วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 383

มู่เวยเวยไอและรีบพูดอย่างประนีประนอมว่า "นี้เป็นความประมาทของเราจริงๆ รออีกไม่กี่วันเราจะเลือกวันมงคลไว้เพื่อจะได้จัดการเรื่องงานแต่งของพวกเธอ"

"ไม่ ... ไม่ใช่!" ต้วนอีเหยาโบกมืออย่างรวดเร็ว "หนูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!"

"ไม่เป็นไร" มู่เวยเวยส่งสายตาให้เธอประมาณว่าฉันเข้าใจ พวกเขาเคยผ่านมันมาก่อน เธอเข้าใจดี!

...

ต้วนอีเหยาและเย่จิงเหยียนออกมาจากโรงพยาบาลและคนขับรถก็รออยู่ข้างนอกแล้ว

"ผมเอง!"ต้วนอีเหยาที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ แต่ถูกเย่จิงเหยียนก้าวตัดหน้าหนึ่งก้าวและหยุดเธอไว้ข้างหลัง

เมื่อกี้เขายังรู้สึกไม่สบายใจเลยพาต้วนอีเหยามาตรวจดูที่โรงพยาบาล หมอตรวจไปครึ่งวันก็ไม่พบปัญหาใดๆและในที่สุดก็สรุปว่าเป็นปฏิกิริยาปกติของการตั้งครรภ์

แต่เย่จิงเหยียนยังไม่ผ่อนคลายลง เขาทำทุกอย่างด้วยตัวเองแม้แต่เปิดประตูรถ เย่จิงเหยียนกลัวว่าเธอจะโดนชนเข้า

เขาจำเป็นต้องแน่ใจว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุก่อนถึงจะวางใจได้!

ต้วนอีเหยารออยู่ข้างหลังเขาอย่างเชื่อฟังและดูเขาเปิดประตู เธอรู้ว่าถ้าไม่ปล่อยให้เขาทำจะต้องไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้แน่นอน อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรดังนั้นปล่อยให้เขาทำก็ดีเหมือนกัน

คนขับรถหันกลับมาเห็นฉากนี้เข้าและยิ้มด้วยความปลื้มใจ เขาอยู่บ้านตระกูลเย่มานานหลายสิบปี ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยที่เขากำลังจะเกษียณ ในที่สุดก็ได้เห็นเวลาเย่จิงเหยียนอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองรัก เขาเหมือนนักรบที่เอาแต่ปกป้องบดบังลมฝนให้เธอเหมือนกันนะเนี้ย ในใจมีความรู้สึกมากมายเต็มไปหมด

หลังจากที่เย่จิงเหยียนขึ้นไปนั่งในรถ คนขับก็เหยียบคันเร่งและออกจากโรงพยาบาลทันที

เย่จิงเหยียนหันหน้าไปทางเธอและเห็นต้วนอีเหยาต่อสู้กับเปลือกที่กำลังจะหลับของเธอแล้วส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจ เขาจึงกดศีรษะของเธอลงบนไหล่ของเขา "นอนพักหน่อยเถอะ!"

วิ่งไปมาบนเครื่องบินทั้งวันแม้แต่รางกายก็ไม่ได้พักเลย จากนั้นก็ต้องนั่งรถไปโรงพยาบาลอีก สำหรับคนขี้เซาแบบเธอตอนนี้เธอคงเหนื่อยมากแน่ๆ!

ต้วนอีเหยาใช้หัวถูไหล่ของเขาไปมาเพื่อหาท่าที่ทำให้เธอนอนได้สบายๆจากนั้นก็หลับตาลงนอน

เธอเหนื่อยเกินไปจริงๆ การอาเจียนทำให้ทั่วร่างกายของเธอหมดแรง พอเอ็นหัวลงบนไหล่ของ เย่จิงเหยียนก็หลับไปภายในไม่กี่นาที

เย่จิงเหยียนหันศีรษะอย่างระมัดระวังและเห็นขนตายาวของเธอปลิวไสวในอากาศ เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรและปากของเธอก็มีเสียงแจ๊บปากดังออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว

เขาวางมือบนตัวเธอที่กำลังโกนเล็กน้อย เธอที่น่าเอ็นดูเช่นนี้ดูๆแล้วอย่างกับลูกแมว

"คุณชาย พวกเรามาถึงแล้ว" คนขับจอดรถและไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลังเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดเตือนออกมา

เย่จิงเหยียนทำท่าทาง "ชู่ว" กวักมือให้เขาลงจากรถก่อน คนขับตะลึงเล็กน้อยจึงเปิดประตูรถออก

"แป๊บนึงๆ"

“มีอะไรเหรอครับ?” คนขับหันศีรษะกลับด้วยความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเย่จิงเหยียนถึงเรียกเขา

"ไปหยิบเสื้อคลุมมาตัวหนึ่ง"

คนขับพึ่งสังเกตเห็นว่าทั้งตัวของต้วนอีเหยาขดอยู่ภายใต้อ้อมแขนของเย่จิงเหยียน ทันใดนั้นก็เข้าใจเจตนาของเย่จิงเหยียนทันที เขาตอบกลับคำหนึ่งและลงจากรถไป

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ถือเสื้อสูทออกมาหนึ่งตัว เย่จิงเหยียนรับมาและคลุมไว้บนตัวของต้วนอีเหยาอย่างเบามือ

“พี่จิงเหยียน!”

คนขับกำลังจะปิดประตู มีร่างหนึ่งไวกว่าเขาไปก้าวเดียวและมุดเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว

เส้นเลือดบนหน้าผากของเย่จิงเหยียนกระตุกขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองไปยังที่มาของเสียง อย่างที่คาดการณ์ไว้ เหมือนกับที่เขาเดาเอาไว้เป๊ะ

คนที่เรียกเขาแบบนี้ จะเป็นใครไปได้นอกจากต้วนจื่ออิ๋ง?

ต้วนอีเหยารู้สึกได้ว่ามีคนเอาเสื้อผ้ามาคลุมให้เธอ เมื่อเธอได้ยินเสียงตะโกนเธอก็ตื่นขึ้นมาทันที เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆด้วยความว่างเปล่า

"ทำไมไม่นอนแล้วล่ะ?" เย่จิงเหยียนถามขึ้นและค่อยๆช่วยเธอจัดผมที่กระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าผากเธอ

ต้วนอีเหยากดขมับของเธอ "ฉันได้ยินมีคนเรียกคุณ"

"ฉันเอง!"ต้วนจื่ออิ๋งถือโอกาสที่เย่จิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดจึงรีบแทรกขึ้นมา

“ทำไมเธอมาอีกแล้วล่ะ?”

เย่จิงเหยียนเริ่มรู้สึกปวดหัว ถ้าก่อนหน้านี้รู้ว่าเธอจะมีปัญหามากขนาดนี้ก็คงไม่รู้จักเธอดีกว่า

“พ่อของฉันมีโปรเจ็กต์ที่นี้ฉันก็เลยตามมาด้วย พี่จิงเหยียน ฉันคิดถึงพี่มาก ... ” ต้วนจื่ออิ๋งมองไปที่เขาด้วยความน้อยใจเพราะกลัวว่าเขาจะพูดคำพูดอะไรบางอย่างที่โหดเหี้ยมออกมา

แต่เธอไม่เข้าใจสำหรับคนที่ไม่สนใจ แม้แต่จะพูดคำพูดที่สิ้นหวังก็มีแต่จะแปลกแยกและทำให้คนหมดหวัง

เย่จิงเหยียนเปร่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา "อืม" จากนั้นก็หันไปมองต้วนอีเหยา "คุณคงไม่ได้นอนดีๆ ถึงบ้านแล้ว กลับไปนอนพักอีกรอบเถอะ!"

