เย่ชูวเสวียใช้ประโยชน์จากตอนที่รถอยู่ในเกียร์ว่างนี้ รีบเข้าไปในรถและบอกคนขับว่า "อย่าเปิดประตู รีบขับรถออกไป!"
เมื่อคนขับได้ยินคำสั่งของเธอ เขาก็พยักหน้าแล้วสตาร์ทรถและกลับรถทันที
“เอ๊ะ?”
ต้วนจื่ออิ๋งถูกทิ้งไว้ที่ลานจอดรถและรถก็แล่นผ่านข้างๆเธอไป เธอรีบถอยหลังไปสองสามก้าวยืนดูรถที่ค่อยๆห่างจากเธอไปมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเธอก็กระทืบเท้าลงพื้นอย่างดุดัน
ต้วนอีเหยาที่นั่งอยู่ในรถมองกลับไปเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็หันกลับไปมองด้านหน้า
เย่ชูวเสวียตรวจดูกระโปรงในกระเป๋าของเธออย่างมีความสุข ครั้งนี้เธอไม่ได้ช้อปปิ้งอย่างเต็มที่ แต่เธอก็ได้ของมามากมาย
กลับมาถึงบ้านตระกูลแย่ อาหารเย็นก็เตรียมพร้อมเสร็จแล้ว เย่จิงเหยียนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อรอให้พวกเขากลับมา เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของประตู เย่จิงเหยียนก็เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าต้วนอีเหยาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจ
มู่เวยเวยและเย่ฉ่าวเฉินกำลังเจรจาเรื่องบางอย่าง เมื่อต้วนอีเหยาเข้ามาใกล้มู่เวยเวยก็รีบโบกมือเรียกเธออย่างรวดเร็ว
ต้วนอีเหยานั่งลงอย่างสงสัยและถามว่า "มีอะไรเหรอคะ?"
"เราเจรจาวันมงคลไว้สามวัน เลยอยากคุยกับเธอ"
ในขณะที่พูดมู่เวยเวยก็หยิบปฏิทินจันทรคติออกมาหนึ่งเล่ม มีวงกลมเล็กๆหลายวงวาดอยู่บนนั้น บางอันถูกลบทิ้งไปแล้ว บางอันมีคำอธิบายประกอบ ท้ายสุดก็มีวงกลมสามวงที่สำคัญมีสัญลักษณ์ห้าดาวประดับไว้
ต้วนอีเหยามองเพียงพริบตาและพูดว่า "หนูได้หมด พวกคุณตัดสินใจกันได้เลยค่ะ"
เธอกำลังจะคืนปฏิทินจันทรคติแต่เย่จิงเหยียนเอื้อมมือไปหยิบมันมาดู ชี้ไปในวันที่ใกล้ที่สุดแล้วพูดว่า "วันนี้แล้วกัน!"
"นี้มันดูรีบไปหรือเปล่า?" มู่เวยเวยขมวดคิ้ว เธอไม่เห็นด้วยกับการจัดงานแต่งงานที่เร่งรีบเกินไป ยังไงมันก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
เธอถูกใจวันที่สองที่สุด ไม่ใกล้ไม่ไกลแถมยังมีเวลาได้เตรียมตัวและไม่ต้องให้พวกเขารอนานเกินไป
แต่เย่จิงเหยียนส่ายหัว เวลานี้อีเหยายังสามารถใส่ชุดแต่งงานสวยๆได้ หากใช้เวลานานกว่านี้อาจได้รับผลกระทบเอาได้
มู่เวยเวยลองคิดๆเรื่องนี้ดูแล้วก็เห็นด้วยเช่นกัน สำหรับครอบครัวของพวกเขาข่าวลือและข่าวซุบซิบนินทานั้นเป็นเรื่องที่เยอะที่สุด แม้ว่าเรื่องท้องก่อนแต่งจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ถ้าข่าวแพร่กระจายออกไปต้วนอีเหยาอาจจะได้รับผลกระทบนั้นได้
เธอพูดอย่างประนีประนอม "วันนี้ก็วันนี้ แต่พวกเธอจะทำแบบขอไปทีไม่ได้นะ!"
