ต้วนอีเหยาใจอ่อนและพูดขึ้นว่า " ให้เธอพักอยู่ที่นี่เถอะ พวกเราไม่ได้ขาดแคลนห้องนอนสักหน่อย"
" แต่เราก็ไม่ได้ขาดแคลนหลอดไฟนิ! "
คำพูดของเขาทำให้ต้วนอีเหยาพูดไม่ออก แล้วหันไปยิ้มให้เย่ชูวเสวียแบบจนปัญญาจริงๆ " ถ้าไม่ได้จริงๆ เธอก็ไปเที่ยวเล่นข้างนอกก่อน ผ่านไปสองสามวันค่อยกลับมา? "
" ฉันไม่ตกลง! " เย่ชูวเสวียยืนขึ้นอย่างดื้อรั้น " ถ้าพวกพี่ทำแบบนี้พวกพี่จะสูญเสียฉันไปได้นะ! "
" ใครใช้ให้เธอเป็นส่วนเกินละ "เย่จิงเหยียนพูดออกไปพูดแทรกขึ้นมาประโยคหนึ่งอย่างเยือกเย็น
ทำให้เย่ชูวเสวียที่ตอนแรกก็โกรธอยู่แล้วยิ่งรู้สึกหดหู่ขึ้นไปอีก " ก็ได้ๆๆ ฉันจะไป! "
" ชูวเสวีย " เย่ชูวเสวียไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เธอหันหลังแล้วเดินออกไปทางประตู หนานกงเจารีบลุกเดินตามเธอออกไป
ต้วนอีเหยาเห็นท่าทีบูดบึ้งของเย่ชูวเสวีย เลยสะกิดเย่จิงเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆไปหนึ่งที " พอได้แล้ว คุณหยุดแกล้งเธอเถอะ! "
เย่จิงเหยียนยักคิ้วอย่างไม่แยแส ทำอีเหยาเลยต้องพูดขึ้นเอง " ชูวเสวีย พวกพี่แค่ล้อเล่น พวกเธอจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้ รีบกลับมาเร็ว! "
" จริงหรอ? " เย่ชูวเสวียหันหน้ามาแล้วมองไปที่เย่จิงเหยียน รอให้เขาพยักหน้า
" อือ! "เย่จิงเหยียนพยักหน้าเบาๆและไม่ได้พูดอะไร
แต่ว่าเพียงเท่านี้ก็ทำให้เย่ชูวเสวียดีใจมากๆแล้ว เธอพุ่งตัวเข้าไปกอดแขนเย่จิงเหยียนไว้ " ฉันรู้อยู่แล้ว พี่เป็นพี่ชายที่ดีที่สุดแล้ว! "
" พอๆๆ แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ เธออยู่ได้ แต่เขาไม่ได้ " เย่จิงเหยียนดึงมือตัวเองออกด้วยความรังเกียจ แล้วจ้องไปที่หนานกงเจาที่อยู่ไม่ไกล
" ฉัน......"
" ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว! " เย่ชูวเสวียพูดแทรกหนานกงเจา
หนานกงเจาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย " ชูวเสวีย......"
