พลังเวทย์ สามารถใช้ได้ในเฉพาะทางเลือกสุดท้าย นี่เป็นกฎของพี่หก และเป็นกฎที่เสี่ยวหูจื่อก็ต้องปฎิบัติตาม
“เฮ้ ฉันต้องการดูว่า เจ้าสองคนนี้จะสามารถจะออกจากพลังเวทย์ของคุณปู่หูได้หรือไม่”เสี่ยวหูจื่อเปลี่ยนแปลงพลังเวทย์อีกครั้ง ทำให้พลังเวทย์มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ในตอนนี้ ซานซานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าออร่านั้นเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขารู้ว่ามีใครบางคนจงใจต่อสู้กับเขา หรือไม่ก็มีใครบางคนจงใจตีกรอบเขา
“พวกเราจะนั่งอยู่ที่นี่ไม่ขยับไปไหน” ซานซานเหลือบมองเซี่ยอันน่า และพูดอย่างแผ่วเบา เขาไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว วันนี้พวกเขาก็จะยังออกไปจากพลังเวทย์นี้ไมได้ ? เขาก็ไม่เชื่อความชั่วร้ายนั่นแล้ว
“ตกลง ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ฟังคุณแล้วกัน” เซี่ยอันน่าพยักหน้า และนั่งลงตรงนั้นไม่ขยับไปไหนอย่างเชื่อฟัง สายตาก็มองไปที่ทิวทัศน์รอบๆที่เปลี่ยนไป
เสี่ยวหูจื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสองคนข้างในทำอะไรกับพลังเวทย์นี้ เขาเพียงยึดตามความคิดของตัวเองทำให้พลังเวทย์มันซับซ้อนยิ่งขึ้น และความซับซ้อนนี้ทำให้เขาได้รับความรู้สึกและความคิดบางอย่างเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอะไร
“พลังเวทย์นี้ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ”ซานซานขมวดคิ้วพูดเบาๆ และสายตาก็มองดูต้นไม้รอบๆนี้อย่างต่อเนื่อง และหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี้เร็วๆ
แต่ว่า ท้องฟ้าสีเทาเหลือง กดอากาศไว้ ทำให้คนรู้สึกหดหู่
“แล้วพวกเราจำยังไงกันดี ?”แววตาของเซี่ยอันน่าเต็มไปด้วยความกังวล เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่เธอรู้เพียงว่า เธอและซานซานอาจจะติดอยู่ที่นี่อีกนาน
“เสี่ยวอวี้หลินล่ะ ?” ทันใดนั้นเซี่ยอันน่าก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ? จึงถามไปว่า เสี่ยวอวี้หลินอยู่ที่ไหน ?
ซานซานตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าเซี่ยอันน่าจะเรียกชื่อของเสี่ยวอวี้หลินตรงๆแบบนี้ นี่เป็นสิ่งที่ซานซานไม่คาดคิด เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่า สรุปแล้วเธอเป็นใครกันแน่ ?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ?
“รอพวกเราอยู่ข้างนอกไง”น้ำเสียงของซานซานดูหนักแน่นขึ้น ดูเหมือนว่าเสี่ยวอวี้หลินจะมีความสำคัญกับเขามาก ยังไงก็ตาม เมื่อมองจากมุมนี้ เขามีความสำคัญมากที่สุด อย่างน้อย การกระทำในครั้งนี้เสี่ยวอวี้หลินจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อซานซานคิดถึงตรงนี้ในใจก็รู้สึกเศร้า ยังไงก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพลาด เออ ไม่ ไม่ใช่พลาด บางทีผ่านไปอีกสักครู่อาจจะออกไปได้
เมื่อตาเห็นว่าเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว ซานซานกับเซี่ยอันน่าก็ยังไม่ออกมา เสี่ยวอวี้หลินกับตกจื่อก็เริ่มรู้สึกกังวล
“ในห้องใต้ดินนี้ ยังมีของอย่างอื่นอีกเหรอ ?” เสี่ยวอวี้หลินอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับใต้ดินนี้มาก
“ได้ยินมาว่า พี่หกเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่หายากมาก เขายังมีงานวิจัยที่มากมายเกี่ยวกับพลังเวทย์และธาตุทั้งห้านี้ ”ตงจื่อพูดด้วยความลังเลเล็กน้อย ราวกับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากพูดถึง หรือเขาไม่ต้องการที่จะเผิชญหน้ากับมัน บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องมากกว่านี้ และเรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่ว่าคุณไม่พูดแต่คุณไม่ได้อยู่ในนั้น
“ถ้างั้นก็หมายความว่า พวกเขาอาจจะติดอยู่ในพลังเวทย์นั้นรึเปล่า ?” เสี่ยวอวี้หลินถามด้วยความกังวล จริงๆแล้ว ในใจเขาลึกๆแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่มีลางสังหรณ์ แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ไม่เหมือนกับในจินตนาการของเขา
