" ผู้หญิงมักจะมองแคบเกินไป ตราบใดที่เธอยังเป็นภรรยาแห่งตระกูลเย่ คนอื่นๆก็ไม่ได้มีค่าอะไรหรอกนะ ผู้ชายก็แบบนี้แหละชอบเล่นๆเป็นธรรมดา พอเล่นเสร็จยังไงก็ต้องกลับบ้านอยู่แล้ว เธอก็แค่ทำหน้าที่ภรรยาให้ดีก็พอ เรื่องอื่นๆก็หลับตาข้างหนึ่งก็โอเคแล้ว! "
มู่เวยเวยรู้สึกโกรธมากในใจเธอไม่เห็นด้วยกับการ ' พูดโน้มน้าว' ของคุณลุง
ผู้ชายมีสิทธิ์อะไรที่จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้ แล้วผู้หญิงต้องทำเป็นหูหนวกตาบอดมองไม่เห็นด้วย
แต่ว่าเธอก็ไม่อยากเถียงอะไรกับเขา ถึงเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
" เวยเวย ฉันพูดไปเยอะขนาดนี้แล้ว เธอฟังเข้าใจรึยัง? "
มู่เวยเวยยิ้มแล้วมองไปที่เขาด้วยสีหน้าจริงแล้วพูดขึ้นว่า " คุณลุง ฉันมีคำถามจะถามหน่อย? "
" คำถามอะไร? "
" ถ้าหากว่าวันหนึ่งอี้เหยาแต่งงานไป แล้วมีปัญหาแบบนี้ คุณลุงก็จะพูดแบบนี้ให้อี้เหยาฟังด้วยรึป่าว? "
มู่จางรุ่นหน้าชาไปเลย ในของของเขารู้สึกถึงประหลาดใจถึงการเปลี่ยนไปของมู่เวยเวย ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอไม่กล้าพูดจาแบบนี้ออกมาหรอก
มู่เวยเวยยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาแล้วค่อยๆพูดอย่างนิ่งๆว่า " คุณลุง ฉันมีธุระต่อฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ "
มองไปที่แผ่นหลังบางๆของเธอ มู่จางรุ่ยยังอึ้งอยู่
หรือว่าเธอเริ่มจะสงสัยแล้ว?
หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องของเย่ฉ่าวเฉินทำให้มู่เวยเวยเปลี่ยนไป?
ไม่ว่าจะเป็นยังไงเขาก็ต้องส่งคนไปสืบดูว่าสิ่งที่มู่เวยเวยพูดเป็นความจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้อาจกระทบถึงบริษัทมู่ซื่อได้เขาจะทำเป็นไม่ใส่ใจเลยไม่ได้เด็ดขาด!
มู่เวยเวยออกจากร้านกาแฟแล้วตรงไปที่บ้านตระกูลเย่เลย เธอต้องการพักผ่อนสักหน่อยเพื่อสงบจิตสงบใจของเธอ
เห็นได้ชัดเจนว่าคำพุดของคุณลุงไม่น่าเชื่อถือ ข่าวสารของพี่ชายเธอก็ไม่ทางรู้ได้แล้วต่อไปนี้เธอคงต้องพึ่งตัวเองจริงๆแล้วล่ะ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อมู่จางรุ่ยออกจากร้านกาแฟไปแล้ว เฉียวซินโยวก็ค่อยๆหยิบเครื่องดักฟังออกจากกระเป่าอย่างระมัดระวัง เธอยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ขอแค่เครื่องดักฟังนี้ตกไปอยู่ในมือของเย่ฉ่าวเฉิน เธอมั้นใจว่าทั้งสองต้องได้หย่ากันแน่ๆ
เฉียวซินโยวเดินออกจากร้านกาแฟ เธอแวะไปซื้อเครื่องดักฟังอีกอันที่ห้างแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ก๊อปปี้สนทนาของเขาทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ลงไปแล้วเธอก็เดินทางไปบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งแล้วทำการเขียนที่อยู่ที่ต้องการส่งไปบนหลังกล่องพัสดุ
คนที่รับผิดชอบในการจัดส่งพัสดุครั้งนั้นคือหนุ่นน้อยวัยยี่สิบปี หนุ่มน้อยเห็นว่าเธอไม่ได้เขียนชื่อผู้ส่งจึงบอกกับเธอด้วยความหวังดีว่า "คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณต้องกรอกชื่อผู้ส่งด้วยชื่อและนามสกุลจริงของคุณลงไปด้วยนะครับ "
เฉียวซินโยวหัวเราแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า " ฉันรู้แล้ว "
หลังจากนั้นเธอก็กรอกชื่อและนามสกุลที่เธอคิดขึ้นมามั่วๆลงไปแล้วยื่นให้กับพนักงานรับพัสดุ
หนุ่มน้อยคนนั้นดูไปบนที่อยู่ที่ให้จัดส่งแล้วพูดขึ้นว่า " ค่าจัดส่ง ห้าสิบ หยวน ไม่ทราบว่าคุณสะดวกจ่ายตอนนี้เลยหรือจะให้เก็บปลายทางครับ? "
" ฉันจะจ่ายตอนนี้เลย ขอถามหน่อยนะคะว่าจะส่งถึงที่หมายวันไหนคะ? "
" ด้วยความที่อยู่ในเมืองเดียวกัน ภายในวันเดียวก็ส่งถึงแล้วครับ "
" โอเค ฉันรู้แล้ว ขอบคุณมาก "
" อืออือ "
เฉียวซินโยวมองไปรอบๆและเมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าไม่มีกล้องวงจรปิดเธอจึงออกจากที่นั่นอย่างสบายใจ
......