เย่ชูวเสวียไม่ได้หันไปดูเขา เธอยกมือแล้วโบกมือไปมา " คุณมีที่พักของตัวเองไม่ใช่หรอ รีบกลับไปเถอะ! "
" ฉันไม่มีนิ! "หนานกงเจาไม่ได้ขยับไปไหน เขาใช้สายตาที่อ้อนวอนมองไปที่เย่ชูวเสวีย
" ฉันไม่เชื่อหรอก! "นอกจากคฤหาสน์แล้ว เขายังมีอพาร์ทเม้นท์หรู ถ้าบอกว่าไม่มีที่พักมันช่างเป็นเรื่องตลกสะจริงๆ
ถ้าตอนนั้นเธอมองการณ์ไกลกว่านี้หน่อย ซื้ออพาร์ทเมนท์เล็กๆเก็บไว้สักห้อง ตัวเองก็ไม่ต้องแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเย่จิงเหยียนแบบนี้หรอก
พอหนานกงเจาเห็นว่าเย่ชูวเสวียไม่มีทีท่าว่าจะให้เขาอยู่ด้วย ก็ทำได้แค่พูดกับเธอว่า " ถ้าอย่างนั้นเธอก็ดูแลตัวเองดีๆนะ พรุ่งนี้ฉันมาหาใหม่! "
รอให้เขาปิดประตูสนิท แววตาของเย่จิงเหยียนก็กลับมาเป็นปกติ " เธอคิดว่ามันหมายความว่ายังไง? "
ทำเหมือนกับว่าเย่ชูวเสวียแต่งงานออกไปแล้วอย่างนั้นแหละ เหมือนว่าคนในบ้านเขาเป็นคนนอกไปได้ ดุแลตัวเองดีๆอะไร ที่เย่ชูวเสวียเติบโตมาได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะการเลี้ยงดูของพวกเขาไม่ใช่หรอ? "
" พี่ชาย เขาไปคิวต่ำ พี่ไม่ใช่ไม่รู้สักหน่อย พี่อย่าไปถือสาเขาเลย! "
พอเย่ชูวเสวียเห็นว่าเย่จิงเหยียนยังมีอารมณ์โกรธอยู่เล็กน้อย ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย " ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย! ที่บ้านมีอะไรกินบ้าง ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว! "
ในขณะที่กำลังพูด ก็เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหาของกิน เธอหยิบมันฝรั่งทอดกรอบถุงหนึ่งออกมาแล้วกลับไปนั่งบนโซฟา
" ยังมีอาหารที่พี่ชายเธอทำไว้อีกนิดหน่อย เดี๋ยวพี่ไปอุ่นให้ อาหารหลักจะกินแค่ขนมไม่ได้ "
ต้วนอีเหยาเอาอาหารบนโต๊ะอาหารเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ เย่ชูวเสวียที่อยู่ข้างหลังพอได้ยินว่าเป็นอาหารที่พี่ชายเป็นคนทำก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที " อาหารที่พี่ชายทำ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องกินให้ได้! "
" ให้เธอพอกินรองท้องไปก่อนก็พอ แค่มื้อสองมื้อไม่เป็นไรหรอก " เย่จิงเหยียนหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย ความหมายของคำพูดเขามันชัดเจนมากก็คือหยุดอุ่นอาหารที่เหลือได้แล้ว
แต่ว่าต้วนอีเหยาและเย่ชูวเสวียกลับแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน สองสามนาทีผ่านไป อาหารออกจากหม้อแล้ว เย่ชูวเสวียนั่งรอบนโต๊ะอาหาร เธอแทบจะอดไม่ไหวอยากที่จะลิ้มลองรสฝีมือในการทำอาหารของเย่จิงเหยียน
" ลุกขึ้นๆ นี่เป็นอาหารที่ทำให้พี่สะใภ้ใหญ่เธอกิน ถ้าเธออยากกิน ก็ไปเข้าครัวทำกินเอง! "
เย่ชูวเสวียแลบลิ้นให้เขา " ไม่เอาหรอก พี่ชายพี่จะขี้เหนียวเกินไปหน่อยรึเปล่า มันก็แค่อาหารไม่กี่คำไม่ใช่หรอ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่พวกพี่กินเหลืออีกด้วย ทำไมถึงให้ฉันกินไม่ได้? "
เย่จิงเหยียนจ้องหน้าเธอ " ก็เพราะว่าฉันเป็นคนทำไง! "
" ถ้าอย่างนั้นฉันยิ่งต้องลอง! " เย่ชูวเสวียไม่รอให้เย่จิงเหยียนตอบ เธอหยิบตะเกียบแล้วคีบมันเข้าปากคำใหญ่
" หะ? พี่ชาย นี่พี่เป็นคนทำจริงๆหรอ? "ตอนที่เย่ชูวเสวียได้ยินว่าเป็นอาหารที่เย่จิงเหยียนทำเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอเอาเข้าปากไปแล้ว รสชาติกลับไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิด
ยิ่งกินกลับยิ่งรู้สึกว่ายิ่งอร่อย!