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า เรื่องพวกนี้ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขาอีกต่อไป ซึ่งมันทำให้เขาตกใจเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแข่งขัน ที่ทำให้คนรู้สึกอึดอัด
ในการแข่งขันครั้งนี้ เสี่ยวอวี้หลินไม่อยากแพ้ แต่ว่าครั้งนี้ดูแล้วเขาแพ้อย่างราบคาบเลย
“รออีกหน่อยเถอะ” เสี่ยวอวี้หลินหรี่ตาลง สำหรับพี่หกคนนี้ เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม
แต่นี่ก็ไม่ได้หมานความว่าเขาไม่ได้เตรียมตัว ในเมื่อกล้ามาแตะคนของเขา เขาไม่สามารถยอมแพ้ได้อยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจำเป็นจะต้องรอจนกว่าจะไม่มีทางแพ้ เขาถึงจะให้อีกฝ่ายชดใช้ในสิ่งที่ควรชดใช้ แต่ว่าตอนนี้ ทุกอย่างมันยังไม่ชัดเจน
“ตกลง” ตงจื่อรู้สึกสงสัย เขาไม่รู้ว่าเสี่ยวอวี้หลินคิดอะไรอยู่ ? ช่วงนี้ชายคนนี้เพราะเรื่องของเซี่ยอันน่าถึงตีตัวออกห่างจากเขา แต่ว่า เขากับเซี่ยอันน่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริงๆ อย่างไรก็ตามเรื่องบางเรื่องยิ่งอธิบายก็ยิ่งทำให้คนรำคาญเท่านั้น
อย่างเช่น เรื่องนี้ ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงใช้ความสามารถทั้งหมดของตัวเองช่วยเหลือเซี่ยอันน่า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สงสัยในความสามารถของซานซาน แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ซานซานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่หก ไม่อย่างนั้น เขาคงจะไม่อยู่ในนั้นนานขนาดนี้
“ซานซานจะเป็นยังไงบ้าง ?”เสี่ยวอวี้หลินเหงื่อออกเต็มหน้าผาก นี่ไม่ใช่เรื่องปกติของเขา แต่วันนี้เขาเป็นกังวลก็เพราะเซี่ยอันน่า
ซานซานจามออกมา
“หึ อากาศร้อนมากเลยนะ คงเห็นผีเข้าแล้วจริงๆ” ซานซานพูดอย่างมีอารมณ์ พลางมองไปที่ทิวทัศน์รอบๆที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“นี่มันใครทำกันแน่ ? ทำได้ย่ำแย่ขนาดนี้เลยเหรอ ?”ซานซานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่มันสร้างความ
อับอายให้บรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังแสดงทักษะที่ต่ำขนาดนี้ออกมาไว้ตรงนี้อีก
เสี่ยวหูจื่อที่ไม่รู้ว่าระดับของตัวเองจะโดนคนวิจารณ์แบบนี้ ตัวเองยังคงอิ่มเอมใจอยู่ที่นั่น
ระดับนี้ ทำให้คนกังวลจริงๆ เมื่อรอให้ทุกๆอย่างสงบลง ซานซานก็ใช้เวลาเพียงห้านาที ในการค้นหาว่าพลังเวทย์อยู๋ตรงไหน เขาเดินเข้าไป แบบนี้ก็สามารถใช้เวลาในระยะสั้นๆ ทำลายพลังเวทย์นี้เพื่อเปิดทางสู่โลกภายนอก
“เสี่ยวหูจื่อ คุณมานี่ ”หลังจากพี่หกเห็นพลังเวทย์ที่เสี่ยวหูจื่อสร้างขึ้น ใบหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะซีดเซียวลง สีหน้าแสดงออกดูขมขื่น ทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกยังไงดี
เสี่ยวหูจื่อวิ่งไปวิ่งมาอย่างตื่นเต้น เขาอยากได้ยินคำชมของลูกพี่ แต่ว่า เมื่อตอนที่เขาเดินเข้าไปข้างพี่หก แต่กลับเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของพี่หก นั่นจึงทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก
คำชมล่ะ ? ความสุขล่ะ ?
“ลูกพี่ ผม........”แววตาของเสี่ยวหูจื่อเต็มไปด้วยความสับสน นี่มันทำให้พี่หกรู้สึกปวดหัว
แม้ว่าเมื่อครู่จะบอกเสี่ยวหูจื่อแล้ว ว่าให้เสี่ยวหูจื่อสร้างพลังเวทย์ดีๆ แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้จะทำให้เขาปวดหัวแบบนี้ และยังเสียหน้ามากอีกด้วย
พลังเวทย์นี้ มันธรรมดามาก !
“คุณมาดูด้วยตัวเอง พลังเวทย์นี้ขาดอะไรไปรึเปล่า? ”พี่หกพูดอย่างอ่อนโยน ไม่มีความเข้มงวดเลยสักนิด แต่ว่า เมื่อเสี่ยวหูจื่อได้ยินเข้าหู ก็รู้สึกไม่สบายใจ
เดิมที เขาอยากจะช่วยลูกพี่แก้ไขปัญหา ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายแล้วเขาจะเป็นคนสร้างปัญหาขึ้นมาแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้ ลูกพี่ก็หดหู่มากเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...