ต้วนอีเหยามองไปที่ต้วนจื่ออิ๋งและอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอเหนื่อยเกินไปไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่พยักหน้าแล้วลงจากรถโดยมีเย่จิงเหยียนช่วย

เธอควรจะปฏิเสธแม้กระทั่งเรื่องนี้ มันก็แค่ตั้งครรภ์ไม่ใช่หรือ?ทำอย่างกับเธอพิการอย่างงั้น!

แต่เย่จิงเหยียนยังคงยืนหยัด เธอไม่สามารถโต้เถียงกับเขาต่อหน้าต้วนจื่ออิ๋งได้ดังนั้นจึงปล่อยให้เขาเอาแต่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในห้องนั่งเล่น เย่ฉ่าวเฉินนั่งอยู่บนโซฟา ด้านในมีคนเพิ่มมาอีกคนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ต้วนอีเหยามองไปที่เขาสักพักและจำได้ว่าตัวเองเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน

ต้วนจื่ออิ๋งเดินตามพวกเขาเข้าไปและกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของชายแปลกหน้าคนนั้นโดยไม่รีรอ "พ่อ"

ต้วนอีเหยาพึ่งตระหนักได้ว่าชายคนนี้เป็นพ่อของต้วนจื่ออิ๋ง ถึงว่าเธอถึงมีความรู้สึกว่าเขาคุ้นๆอยู่บ้าง

รูปหน้าของต้วนจื่ออิ๋งดูเหมือนเขามากและตัวต้วนจื่ออิ๋งกับเขามีหลายจุดที่ค่อนข้างคล้ายกันดังนั้นเธอจึงรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

พ่อต้วนลูบผมของต้วนจื่ออิ๋งอย่างรักใคร่ “ไปไหนมา? ทำไมนานขนาดนี้?”

“ไปตามหาพี่จิงเหยียนมา!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อต้วนแข็งกระด้างขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองเห็นเย่จิงเหยียนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอกประตูหลังจากรถจอดนิ่ง

ยังไงซะชายคนนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเคยทิ้งลูกสาวตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะโครงการนี้ต้องพูดคุยกับบ้านตระกูลเย่เขาจะไม่มีวันเผชิญหน้ากับชายคนนี้ตามลำพัง

“พ่อ พ่อก็อยู่ที่นี้ด้วย!”

"อืม"

พ่อต้วนอุทานไปทีหนึ่งและบรรยากาศในการสนทนาของเขากับเย่ฉ่าวเฉินเมื่อกี้ จู่ๆก็ดูอึดอัดขึ้นมาก

ตอนงานแต่งงานเนื่องจากยังจัดงานไม่สำเร็จ เขาไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับบ้านตระกูลเย่อีกต่อไป แต่เรื่องงานในครั้งนี้เขาไม่ได้สมัครใจ ถ้าหากผิดสัญญาบ้านตระกูลต้วนไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับที่สูงขนาดนั้นได้

ดังนั้นตัวเขาเองจึงยังคงร่วมมือกับบ้านตระกูลเย่ในการทำธุรกิจ แต่ก็ยังคงไม่สามารถหลบให้พ้นฉากในตอนนี้ได้

ตอนนี้จะให้เขาคุยงานกับไอ้เด็กน้อยคนนี้ สำหรับเรื่องงานโครงการนี้น่าจะไม่ดีต่อพวกเขามากนัก สำหรับเรื่องส่วนตัวพวกเขาเคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีวันติดต่อกันถึงจะถูก

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว จากการสนทนาของพวกเขาเย่จิงเหยียนเดาบางอย่างไว้แล้ว เดิมทีเขากะจะพาต้วนอีเหยาขึ้นไปชั้นบนทันที แต่พ่อของเขาโยนเรื่องนี้ให้กับตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องเดินมาข้างหน้าเพื่อทักทายพ่อต้วน

“ลุงต้วนครับ”

พ่อต้วนมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เดิมทีก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้วพอตอนนี้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งตามเขามาข้างๆด้วย ก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น

เขารู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ใกล้ชิดกันมาก

“อย่าเรียกฉันว่าลุง เป็นให้ไม่ได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