็รู้ว่าเขาคือเย่จิงเหยียน
"เขาเป็นอะไรหรือครับ?" หลุยส์กลัวว่าหมอจะพูดอะไรที่ทำให้ต้วนอีเหยาเศร้าหนักกว่าเดิม จึงถามเป็นภาษาอังกฤษ
คุณหมอตกใจเล็กน้อย และตอบว่า "เขาโดนทำร้ายถูกขวดเบียร์ฟาดเข้าที่ศีรษะครับ แผลแตกใหญ่มาก เย็บไปหลายเข็มครับ"
ต้วนอีเหยาเห็นพวกเขากำลังคุยกัน แต่เพราะเธอแปลไม่ออก และการได้ยินของเธอไม่ค่อยดี ทำให้เธอจับใจความไม่ได้
เธอปรี่เข้าไปดูเย่จิงเหยียนที่นอนนิ่งอยู่ ใจรู้สึกเจ็บปวดมาก รีบถามหมอว่า "หมอคะ เขา..เขาเป็นอะไร?"
หมอไม่เข้าใจที่ต้วนอีเหยาพูด จึงได้แต่โบกมือและส่ายหน้า
แต่เธอคิดว่าหมอบอกกับเธอว่าเย่จิงเหยียนจะไม่รอดแล้ว เธอจึงโอบแขนของเย่จิงเหยียนและร้องไห้ออกมา
หลุยส์งงว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงเศร้าขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทำได้แค่เรียกให้คนพาเย่จิงเหยียนกลับไปที่ห้องพักคนไข้
"ไม่...อย่าไป" ต้วนอีเหยาขวางไว้
เย่จิงเหยียนนอนแน่นิ่งแบบนั้น จะพาเขาไปไหนอีก เธอไม่ยอมหรอก...
"ขอฉันบอกลาเขาหน่อยนะคะ"
หลุยส์งงหนักกว่าเดิม เขามองเธอด้วยความสงสัย
แค่จะพาเย่จิงเหยียนไปที่ห้องพักคนไข้ ทำไมต้องบอกลาด้วย? หรือรู้ว่าเย่จิงเหยียนจะมาหาเรื่องเธอ?
ต้วนอีเหยาไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้าง สายตามองไปที่เย่จิงเหยียน น้ำตามากมายไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุด "แค่ชั่วโมงเดียว นายก็เป็นแบบนี้เลยหรือ บอกฉันซิว่าเกิดอะไรขึ้น?"
เธอทุบลงไปที่ข้างตัวของเย่จิงเหยียน และร้องไห้ออกมาหนักมาก
"เขาน่าจะมีเรื่องอึดอัดใจ รอเขา...." ตื่นมาคงจะบอกเธอเอง
หลุยส์ยังพูดไม่จบ ก็โดนต้วนอีเหยาขัดขึ้น "อึดอัดใจอะไร? หรือคิดว่าเขานอนอยู่บนเตียงแบบนี้แล้วฉันจะให้อภัยเขา?"
เธอตะโกนลั่น หลุยส์ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ ได้แต่หุบปากเงียบ
ต้วนอีเหยาซบลงบนร่างของเย่จิงเหยียน จากนั้นพูดกับเขาอีกพักหนึ่ง หมอและพยาบาลที่อยู่รอบๆ ต่างไม่เข้าใจกับการกระทำของเธอ
ผู้คนที่อยู่รอบๆ เห็นเธอร้องอย่างบ้าคลั่ง จึงเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
และไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เย่จิงเหยียนรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆหยดลงบนหน้าของเขา จึงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
ต้วนอีเหยาที่ยืนอยู่ข้างๆ เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ จนไม่ได้สังเกตว่าเย่จิงเหยียนลืมตาแล้ว เย่จิงเหยียนยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มเธอเบาๆ
"เป็นอะไรหืม?"
ต้วนอีเหยาเห็นเย่จิงเหยียนตื่นขึ้นมา ก็ตกใจ และถามว่า "นายไม่เป็นอะไร?"
"ไม่เป็นอะไร เอ่อ..." เขายื่นมือไปสางผมเธอ และรับรู้ถึงความเจ็บปวด
เขามองที่แขนก็เห็นผ้าก็อตพันอยู่ และมีเลือดซึมออกมาไม่หยุด ถึงคิดได้ว่าเมื่อครู่เขาได้ไปมีเรื่องกับนอื่นมา
"ผมไม่เป็นไร อีเหยา"
ถึงแม้เขาจะเจ็บมากแค่ไหน ก็ต้องกดความเจ็บไว้เพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง
ต้วนอีเหยายิ้มออกมาทันที และทุบเข้าไปที่อกเขา และบอกว่า "แล้วทำไมนายต้องโกหกฉันด้วย ฉันนึกว่านาย..."
