“ผมรู้แล้วครับแม่ ผมอยู่หน้าคาเฟ่แล้ว เดี๋ยวโทรกลับนะครับ!” อคิรา ลภณพัฒน์วางสายแม่ของเขาไปอย่างใจร้อน
ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีคนนี้ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย
หลังจากใช้เวลาเจ็ดปีในกองทัพ เขาก็เกษียณจากกองทัพและทำงานที่โรงพยาบาลในเมืองเยอริงแฮมมาเป็นเวลาสามปีแล้ว
เขาเป็นสูตินรีแพทย์ของโรงพยาบาลและมีรายได้ปีละแปดหมื่น
ด้วยความกังวลว่าเขาจะแก่ไปแล้วต้องอยู่คนเดียว แม่ของอคิราจึงเร่งเร้าให้เขาลงหลักปักฐานเสียที เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าการออกเดทต้องเริ่มจากตรงไหน แม่ของเขาจึงเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองและจัดแจงให้เขาไปนัดบอดหลายต่อหลายครั้ง
ต้องขอบคุณความพยายามของเธอ ตอนนี้เขาจึงได้ไปนัดบอดมาแล้วสิบเจ็ดครั้งด้วยกัน
อนิจจา เห็นได้ชัดว่าสำหรับอคิรานั้น การแต่งงานดูไม่น่าเกิดขึ้นได้ในเร็ว ๆ นี้เลย มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ ณ จุดนี้ เขาก็แค่ทำเป็นพิธีไปเท่านั้นเอง
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!”
ก่อนที่อคิราจะเข้าไปในคาเฟ่ เขาได้ยินใครบางคนร้องขอความช่วยเหลือแว่ว ๆ
เสียงร้องนั้นมาจากชายชราคนหนึ่งที่ล้มอยู่ที่ข้างถนน คนเดินถนนหลายคนเดินผ่านเขาไป แต่ไม่มีใครกล้าหยุดและช่วยพยุงเขาลุกขึ้นเลย
อย่างไรเสีย การช่วยเหลือชายชราอาจก่อปัญหาได้หากคนช่วยลงเอยด้วยการถูกฟ้องร้องราคาแพงเพราะทำให้เขาบาดเจ็บมากกว่าเดิม ไม่มีใครทำอะไรเสี่ยง ๆ และโง่เขลาแบบนั้นหรอก
แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งอคิราจากการก้าวไปข้างหน้าและช่วยชายคนนั้นให้ลุกขึ้น เขาถามว่า “คุณเป็นอะไรไหมครับ”
“ฉันไม่เป็นไร! ขอบคุณมากนะพ่อหนุ่ม! สมัยนี้หาคนที่ใจดีเหมือนเธอยากมากจริง ๆ ฉันต้องตอบแทนความเมตตาของเธอแล้วล่ะ!” ชายชราตอบด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นอคิราก็ตระหนักว่าเครื่องแต่งกายของชายชรานั้นขัดแย้งกับลักษณะท่าทางของเขา แม้เสื้อผ้าของเขาจะขาดรุ่งริ่ง แต่มือที่สะอาดของชายชราก็ดูเหมือนมือของคนที่คุ้นเคยกับความมั่งคั่ง
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีเวลาสนองความอยากรู้ของเขา หลังจากแน่ใจว่าชายชราไม่ได้รับอันตรายอะไร อคิราก็รีบเข้าไปในคาเฟ่เพื่อไปเจอคู่นัดบอด เขาไม่เคยคิดเรื่องการตอบแทนการกระทำที่ดีของเขาก่อนหน้านี้เลย
คาเฟ่มีขนาดใหญ่และมีโครงสร้างเหมือนเขาวงกตอย่างไรอย่างนั้น
แม่ของอคิรากล่าวว่าคู่นัดบอดของเขานั่งอยู่ที่โต๊ะหมายเลขแปด เขาจึงเดินเข้าไปในร้านกาแฟที่สับสนวุ่นวาย แต่ก่อนที่เขาจะเจอโต๊ะที่มองหา เขาก็ก้าวพลาดเข้าไปในบริเวณพิเศษ
แสงในบริเวณนี้นวลสลัวกว่า และพื้นก็กระจัดกระจายไปด้วยกลีบดอกไม้สด
