แสงแดดที่แจ่มใสทำให้ผู้คนมีความสุข จิงเหยียนผลักหน้าต่างออกและหายใจเข้าลึกๆ “อีเหยา พวกเราอยู่ที่นี่จนลูกคลอดเลยดีไหม?”
ต้วนอีเหยาก็พอใจกับที่นี่เป็นอย่างมากจึงพนักหน้าอย่างชื่นใจ “อืม….”
เย่จิงเหยียนหันมายิ้มให้ต้วนอีเหยา ด้านหลังของเขาคือท้องฟ้าสีคราม มีต้วนอีเหยาสะท้อนอยู่ในตาประกอบกันเป็นภาพที่สวยงาม
ต้วนอีเหยาและเย่จิงเหยียนเก็บของไว้ที่โรงแรมเสร็จก็เดินจูงมือกันออกมาจากโรงแรม
ประเพณีต่างประเทศ พวกเขาเดินเข้าไปในนั้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว เมื่อเปลี่ยนจากความอึดอัดของการอยู่โรงพยาบาลในเมื่อก่อน
“โครก…..”แต่ ไม่นานก็มีเสียงที่ไม่เข้ากันมาทำลายบรรยากาศการอยู่ด้วยกันของทั้งสอง
“หิวแล้วเหรอ?” เย่จิงเหยียนจับมือต้วนอีเหยาและบิดที่ปลายจมูกเธออย่างเอ็นดู
“อืม…..” ต้วนอีเหยาพยักหย้าอย่างไม่พอใจ
ตั้งแต่ลงจากเครื่องก็ยังไม่ทันได้ทานอะไรเลย เธอไม่หิวแต่เด็กในท้องเธอก็ควรหิวแล้ว!
เย่จิงเหยียนดูออกว่าเธอลำบาก จึงจับมือเธอแน่น “ฉันรู้จักร้านอาหารทะเลอร่อยๆร้านหนึ่ง รสชาติไม่เลวเลย ผมจะพาคุณไปนะ!”
ดูเขาตื่นเต้นขนาดนี้ ต้วนอีเหยาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธทำได้เพียงพยักหน้าเห็นด้วย จริงๆแล้วเธออยากทานอาหารจีน แต่เมื่อมาเที่ยวต่างประเทศแล้วความต้องการนี้อาจจะดูเหมือนยากไปหน่อย
พวกเขามาถึงร้านอาหาร ความคาดหมายของต้วนอีเหยานั้นคาดไม่ถึงเลยว่าร้านจะแตกต่างไปจากบริเวณรอบๆที่มีสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน การตกแต่งภายในร้านเป็นบรรยากาศแบบจีนๆ ลวดลายการแกะสลักของผนังกั้น ภาพวาดภูเขาและแม่น้ำธรรมชาติบนผนังเป็นการวาดด้วยการสะบัดน้ำหมึกในรูปแบบของจีน
“จิงเหยียน คุณแน่ใจนะว่าจะทานอาหารทะเลที่นี่?” การตกแต่งแบบนี้เหมือนเป็นการมาทานหม้อไฟเสียมากกว่า
เย่จิงเหยียนรีบเดาปฏิกิริยาของเธอ ตบที่หลังมือเธอเบาๆ “เจ้าของร้านนี้เป็นคนจีน เขาชอบทานอาหารทะเล แต่ก็รักความสวยงามของจีนโบราณด้วย ดังนั้นจึงมีความคิดแปลกๆหยิบเอาทั้งสองอย่างมารวมเข้าด้วยกัน”
มองต้วนอีเหยาหัวเราะจนเอามือปิดปากไม่ได้ด้วยความแปลกใจ เย่จิงเหยียนส่ายหัวอย่างจนปัญญา “โธ่คุณ มันจะมีอะไรแปลก ไป เข้าไปข้างในยังมีเรื่องแปลกกว่านี้!”
ต้วนอีเหยาตกตะลึงจนพูดไม่ออก เดินตามหลังเย่จิงเหยียนเข้าไปอย่างใจลอย พอเดินเข้าประตูก็มีคนเดินออกมาต้อนรับพวกเขา
“คุณชายเย่ คุณมาแล้ว!”
ดูเหมือนพนักงานวัยรุ่นจะคุ้นเคยกับเย่จิงเหยียนมาก่อนและพาเขาเดินไปขึ้นลิฟท์“ยังเอาเป็นห้องส่วนตัวเหมือนเดิมไหมครับ?”