นึกว่านายจะตายแล้ว....
เย่จิงเหยียนกดความเจ็บไว้ในใจ และยิ้มใก้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นวางมือลงบนหัวเธอ
ที่จริง เย่จิงเหยียนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรหนักมาก แต่เพราะมีคนโทรแจ้งรถฉุกเฉิน พวกเขาจึงพาเขามาที่ห้องนี้
และเพราะฤทธิ์ของยาชา ทำให้เขายังไม่ฟื้น ทำให้ต้วนอีเหยาก็ตีโพยตีพายไปคิดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จนใกล้จะตาย...
"คุณครับ"
เสียงหนึ่งดังขึ้น เย่จิงเหยียนและต้วนอีเหยาเงยหน้าขึ้นไปมองง
เย่จิงเหยียนรู้สึกคุ้นๆหน้า แตต่ก็คิดไม่ออก "คุณ...เรียกผม?"
"ใช่ซิ ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม" คนขายบัวลอยกล่าวพร้อมกับวิ่งเข้ามาข้างหน้าเย่จิงเหยียน "นี่คือบัวลอยที่ฉันเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลย รีบกินตอนร้อนๆนะคะ"
"เอ่อ..." เย่จิงเหยียนทำตัวไม่ถูก โดนยัดบัวลอยเต็มปาก
"ขอบคุณคุณมากจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคง..."
เย่จิงเหยียนได้แต่โบกมือบอกไม่เป็นไร ในปากยังเต็มไปด้วยบัวลอย
คนขายบัวลอยรีบพูดว่า "ไม่ๆ เพราะฉันคุณเลยได้รับบาดเจ็บแบบนี้ ฉันจะต้องตอบแทนคุณให้ได้"
เย่จิงเหยียนไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงเหลือบมองไปทางต้วนนอีเหยา และได้เห็นสายตาพิฆาตตของเธอ
เขาเสียวสันหลังวาบที่เห็นสายตานั้น หันไปทางหลุยส์เพื่อขอความช่วยเหลือ
หลุยส์รู้ว่าเขเขาต้องการสื่ออะไร จึงพูดขึ้นว่า "เอาล่ะ แยกย้ายได้แล้ว อย่ามัวแต่มายืนขอบคุณอะไรตรงนี้"
จากนั้นเรียกให้พยาบาลพาเย่จิงเหยียนเข้าห้องพักคนไข้ไป ทั้งสามอยู่ในห้อง ไม่พูดไม่จา
เย่จิงเหยียนทนไม่ไหว จึงหันไปทางต้วนอีเหยา และแกล้งไอเบาๆออกมา "แคกๆ เอ่ออีเหยา...."
"อธิบายอะไรหน่อยซิ"
ต้วนอีเหยากอดอกพูด เครื่องช่วยฟังของเธอมีเสียงกวนเล็กน้อย ทำให้เธอขมวดคิ้วออกมา เย่จิงเหยียนมมองเห็นหน้าตาเธอ เลยนึกว่าเธอกำลังโกรธอยู่
"เอ่อ ระหว่างทางที่ผมไปซื้อของให้คุณ ก็ได้เจอกับ....เอ่อคุณชื่ออะไรนะ?"
"เซี่ยอันหนาน"
"อ่า ก็ได้เจอกับเซี่ยยอันหนาน เขาโดนคนผิวสีกลุ่มหนึ่งล้อมอยู่ ผมเลยเข้าไปช่วย แต่ว่า...สองมือสู้สี่มือไม่ได้ สภาพเลยเป็นแบบนี้"
เขากลัวว่าต้วนอีเหยาจะได้ยินไม่ชัด จึงเน้นเสียงขึ้น
ต้วนอีเหยาถามกลับ "จริงหรือ?"