กลิ่นอันหอมหวานของดอกไม้ลอยผ่านอากาศ เขาสงสัยว่าเขาได้ก้าวเข้ามาสู่สวรรค์หรือเปล่า
อคิราเงยหน้าขึ้นและตัวแข็งทื่อทันที
ในห้องมีสาวสวยและสง่างามนั่งอยู่ที่โต๊ะ
ถ้าจะบอกว่าเธอคือคำจำกัดความของคำว่าสมบูรณ์แบบก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
นี่มันลูกรักพระเจ้าชัด ๆ
ผู้หญิงคนนั้นนั่งไขว้ขาไปด้านข้างอย่างเรียบร้อยและจิบกาแฟอย่างเงียบ ๆ บนโต๊ะมีหนังสือพาวเวอร์โบรกเกอร์ฉบับภาษาอังกฤษวางอยู่
เมื่อเธอสังเกตเห็นอคิราเดินเข้ามาในห้อง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสับสนและรังเกียจ
ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
พออคิราฟื้นตัวจากความตกใจจากการบังเอิญเจอสาวสวยแปลกหน้า เขาก็ตระหนักว่าหัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
เขาไม่เคยรู้สึกสนใจผู้หญิงขนาดนี้มาก่อนในช่วงยี่สิบแปดปีของชีวิต
ร่างกายของผู้หญิงที่เขาเคยเห็นมาในฐานะสูตินรีแพทย์จำนวนนับไม่ถ้วนนั้นแทบจะไม่ดึงดูดใจเขาเลย เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาถึงกับสงสัยว่าเขาชอบผู้หญิงหรือเปล่า
ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงเหมือนเด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์
นี่ฉันแค่ประหม่าหรือว่าฉันชอบเธอเข้าแล้วกันเนี่ย
น่าแปลกที่อคิราสังเกตเห็นป้ายหมายเลขแปดขนาดใหญ่บนโต๊ะของผู้หญิงคนนั้น
เธอคือคู่นัดบอดของฉันเหรอ
เขาหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ ๆ โต๊ะของเธอและนั่งลงตรงข้ามเธอ
สีหน้าของหญิงสาวเริ่มประหลาดใจมากขึ้น แม้แต่ในดวงตาคู่งามของเธอก็ดูไม่เป็นมิตรด้วยซ้ำ
ผู้ชายคนนี้กล้ามากนะ! บุกเข้าไปในห้องส่วนตัวของฉันยังไม่พอ แต่ยังรีบพุ่งมานั่งตรงข้ามฉันอีกเนี่ยนะ
อคิราเพิกเฉยต่อสีหน้าของเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้หญิงเย้ยหยันเขา
พวกเขาสามารถแยกทางกันได้เสมอหลังจากนัดบอดจบลง
เขาแนะนำตัวเองว่า “สวัสดีครับ! ผมชื่ออคิรา ลภณพัฒน์ อายุยี่สิบแปดปี ผมเป็นสูตินรีแพทย์ มีรายได้ปีละแปดหมื่น ไม่มีรถหรือบ้านเป็นของตัวเองครับ”
ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการจะพูดเรื่องแบบนี้กับผู้หญิง แต่อคิราดูนิ่งและไม่สะทกสะท้านอย่างผิดปกติ
หญิงสาวจ้องเขาด้วยความตกใจ ครู่ต่อมา ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มเยาะ และเธอก็แนะนำตัวเองกลับ
“ยินดีที่ได้พบค่ะ ฉันชื่อมิเรียม คุณาพงษ์ อายุยี่สิบเจ็ดปี จบปริญญาเอกสองใบสาขาการเงินและบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปีที่แล้วมีรายได้สามพันล้าน และฉันมีรถและบ้านเป็นของตัวเอง”
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย
มันต้องมีอะไรแน่ ๆ บางทีเธออาจจะป่วยทางจิต หรือว่าพิการ หรือไม่ก็มีบุตรยากหรือเปล่านะ
อึ๋ย ช่างเถอะ!
ฮ่า!
ฮะ อะไรกัน
ดวงตาของอคิราเบิกกว้างด้วยความตกใจขณะที่เขาพูดพึมพำว่า “นี่โต๊ะเบอร์แปดไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่นี่คือโซนวีไอพี คุณคงหมายถึงโต๊ะหมายเลขแปดในโซนรับประทานอาหารทั่วไปน่ะ ออกไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวาค่ะ!” เธอชี้นิ้วเรียวไปที่ทางออก
“ผม... ขอโทษด้วยนะครับ! ผมขอโทษนะ! ผมเข้าใจผิดเองครับ!”
อคิราอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี เขากระโดดลุกขึ้นยืนและเตรียมตัวจะออกไปอย่างรีบร้อน
น่าอายมาก! ฉันนั่งผิดโต๊ะในนัดบอดได้อย่างไร ไม่แปลกเลยที่เธอหัวเราะ เธอคงคิดว่าฉันไม่เจียมตัวแน่ ๆ!
ไม่นานหลังจากการจากไปของอคิรา ชายชราคนหนึ่งเข้าไปในห้องส่วนตัวของมิเรียม โดยมีบอดี้การ์ดชุดดำสี่คนคุ้มกันอยู่
อคิราคงจะประหลาดใจถ้าเขายังอยู่ที่นี่ ชายชราไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนแปลกหน้าที่เขาช่วยไว้ที่หน้าคาเฟ่ก่อนหน้านี้!
เขาวิงวอนว่า “บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตาก็ได้นะมิเรียม นี่แกอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว แต่กลับยังไม่เคยมีแฟนเพราะอคติที่แกมีต่อผู้ชาย ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แกเลย! แต่ชายหนุ่มคนนั้นทำได้! แถมเขายังเป็นคนใจดีและมีศีลธรรม เมื่อกี้เขาช่วยปู่ที่ข้างนอกคาเฟ่และไม่ได้คาดหวังอะไรตอบแทนเลยด้วย!”
ตัวตนที่แท้จริงของชายชราคนนั้นคือเทวิน คุณาพงษ์ ประธานบริษัทการเงินชั้นนำของเยอริงแฮม
ในขณะที่ทรัพย์สินเงินทองของเขานั้นเหนือกว่าทั้งประเทศ แต่เขาก็มีความเสียใจครั้งใหญ่ในชีวิต
เทวินมีลูกชายสามคนที่เสียชีวิตไปก่อนเขาอย่างน่าเศร้า พวกเขาไม่มีลูกเป็นของตัวเองหรือไม่ก็เหลือไว้เพียงลูกสาวเท่านั้น
มิเรียมเป็นหลานสาวคนโปรดของเทวินและเป็นทายาทคนต่อไปที่จะได้คุมเทวินกรุ๊ป
ความฉลาดและเสน่ห์ของเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเธอเป็นผู้หญิง
ก่อนตาย เทวินหวังว่าหลานสาวคนโปรดของเขาจะมอบหลานทวดให้เขา
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาแกล้งทำเป็นหกล้มที่หน้าร้านกาแฟและสอดส่องผู้ชายดี ๆ สำหรับหลานสาวของเขา ด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มที่ช่วยเขาก่อนหน้านี้เข้าใจผิดในการนัดบอดของตัวเองและลงเอยด้วยการได้พบกับมิเรียมแทน
นั่นไม่ใช่โชคชะตาหรอกเหรอ
มิเรียมยังคงไม่หวั่นไหวกับคำพูดของปู่ของเธอ “คุณปู่คะ เขาอาจจะผ่านบททดสอบของคุณปู่ แต่เขายังไม่ผ่านบททดสอบของหนู หนูจะแต่งงานกับเขาถ้าเขาผ่านทดสอบของหนูไปได้”
เธอต้องการเติมเต็มความปรารถนาของปู่ของเธอ แต่แน่นอนว่าเธอก็อยากเจอผู้ชายที่ดี
การแต่งงานกับผู้ชายหลังจากนัดบอดเพียงครั้งเดียวนั้นใจร้อนและประมาทเกินไป
สายตาของเทวินสว่างวาวขึ้นอย่างมีหวัง เขาตอบว่า “เอาล่ะ! ปู่มั่นใจว่าเขาจะผ่านบททดสอบของแกได้แน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ว้าวุ่นกับเจ้าสาวซีอีโอ