เย่จิงเหยียนพยักหน้าตอบเสียงเข้ม “อืม”และจูงมือต้วนอีเหยาที่ไม่ได้พูดอะไร
พนักงานมองพวกเขาจับมือกันแน่นและไม่ได้พูดอะไรพร้อมขยิบตาให้กัน เหตุผลที่เธออยู่มาได้นานนั้นก็คงเป็นเพราะว่าเธอไม่พูดมากเกินไปและเธอมีความคิดเป็นของตัวเองไม่เหมือนอย่างคนอื่น
ลิฟท์เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและหยุดลง พนักงานพาเย่จิงเหยียนเดินโค้งไปเล็กน้อยก็หยุดลงตรงห้องส่วนตัว
ต้วนอีเหยาเงยหน้ามองอย่างตั้งใจ ห้องของร้านอาหารนี้จำลองตามโรงเตี๊ยมโบราณ ห้องที่พวกเขาหยุดลงมีป้ายมงคลแขวนอยู่ บนป้ายเขียนด้วยอักษรสมัยราชวงศ์ฮั่น : ห้องอักษรฟ้า
พอก้าวเข้าไป ก็เหมือนกับว่าพวกเขาได้เดินทางผ่านข้ามกาลเวลามาหลายร้อยปี ลวดลายแกะสลักที่บานหน้าต่าง การบรรจงวาดลงบนเก้าอี้และเวลาเดินบนพื้นไม้หนานมู่ยังมีเสียง “ตึง ตึง” ทั้งหมดนี้ทำให้ต้วนอีเหยาเหมือนตกอยู่ในความฝัน
“ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการสั่งอะไรครับ?” พนักงานหยิบเมนูอาหารมาจากด้านหลังมันเป็นแผ่นไม้ไผ่โบราณ
ต้วนอีเหยารู้สึกว่าเป็นแนวความคิดใหม่มาก เธอจึงจับมันมาเล่น เย่จิงเหยียนก็รับเมนูที่พนักงานยื่นส่งมาให้ แต่กลับเอามาวางไว้ข้างๆ
“เอาเหมือนเดิมแล้วกัน เจ้านายพวกนายล่ะ?”
“เจ้านายออกไปธุระ วันนี้น่าจะกลับแล้วครับ ถ้าเขากลับมาให้มาหาไหมครับ?” พนักงานตอบโต้อย่างเป็นกันเอง ฉากแบบนี้เหมือนจะเกิดขึ้นกับเธอมาหลายครั้งแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องคิดมาก
เย่จิงเหยียนโบกมือ “ไม่ต้องหรอก รีบไปเอาอาหารมาเถอะ”
พนักงานไม่ได้พูดอะไรอีก รับเมนูและเตรียมจะถอยออกไปเงียบๆ แต่ต้วนอีเหยายังดูเมนูไม่เสร็จ สายตายังไม่ละไปจากมือของพนักงาน
เย่จิงเหยียนหันไปมองเห็นภาพนี้ เขามองอย่างขบขันอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับพนักงานว่า “เหลือเมนูไว้สักเล่มเถอะ”
พนักงานยิ้มบางๆและไม่ได้พูดอะไร เพียงทิ้งเมนูไว้แล้วก็ถอยออกไปและปิดประตูให้อย่างรู้ใจ
“อยากกินอะไร?” เย่จิงเหยียนขยับเข้าใกล้มองเธอพลิกหน้าแผ่นไม้ไผ่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าและดวงตานิ่งไม่ไหวติง
ที่แท้เธอจะเปิดดูที่หน้าแรกมันเป็นหน้าแนะนำประวัติของร้านอาหาร ไม่คิดว่าเธอจะยังดูอยู่อย่างนั้นและยังไม่อยากละความสนใจไปจากมัน
“มีอะไรน่าดูฮะ?” เย่จิงเหยียนเฝ้าดูอยู่สักพักและสังเกตไม่เห็นความผิดปกติอะไร อดไม่ได้ที่จะอยากรู้ไปด้วยจึงถามออกมา
ต้วนอีเหยาเอียงศรีษะเพื่อสบตากับเย่จิงเหยียนและใบหน้าเธอนั้นแดงมาก “ไม่....ไม่มีอะไร”
แต่เย่จิงเหยียนรู้ว่านั้นเป็นเรื่องโกหก เขาจ้องไปที่ตาของต้วนอีเหยาและไม่ได้พูดอะไร หน้าของเธอแดงไปจนถึงต้นคอ
ต้วนอีเหยาก้มหน้าลงอย่ารวดเร็ว ชี้ไปที่มุมหนึ่งแล้วพูดว่า “สัญลักษณ์นี้ไม่เหมือนใครดีน่ะ เจ้าของร้านคิดเองเหรอ?”
เย่จิงเหยียนมองตามตรงที่เธอชี้อยู่สักพัก เพิ่งเห็นว่ามีสัญลักษณ์เล็กๆที่มุมล่างขวาเป็นตัวอักษรจีนแบบแปลกๆ
บนหน้าผากเขามีเส้นสีดำขึ้นสองสามเส้น คิดไม่ถึงเลยว่าสัญลักษณ์เล็กๆนี้จะดึงดูดให้ต้วนอีเหยามองอยู่นาน
“เจ้าของร้านออกแบบเอง”
เจ้าของร้านอีกแล้ว ต้วนอีเหยาอดไม่ได้ที่จะสงสัยและอยากพบหน้าเจ้าของร้านนี้ คนที่มีรสนิยมแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นคนแบบไหน
“อย่าคิดถึงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม!” เย่จิงเหยียนหันศรีษะของเธอเพื่อให้เธอมองมาที่ตัวเองตรงๆอีกครั้ง
ต้วนอีเหยาทำตัวไม่ถูก “ฉันไม่ได้คิดถึงเขา ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน”
“นั่นก็ไม่ได้”
“โอเค ไม่คิดแล้ว” ต้วนอีเหยายอมอ่อนข้อให้
ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ความต้องการจะเป็นเจ้าของนั้นนับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น การขอให้เธอห้ามทำนี้ห้ามทำนั้นมักจะไม่มีเหตุผลอยู่เสมอ
ทั้งสองกำลังคุยกัน มีเสียงเคาะประตูเกิดขึ้น เย่จิงเหยียนหยุดพูดและเงยหน้า “เข้ามา”
ประตูถูกเปิดออกจากข้างนอก คนกลุ่มหนึ่งยกจานอาหารเดินเข้ามาตามลำดับ บนจานเป็นอาหารทะเลรูปแบบต่างๆ ทุกๆอย่างต้วนอีเหยาทั้งเคยเห็นและไม่เคยเห็น ทั้งหมดนั้นวางอยู่ตรงหน้าเธอ
วางจานอาหารเสร็จ พนักงานเห็นว่าไม่มีคำสั่งอะไรเพิ่มเติมก็ค่อยๆพากันเดินเรียงแถวออกไปเหมือนตอนเข้ามา
“อีเหยา คุณหิวแล้วใช่ไหมเดี๋ยวผมช่วยแกะเปลือกให้นะ”
เย่จิงเหยียนหยิบเอาปูตัวเท่าชามมาหนึ่งตัว ทั้งแกะเปลือกทั้งพูดและยิ้มจนตาหยีให้เธอ
ภายในเวลาอันรวดเร็วและง่ายดายปูหนึ่งตัวนั้นก็เหลือไว้แต่เนื้อ เย่จิงเหยียนเอาเนื้อทั้งหมดจัดใส่ชามให้ต้วนอีเหยาและตั้งหน้าตั้งตารอเธอกิน “ชิมเลย”
ต้วนอีเหยาพยักหน้า หยิบเนื้อปูชิ้นหนึ่งขึ้นมาใส่ปาก แววตาสว่างสดใสขึ้นทันที “อร่อย!”
เธอไม่ได้พูดอย่างขอไปที ปูนี้อร่อยมากจริงๆ ไม่ต้องปรุงมากเกินไปแค่ต้มง่ายๆแบบนี้คงรสชาติเดิมไว้ ไม่เหมือนกับที่มนุษย์เลี้ยงไว้เองคือมีกลิ่นคาวที่รุนแรงมาพร้อมกับความหวานของตัวมันเอง
เย่จิงเหยียนเห็นรอยยิ้มของเธอก็รู้สึกพอใจไปด้วย เขาหวังว่าของที่เขาชอบกินมาตลอดจะทำให้เธอยอมกินได้และจะทำให้เธอชอบด้วย เช่นนี้แล้วของอร่อยก็ยิ่งกลายเป็นของที่อร่อยมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...