"แน่นอน ถ้าไม่เชื่อคุณถามเธอ"
ต้วนอีเหยาหันขวับไปทางเซี่ยอันหนาน เซี่ยอันหนานรีบพยักหน้าหงึกๆ และหันไปมองทางเย่จิงเหยียน
ต้วนอีเหยาเห็นแบบนั้นรู้สึกไม่ชออบใจมาก เมื่อกี้ใจเย็นลงแล้วแท้ๆ ตอนนี้ขึ้นอีกแล้ว
เย่จิงเหยียนคิดว่าถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่าง เดี๋ยวอีกหน่อยคงลำบากแน่ จึงหันไปพูดกับเซี่ยอันหนานว่า "ผมแค่ไม่ชอบเห็นคนถูกรังแก คุณไม่ต้องมาตอบแทนอะไรทั้งนั้น รีบกลับไปเถอะครับ"
"แต่คุณคะ...." เซี่ยอันหนานรู้สึกนอยด์ ไม่ได้ขยับ
ต้วนอีเหยาชายตามองเล็กน้อย และเตรียมจะเดินออกไป เย่จิงเหยียนรีบลงจากเตียงมาคว้ามือต้วนอีเหยาไว้
"อีเหยา อย่าไปนะ"
เขาผ่านเรื่องราวต่างๆมาตั้งมากมาย และเขาจะไม่ยอมให้เรื่องเข้าใจผิดเล็กๆ แค่นี้มาทำให้เขาเสียเวลาอีกแน่ "คุณเซี่ยอันหนานใช่ไหม? ผมจะบอกคุณอีกครั้งนะ ผมแค่ยื่นมือเข้าไปช่วยเท่านั้น แต่ถ้าผมรู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นอย่างตอนนี้ ผมคงจะไม่เข้าไปช่วยตั้งแต่แรก"
เซี่ยพูดอย่างเศร้าๆว่า "แต่คุณได้รับบาดเจ็บเพราะฉัน..."
"เป็นเพราะผมไม่ระวังเอง ไม่ใช่ความผิดคุณ"
เขาปฏิเสธชัดเจนขนาดนี้ เพราะหวังว่าเซี่ยอันหนานจะไม่เข้าใจผิดและคิดไปเองอีก
พูดจบ เย่จิงเหยียนหันไปมองตาของต้วนอีเหยา ทั้งสองจ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง ความคุ่นเคืองในใจของต้วนอีเหยาหายไปเป็นปลิดทิ้ง
เซี่ยอันหนามองเขาทั้งคู่ และรู้ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสอะไรแล้ว จึงทำได้แค่เดินจากไป
ต้วนอีเหยาและเย่จิงเหยียนต่างก็ไม่ได้สนใจกับการจากไปของเธอ ยังคงมองตากันอยู่อย่างนั้น
"อีเหยา ผมหิวแล้ว"
เย่จิงเหยียนทำสายตาและพูดอ้อนต้วนอีเหยา เพราะตอนที่เขาไปหาซื้อของกินให้ต้วนอีเหยา เขาก็หิวอยู่แล้ว เมื่อกี้ดันเกิดเรื่องขึ้นอีก ตอนนี้ท้องของเขาหิวจนแสบ แถมเมื่อกี้ยังกินบัวลอยหวานๆไปอีก ยิ่งทำให้ท้องของเขาปวดขึ้นไปอีก
พูดจบ ท้องของต้วนอีเหยาก็มีเสียง จ้อกๆ..ดังขึ้น
เพราะเธอเข้าใจผิดคิดว่าเย่จิงเหยียนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงทำให้กินอะไรไม่ลง
"ฉันไปดูที่โรงอาหารของโรงพยาบาลก่อน ดูว่ามีอะไรกินไหม?"
เมื่อเธอหมุนตัวเตรียมจะเดินไป เย่จิงเหยียนก็ดึงมือเธอไว้ "ผมไม่กินแล้ว"
เขาไม่อยากจะให้เธอจากเขาไปไหนอีก เพราะกลัวจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีก เขายอมที่จะหิว แต่ไม่ยอมให้เธอไป
ต้วนอีเหยาหันไปมองหน้าเขา และพูดว่า "นายไม่กิน แต่ฉันจะกิน"
"อ่าใช่ คุณก็ยังไม่ได้กินอะไรนี่นา ผมไปช่วย..." เย่จิงเหยียนพูดจบก็กระโดดลงจากเตียง เขาไม่ทันระวัง เพราะขยับแขนแรงเกินไป จึงทำให้เจ็บจนร้องออกมา "โอ๊ย ซี้ด.."
ต้วนอีเหยารีบเข้าไปประคองแขนเขา ให้เขานั่งลง "นายอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวฉันซื้ออะไรมาให้"
"งั้นคุณรีบกลับมานะ.."
เย่จิงเหยียนกล่าวอย่างไม่เต็มใจมากนัก
ต้วนอีเหยาเดินไปหน้าประตูและหันมามองเขา ที่กำลังงนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าไร้รอยยิ้ม
เธอส่ายหัวเล็กน้อยกับท่าทีของเขา เมื่อเธอเดินเข้าลิฟต์ไป เซี่ยอันหนานก็ปราฎตัว จากนั้นไปทางห้องของเย่จิงเหยียน
เย่จิงเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงได้ยินเสียงคนเดินมา ก็ดีใจคิดว่าเป็นต้วนอีเหยา "อีเหยา คุณกลับมา.....?" แล้ว
"คุณคะ" เซี่ยอันหนานมองไปทางเย่จิงเหยียนด้วยสายตาใสซื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...