เย่ฮวางอินเตอร์เนชั่นนอลกรุ๊ป
เย่ฉ่าวเฉินที่กำลังก้มดูเอกสารอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงกริ่งของประตูดังขึ้น เย่ฉ่าวเฉินพูดขึ้นทันทีว่า " เชิญเข้ามาได้ "
เมื่อประตูเปิดออกคนที่เข้ามาคือเลขาหลิว เธอเดินตรงเข้ามาหาเย่ฉ่าวเฉินแล้วยื่นพัสดุให้กับเย่ฉ่าวเฉินจากนั้นพูดขึ้นอย่างนอบน้อมว่า " ประธานเย่คะ พึ่งมีพัสดุของคุณมาส่ง กรุณาเซ็นรับด้วยค่ะ "
เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ที่อยู่ผู้จัดส่งที่ไม่คุ้นเคยเลย แต่เจาก็ไม่คิดอะไรมากแล้วเซ็นรับเอกสารแต่โดยดี
หลังจากที่เลขาหลิวออกไปแล้ว เย่ฉ่าวเฉินจ้องพัสดุชิ้นนี้อยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็แกะกล่องพัสดุออก
หน้าตาตกใจมาก นี่มันคือ......เครื่องดักฟัง
เย่ฉ่าวเฉินปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเปิดเครื่องดักฟัง เสียงจากเครื่องดักฟังค่อยๆดังขึ้น
" เวยเวย เธอเรียกฉันมามีเรื่องอะไรรึป่าว? "
โทนเสียงเข้มแบบนี้ เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกว่าคุ้นเคยมา
" คุณลุง ฉันอยากถามถึงความเป็นอยู่ของพี่ชายฉันสักหน่อย "
เย่ฉ่าวเฉินตกใจเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำเงินของเขาเป็นประกายคมกริบ เสียงในตอนแรกเขายังไม่ค่อยแน่ใจว่าเสียงนั้นเป็นของใคร แต่เสียงคมชัดและอ่อนโยนที่พึ่งได้ยินเมื่อกี้นี้เขาแน่ใจมากว่ามันเป็นเสียงของภรรยาเขาอย่างมู่เวยเวย!
เย่ฉ่าวเฉินกลั้นใจฟังต่อไป
" มันเป็นแบบนี้นะ ทางเทียนเย่มีปับหานิดหน่อย ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ชั่วคราว "
" คุณลุง คุณพูดให้ชัดเจนหน่อย ตอนนี้พี่ชายฉันเป็นยังไงบ้าง? "
เย่ฉ่าวเฉินยิ่งฟังสีหน้าขอเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น ปากกาในมือเขาก็ทนแรงบีบของเขาไม่ไหวจนหักไปเลย เย่ฉ่าวเฉินพูดออกมาอย่างนิ่งๆด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น " มู่เวยเวยยัยตัวดี จริงๆแล้วเธอรู้ข่าวสารของมู่เทียนเย่ว่าอยู่ที่ไหนหรอเนี่ย? "
จากสรรพนามที่มู่เวยเวยเรียก ทำให้เย่ฉ่าวเฉินแน่ใจทันทีว่ามันเป็นเสียงของมู่จางรุ่ย!
แท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้ก็รู้ความเคลื่อนไหวของมู่เทียนเย่
" เธออย่ากังวลไปเลย จริงๆก็ไม่ได้มีปัญหาหนักขนาดนั้นหรอก พี่ชายเธอเจอศัตรูนิดหน่อย ตอนนี้เลยเปลี่ยนที่หลบซ่อนชั่วคราว จึงบอกให้ทางเราว่าอย่าติดต่อไปชั่วคราว "
" เวยเวย พี่ชายเธอฝากฉันมาบอกเธอว่าตอนนี้เขามีปัญหาด้านการเงินนิดหน่อยอยากให้เธอส่งเงินไปให้เขาอีกสักก้อน "
" แล้วพี่ชายฉันได้บอกรึป่าวว่าต้องการเงินอีกเท่าไหร่? "
" ยังต้องการอีก......หนึ่งล้าน "
" ฉันจะไปมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน? "
ตอนนี้เธอเป็นคุณหนูของตระกูลเย่แล้ว เธอต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ จากฐานะของเย่ฉ่าวเฉินแล้วเงินแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก! "
เครื่องดักฟังสิ้นสุดเพียงเท่านี้ ทำให้เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
มู่เวยวยยัยคนชั้นต่ำ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีแผนการเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ทีแท้เงินที่เธอยืมเขาหนึ่งล้านคือเอาไปส่งให้กับพี่ชายเธองั้นหรอ!
ตอนนั้นเขาก็สงสัยอยู่ว่าทำไมมู่เวยเวยถึงได้ใส่ใจคุณลุงของเธอมากขนาดนั้น? ตอนนี้เขาก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะพ่อเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก เหลือเพียงคุณลุงที่เป็นญาติสนิทของเธอเพียงคนเดียวเขาจึงยอมให้เธอยืมเงิน มันคือคำหลอกลวงทั้งนั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...