วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 118

จางอี้เฟยกระตุกริมฝีปาก จากนั้นเหลือบมองเวินหลีที่ช่างน่าสงสาร และจำใจต้องพยักหน้า

“เวินหลี เธอก็อย่าไปไหน รอเราอยู่ที่นี่”

ฉินซูกำชับจากนั้นก็เดินตรงไปที่บาร์พร้อมกับจางอี้เฟยที่ไปเป็นเพื่อน

จางอี้เฟยที่อยู่ข้าง ๆ เธอจู่ ๆ ก็พูดขึ้น “ทำไมเธอไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำ? เพราะกลัวตัวตนของตนเองจะถูกเปิดเผยเหรอ?”

“คุณรู้แล้ว?” ฉินซูแหงนสายตามองเขาราวกับว่าคาดหวังไว้แล้ว และไม่ได้รู้สึกเกินความคาดหมายอะไร

ตอนที่จางอี้เฟยถามเกี่ยวกับตัวตนของเธอก่อนหน้านี้ถึงสองครั้ง เธอก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าเขาคงคาดเดาได้อย่างแน่นอน

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไป” จางอี้เฟยพึมพำ

อีกทั้งยังอดไม่ได้ที่จะบ่นเล็กน้อย “งานเลี้ยงมื้อค่ำครั้งนี้ จริง ๆ แล้วทุกคนอยากจะขอบคุณคุณสำหรับการแข่งขันขั้นสุดท้าย ไม่อย่างนั้นการได้ที่หนึ่งของพวกเรา ก็คงไม่ราบรื่นขนาดนี้ แม้ว่าเธอจะไม่มาทานอาหารกับพวกเรา แต่เข้ามาทักทายสักหน่อยก็ดี เห็นได้ชัดว่าอยู่ห้องข้าง ๆ กัน แต่กลับไม่ยอมโผล่หน้ามาเลย ไม่ได้เห็นพวกเราเป็นเพื่อนจริง ๆ”

“พวกคุณอยู่ร้านอาหารเดียวกันเหรอ?” ฉินซูชะงัก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเจอเขาที่นี่

จางอี้เฟยเห็นความสงสัยในแววตาของเธอที่ไม่ได้ดูปลอม ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่า พวกเขาเปลี่ยนสถานที่งานเลี้ยงมื้อค่ำ และไม่ได้บอกในกลุ่ม

“อ๋อ หรือว่าฉันเข้าใจคุณผิดแล้ว?” จางอี้เฟยมารู้ตัวอีกทีก็เกาหัว และรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ในที่สุดฉินซูก็เข้าใจ เธอยิ้มและพูดว่า “ฉันซ่อนตัวตนของฉันไว้เพียงแค่ไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้พวกคุณ”

จางอี้เฟยได้ยินอย่างนั้นก็เลือกที่จะเชื่อเธอตามจิตใต้สำนึก

ไฟที่ลุกโชนโดยไม่มีเหตุภายในใจของเขานั้น ก็ดับไปโดยธรรมชาติ

ทั้งสองนำบัตรประชาชนของเวินหลีจากเถ้าแก่เจ้าของบาร์กลับมาได้

เถ้าแก่คนนั้นเป็นคนไร้เหตุผล ในตอนแรกไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้ ฉินซูก็ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน ท้ายที่สุดจางอี้เฟยจึงเปิดเผยตัวตนของเขาโดยตรง ในฐานะคุณชายตระกูลจางเพื่อขู่อีกฝ่าย

ที่ไห่เฉิง ตระกูลจางเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่ตระกูลเล็ก ๆ เถ้าแก่ของบาร์เล็ก ๆ จึงแสดงความให้เกียรติเล็กน้อยเป็นธรรมดา

เวินหลีหยิบบัตรประชาชนกลับมา และพูดขอบคุณฉินซูด้วยความซาบซึ้งใจอีกครั้ง “ขอบคุณพี่เสี่ยวซู!”

จากนั้นจึงแหงนศีรษะเหลือบมอบจางอี้เฟย และก้มศีรษะลงอย่างเกรงใจ “ขอบคุณพี่ชายท่านนี้ด้วย”

อย่าคิดว่าท่าทางคำพูดที่ดุร้ายของจางอี้เฟยที่ได้เห็นก่อนหน้านี้มันช่างเผด็จการ แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่อ่อนไหวมาก

เขากระแอมและพูดขึ้น “ไม่เป็นไร หลังจากนี้เธอก็อย่าไปหางานที่บาร์พวกนี้อีก ข้างในนั้นมันยุ่งเหยิงมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแบบเธอจะถูกรังแกได้ง่าย”

คำพูดนี้ทำให้เวินหลีกดศีรษะต่ำลงไปอีก

ฉินซูเหลือบมองจางอี้เฟยอย่างไม่มีทางเลี่ยงและพูดเบา ๆ ว่า “เวินหลี ฉันจำได้ว่าเธอเพิ่งจะเรียนปีหนึ่ง เรื่องหางานไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ เลือก”

“ค่ะ” เวินหลีตอบรับอย่างเชื่อฟังและเงยศีรษะขึ้น “พี่เสี่ยวซู เมื่อกี้ขอบคุณพี่มากจริง ๆ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอตตัวกลับก่อน”

พูดจบก็รีบเร่งเดินออกไป

ฉินซูคิดอยากจะให้ช่องทางติดต่อกับเธอแต่ก็ไม่ทัน

เธอถอนสายตาและมองไปยังจางอี้เฟยที่อยู่ข้างกาย “งั้นฉันก็กลับก่อนนะ”

จางอี้เฟยกลับมารู้สึกตัวและโพล่งออกไป “พวกเราเป็นเพื่อนกันไหม?”

ฉินซูปรากฏสีหน้างงงวย

เขาก็รู้ตัวว่าตนเองพรวดพราดพูดออกไป เมื่อนึกถึงฐานะของเธอจึงเปลี่ยนเป็นถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฉันพูดว่า พวกเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ไหม?”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของฉินซูดังออกมาจากภายใต้หน้ากาก “แน่นอน!”

มองดูด้านแผ่นหลังของเธอไกลออกไป บนใบหน้าของจางอี้เฟยก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา

รถคันหนึ่งขับผ่านไปและคนที่อยู่ภายในรถก็เห็นสายตาตอนที่ทั้งสองอำลากัน และในแววตาของเขาก็ราวกับมีพายุเข้าปกคลุม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง