วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 110

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย "แม่ครับ คุณนายฉู่คนนั้นเขามีประวัติความเป็นมายังไงเหรอครับ?"

“ลูกจะไปสนใจเธอขนาดนั้นทำไม?” คุณนายจางมองอย่างไม่พอใจ เธอเตือนขึ้น "ลูกห้ามไปคิดอะไรกับเธอนะ ถึงแม้เธอจะเกิดมาในครอบครัวธรรมดา แต่เธอก็เป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่ ตำแหน่งสูงส่ง เธอไม่เหมือนกับพวกเราหรอกนะ"

"แม่ คิดไกลเกินไปแล้ว!" จางอี้เฟยพูดอย่างอดไม่ได้ เขาแบมือแสดงท่าทาง

"ผมแค่คิดว่าเธอดูเหมือนใครบางคน"

คุณนายจางสีหน้าดูดีขึ้น เธอพูด "ปกติแม่พยายามให้ลูกสนใจเรื่องในครอบครัว แต่ลูกกลับสนใจแต่เรื่องวิจัยทางการแพทย์ ไม่ค่อยจะเห็นลูกสงสัยอะไรแบบนี้เลย อย่างนั้นแม่จะเล่าให้ฟังนะ แต่แม่ก็ไม่รู้เยอะนักหรอก..."

คุณนายจางเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ให้จางอี้เฟยฟัง

"อะไรนะ? เธอเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์ไห่เฉิงเหรอครับ?"

จางอี้เฟยดูเหมือนจะเข้าใจข้อมูลสำคัญบางอย่างได้แล้ว การคิดวิเคราะห์ของเขาเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว

ฉินซู, เหอซู...แค่ชื่อก็คล้ายกันแล้ว บางทีอาจจะเป็นคนเดียวกันจริง ๆ!

จางอี้เฟยตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

เดิมทีเขาเป็นคนที่ขี้สงสัยอยู่แล้ว เมื่อเดาได้แล้ว เขาจะต้องหาทางพิสูจน์มันให้ได้!

…

ในวันถัดมา ฉินซูและฉู่หลินเฉินยังคงไม่ได้วุ่ยวายกันและกัน

ขณะดูแลคุณย่า เธออดทนเพื่อรอผลการแข่งขันรอบสุดท้าย

ทางด้านฉู่หลินเฉินก็เตรียมตัวสำหรับพิธีสืบทอดตำแหน่งที่กำลังจะมีขึ้นเช่นกัน เขายุ่งมาก

แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้ในการสืบเรื่องของฉินซูและหานโม่หยาง

สำนักงานประธานตระกูลฉู่

ฉู่หลินเฉินตรวจสอบเอกสารตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างเย็นชาว่า "เรื่องที่ให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง?"

เว่ยเหอรายงานตามความจริง "คุณชายฉู่ครับ จากที่สืบมาแล้ว ฉินซูไม่มีการติดต่อเป็นพิเศษกับหานโม่หยางเลยครับ"

“ไม่มี?” เขาเงยหน้าขึ้น ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาคิดสงสัยในผลลัพธ์

เขาเห็นฉินซูและหานโม่หยางด้วยตาของตัวเองในวันนั้น และเขาไม่เชื่อว่าทั้งสองไม่มีการติดต่อกันเป็นการส่วนตัว

“ไม่มีจริง ๆ ครับ” เว่ยเหอกลืนน้ำลายอย่างระมัดระวัง

เพราะคุณชายฉู่มีสีหน้าจริงจังมากตอนที่เขาสั่งให้สืบเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไร เขาก็สืบดูอย่างจริงจัง และใช้เทคนิคบางอย่าง เพื่อตรวจสอบบันทึกการสื่อสารของฉินซูกับหานโม่หยาง ผลคือพวกเขาไม่เคยโทรหากันด้วยซ้ำ

เว่ยเหอเห็นว่าฉู่หลินเฉินขมวดคิ้วหล่อเหลานั่น โดยไม่พูดอะไรเลย เขาอดไม่ได้ที่จะถาม "คุณชายฉู่คิดว่าฉินซูเป็นสายลับที่หานโม่หยางส่งมาจริง ๆ เหรอครับ?"

ฉู่หลินสูดหายใจอย่างเย็นชา “ถ้าไม่ใช่ ทำไมเธอถึงต้องปลอมตัวป็นพยาบาลมาทำแผลให้ฉัน ไม่ใช่แค่เพื่อยืนยันอาการบาดเจ็บของฉันหรอก ก่อนหน้านั้น เธอดูใส่ใจเรื่องอาการบาดเจ็บของฉันเป็นพิเศษ”

เว่ยเหอตกใจ

การกระทำเหล่านี้น่าสงสัยมาก

พวกเขาต่างก็พบว่าอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์นั้น หานโม่หยางเป็นคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง เพราะข่าวการบาดเจ็บของฉู่หลินเฉินถูกปิดมาตลอด การส่งคนมาเพื่อสืบข่าวก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน...

ตระกูลหานเป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลฉู่ แม้ว่าหานโม่หยางจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตระกูลหาน แต่เขาก็ได้ต่อสู้กับฉู่หลินเฉินทั้งต่อหน้าและลับหลัง เขาใช้หลากหลายวิธีเพื่อสกัดไม่ให้เขากลับประเทศ และสืบทอดตระกูลฉู่ได้

ดูเหมือนว่าเขาต้องการพิสูจน์ความสามารถของเขาต่อตระกูลหาน และได้รับฐานะทางครอบครัวที่สูงขึ้น

เว่ยเหอเองกลับมีความไว้วางใจในตัวฉินซูอย่างบอกไม่ถูก และเขามักจะรู้สึกว่า เธอจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับคุณชายฉู่ และความปลอดภัยภายในของตระกูลฉู่ทั้งหมด จึงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เข้าใจแล้วครับ ผมจะให้คนไปตามสืบต่อ และจะให้คอยติดตามฉินซูและหานโม่หยางอย่างใกล้ชิดครับ”

ฉู่หลินเฉินพยักหน้า ถอนหายใจเบา ๆ และก้มหน้าอ่านเอกสารอีกครั้ง

ฉินซูที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกจับตามองอยู่ ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์หม่าหลังจากเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาลเสร็จแล้ว

"เหอซู การตัดสินรอบสุดท้ายของการแข่งขัน เกิดข้อโต้เถียงขึ้น มีการเพิ่มช่วงแข่งขันในสถานที่จริง ฉางเหล่าให้ฉันเรียกเธอมาสำนักงานตระกูลหานทันที!"