ตลอดเวลาเย่ชูวเสวียไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและอดไม่ได้ที่จะชะโงกหัวมอง "โอ้ ตกลงเป็นวันไหน ฉันยังมองไม่เห็นเลย!"
"มันไม่ใช่ธุระของเธอสักหน่อย ไปกินข้าว" เย่จิงเหยียนหันหัวของเธอกลับไปแล้วพูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะอาหาร
คำพูดของเขาทำให้เตือนทุกคนว่าควรมีสติกลับมาแล้วไปรวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร
หลังจากที่เย่ชูวเสวียเดินช้อปปิ้งไปหลายชั่วโมงทำให้เธอรู้สึกหิวมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะต้วนจื่ออิ๋ง พวกเขาคงจะกินข้าวข้างนอกก่อนที่จะกลับมา
เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะก็รอไม่ไหวที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา “เอ๊ะ พี่ใหญ่พี่ไม่ผิดสัญญาจริงๆด้วย!”
อาหารที่อยู่เต็มโต๊ะเกือบทั้งหมดเป็นอาหารที่เย่ชูวเสวียชอบ ได้กินนี้ต่อเนื่องมาหลายวันแล้วถ้าไม่ใช่เพราะกินข้าวเธอคงจะลืมมันไปแล้ว
เย่จิงเหยียนเลิกคิ้วเขาเป็นคนพูดก็จริงแต่ยังต่อเนื่องแบบนี้หายากจริงๆ มู่เวยเวยและเย่ฉ่าวเฉินไม่มีข้อเรียกร้องอะไรในเรื่องการกิน ดังนั้นจึงปล่อยให้เธอไป
ทุกคนกำลังขยับตะเกียบ บางครั้งเมื่อนึกบางอย่างออกก็จะเงยหน้าขึ้นพูดสองสามประโยค มีเพียงต้วนอีเหยาที่ถือตะเกียบไว้โดยไม่รู้ว่าจะเริ่มกินจากตรงไหนดี
แม้ว่าตอนเดินช้อปปิ้งอาหารจะย่อยไปบ้างแล้วแต่ท้องของเธอก็ยังอิ่มอยู่ เมื่อเห็นของเลี่ยนๆ เหล่านี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากอาเจียน
แน่นอนว่าความแตกต่างของเธอดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆเข้าแต่ไม่มีใครเปิดประเด็นพูดออกมา เย่จิงเหยียนคีบมะเขือม่วงให้เธอแล้วถามว่า "เป็นอะไรไป?ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?"
ต้วนอีเหยาแสร้งทำเป็นยิ้ม "ไม่ใช่ ตอนบ่ายฉันกินเยอะเกินไปหน่อย ตอนนี้เลยกินไม่ค่อยลง!"
เธอไม่อยากทำอะไรที่ดูใหญ่โตอีก เกรงว่าคนอื่นจะบอกว่าเธอเว่อร์เกินไป
เย่จิงเหยียนพยักหน้า “ถ้างั้นก็กินสักหน่อยก็พอ ไม่งั้นจะได้รับสารอาหารได้ยังไง”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เงียบลง มีเพียงพวกเขาสองคนที่กำลังคุยกัน ต้วนอีเหยายิ้มและกินเนื้อในชาม กลิ่นของมันอบอวลอยู่ในปากของเธอ ท้องของเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งไปทางห้องน้ำ
"แหวะ……"
เย่จิงเหยียนวิ่งตามเธอไปและลูบหลังให้ต้วนอีเหยาอย่างอ่อนโยน
มู่เวยเวยที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารมองไปทางห้องน้ำอย่างเป็นห่วง“ถ้าเป็นแบบนี้จะทำยังไงดี?เนื้อสัตว์ก็กินไม่ได้เลย จะมีสุขภาพที่ดีได้ยังไง?”
ในช่วงบ่ายวันนี้เธอให้ต้วนอีเหยากินผลไม้ไปบ้าง เธอไม่ได้แตะต้องเนื้อสัตว์เลยด้วยซ้ำ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปจะทำให้เกิดความไม่สมดุลทางโภชนาการอย่างรุนแรงได้ ซึ่งไม่ดีต่อเธอและทารกในครรภ์แน่นอน
เย่ชูวเสวียไม่ค่อยเข้าใจ "ถ้ามันไม่โอเคก็ไม่ต้องกินแล้วจะได้ไม่ทำให้ตัวเองลำบาก"
แต่มู่เวยเวยก็เริ่มจริงจังขึ้นทันที “ตอนนี้ลูกยังเป็นเด็ก ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง?”