" คิดไม่ถึงเลยว่าพี่มีของดีที่ซ่อนเอาไว้ ถ้าฉันไม่ได้มากะทันหันแบบนี้ ชีวิตนี้คงไม่มีวันได้กินแล้วใช่ไหม? "
" รู้อยู่แล้วก็ไม่ต้องพุดออกมานะ " เย่จิงเหยียนไม่อยากอยู่ในห้องครัว พอพูดเสร็จเขาก็เดินออกไปเลย
เย่ชูวเสวียมองไปที่ต้วนอีเหยาอย่างสงสัย ต้วนอีเหยาเบะปาก " เขาก็นิสัยแบบนี้แหละ เขาน่าจะอายนั่นแหละ "
" คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายจะมีของดีซ่อนไว้มากมายขนาดนี้ " เย่ชูวเสวียก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ และเธอก็จัดการกับอาหารบนโต๊ะต่อไป
......
" ถึงแล้ว "
เสี่ยวอวี้หลินจอดรถที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง แล้วพูดเตือนเธอเบาๆ
ตรงหน้าของพวกเขาคือประตูที่สร้างแบบแนวย้อนยุคอันงดงาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในจังหวัดนี้ และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับท็อปเท็นของประเทศอีกด้วย
เสี่ยวอวี้หลินมองเซี่ยอันน่าผ่านกระจกหลัง เธอนั่งอยู่ตรงเบาะหลังและไม่มีทีท่าที่จะลงจากรถเลยสักนิด
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆนักศึกษาที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับนี้ได้ ทำไมถึงได้ไปสถานที่แบบผับบาร์แบบนั้น ควรจะเคารพกฎและมีวินัยในตัวเองไม่ใช่หรอ?
" ตอนนี้คนเยอะ รออีกสักหน่อยฉันค่อยลงได้ไหม? ” เซี่ยอันน่าเงยหน้าขึ้นแล้วถามอย่างเกรงใจ
เวลาที่พวกเขามาถึงมันเป็นเวลาที่จะเข้าเรียนพอดี นักศึกษาเดินผ่านรถของพวกเขาไปทีละกลุ่มๆ
รถเฟอร์รารี่สีเหลืองมันโดดเด่นเป็นพิเศษ ทุกคนก็ต่างอยากรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างในรถคือใคร แต่ว่ากระจกกันแสงบดบังใบหน้าคนคนในรถไว้
เสี่ยวอวี้หลินพยักหน้า " ถึงยังไงฉันก็ไม่มีธุระอะไร รอก็รอ "
ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ ไม่มีใครพูดขึ้นมาก่อนเลย เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เลยถามขึ้นว่า " เมื่อวาน......ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย? "
" ฉัน......" เซี่ยอันน่ายิ้มอย่างขมขื่น " มันผ่านไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้อีก "
" เพราะผู้ชายหรอ? " เสี่ยงอวี้หลินลองถามดู เขาจำได้ก่อนที่เขาจะเอาตัวออกจากเธอ เธอดึงเขาไว้ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อย เห็นได้ชัดเจนว่าเธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายอีกคน
เซี่ยวอันน่าเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ " ฉันพูดอะไรออกไปกับคุณบ้างหรอ? "
" เรื่องสำคัญน่าจะพูดทั้งหมดแล้วแหละ " เสี่ยวอวี้หลินอดทนไว้พยายามไม่ให้ตัวเองยิ้ม เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ
" เป็นไปได้ยังไง......ถ้าอย่างนั้นฉัน......" เซี่ยอันน่าขยับตัวไปมาอย่างวุ่นวายใจ " ถ้าอย่างนั้นเรื่องของเขาฉันก็เล่าไปแล้วหรอ? "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...