เมื่อเย่ชูวเสวียถูกเธอพูดเช่นนั้นเธอก็ก้มหัวแล้วแลบลิ้นออกมา เด็กก็เด็กเถอะก็ไม่เห็นเป็นไร
ทั้งสองกำลังดุเดือด ต้วนอีเหยาและเย่ชูวเสวียก็กลับมาที่นั่งของพวกเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกินข้าวแล้วก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย "เกิดอะไรขึ้น?"
เย่ชูวเสวียและมู่เวยเวยต่างไม่พูด ในที่สุดเย่ฉ่าวเฉินก็พูดออกว่า "ไม่มีอะไร กินเยอะไปหน่อยเลยทะเลาะกันบ้างจะได้ย่อยง่าย"
มุมปากของต้วนอีเหยากระตุก ทำไมคำพูดเหล่านี้มันไม่เหมือนออกจากปากของเย่ฉ่าวเฉินเลย?
หลังจากที่เธออาเจียนไปบ้างก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยและกินอาหารเบาๆไปสองคำเธอก็เลิกกินและเตรียมลุกจากโต๊ะ
"เรากลับห้องกันเถอะ"ต้วนอีเหยาพูดข้างๆหูของเย่จิงเหยียน
ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน แน่นอนว่าไม่มีข้อยกเว้น ต้วนอีเหยาคิดว่าตัวเองพูดเบามากพอที่จะไม่ให้ใครได้ยิน
เย่ชูวเสวียที่ขาดความอดทน ใบหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มติดตลกออกมา
มู่เหวยเวยส่ายหัวเล็กน้อย ชายหนุ่มนี้มันฮึกเหิมจริงๆแต่นี้พึ่งจะสองเดือนเอง กลัวว่าจะทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้มั้ง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอจึงรีบดึกเย่จิงเหยียนไปข้างๆและเตือนสติว่า "เธอต้องการอะไรลูกก็ต้องรู้วิธีปฏิเสธ อย่าฟังเธอทุกอย่างควรยึดร่างกายเป็นหลัก!"
การแสดงออกบนใบหน้าของเย่จิงเหยียนนิ่งลง พวกเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้ว จังหวะแบบนี้เขาจะ ...
อีกอย่างอีเหยาก็ไม่ได้กำลังหมายความว่าอย่างนั้น เธอแค่ขอให้กลับไปที่ห้องเป็นเพื่อนเธอเฉยๆ พวกเขาแสดงละครเรื่องใหญ่ในหัวเอง
เย่จิงเหยียนตบไหล่มู่เวยเวยเบาๆ "แม่วางใจเถอะ! ไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิด!"
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว!” มู่เวยเวยฟังเขาพูดแบบนี้ก็รู้สึกโล่งใจ
พอหันกลับไปก็นึกอะไรบางอย่างได้แล้วหันหน้ามาพูดว่า "ถ้าใช่ก็ไม่เป็นไรหรอก คนหนุ่มสาวใครไม่เคยเป็นแบบนี้กัน แต่ก็ควรคำนึงถึงปลอดภัยด้วย"
เย่จิงเหยียนทำอะไรไม่ถูกและขี้เกียจที่จะอธิบายจึงพาต้วนอีเหยาขึ้นไปชั้นบนทันที หลงเหลือเพียงแค่สายตาที่สับสนของพวกเขา แม้แต่ต้วนอีหยาที่ไม่ค่อยตอบสนองก็ยังทำให้เธอรู้สึกเย็นไปทั้งหลัง
วันแต่งงานของทั้งสองกำลังใกล้เข้ามาแล้ว จริงๆแล้วต้วนอีเหยามีท่าทีที่ดูเฉยเมยมากก็คิดแค่ว่าไม่ได้มีอะไร แต่คนอื่นๆในบ้าน ยิ่งใกล้เวลามากขึ้นเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...