ตั้งแต่เริ่มจนจบ ฉินซูไม่พูด “ความจริง” ฉู่หลินเฉินกลับยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าฉินซูกำลังปกปิดความจริงเอาไว้
เขาไม่ได้ถามคำถามอื่นอีก แต่พูดด้วยท่าทีล่อลวงเล็กน้อย “ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เพียงแค่เธอซื่อสัตย์ต่อฉัน ฉันจะปล่อยความผิดพลาดในอดีตของเธอไป แต่ฉันจะตบรางวัลจำนวนมากให้แก่เธออีกด้วย”
“ซื่อสัตย์ต่อคุณ…” ฉินซูทวนคำพูดที่มีความหมายลึกซึ้งประโยคนี้อีกรอบ
ช่างน่าขัน เธอเฝ้าภาวนาเพื่อที่จะอยู่ให้ไกลจากฉู่หลินเฉินให้เร็วที่สุด!
แต่ความหมายที่เขาพูด มันชัดเจนว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปเธอจะต้องช่วยเขา
“คุณชายฉู่ ขอบคุณมากสำหรับความกรุณาของคุณ แต่ฉันมีแผนของฉันเองแล้ว อีกอย่างพวกเราก็ได้คุยกันชัดเจนแล้วตั้งแต่แรกว่า หลังการสมรสสิ้นสุดลง เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
ฉินซูยิ้มเล็กน้อยและมองเขา “ฉันไม่สามารถตอบรับเงื่อนไขนี้ของคุณได้”
ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้ว เพราะว่าเธอกำลังช่วยหานโม่หยาง ถึงได้ปฏิเสธเขาอย่างนั้นเหรอ?
เขาพ่นลมหายใจ และพูดประโยคหนึ่งทิ้งท้ายว่า “ถ้าอย่างนั้น เธอก็ระวังตัวให้ดี อย่าให้ฉันจับจุดอ่อนได้!”
จากนั้นก็หมุนตัวขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธ
ฉินซูมองด้านหลังของเขา และบึนปากด้วยความไม่เข้าใจ
มีบางอย่างผิดปกติ!
...
ณ โรงพยาบาล
ฉู่หลินเฉินพาซ่งจิ่นหรงเดินเล่นอยู่ที่สวนดอกไม้ข้างล่างตึก
“อาเฉิน ช่วงนี้เธองานรัดตัวและยุ่งมาก ไม่จำเป็นต้องมาหาย่าที่นี่หรอก หมอบอกว่าร่างกายย่าใกล้จะฟื้นตัวดีแล้ว อีกสองวันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้”
ซ่งจิ่นหรงจับมือหลานชายของเธอ มองดูสีหน้าของเขา จากนั้นจึงส่ายหัวและถอนหายใจ “เธอดูเธอสิ สีหน้าทำไมถึงเป็นอย่างนี้”
พูดเสร็จก็หันศีรษะไปอีกด้าน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “เว่ยเหอ นายดูแลคุณชายฉู่ไม่ดีใช่ไหม?”
สีหน้าของเว่ยเหอไร้เดียงสาและจนปัญญา “คุณท่าน ผม... คุณก็รู้ว่าคุณชายฉู่จริงจังกับงานมากแค่ไหน ช่วงนี้ผมก็ทำงานล่วงเวลากับคุณชายฉู่ทุกวัน คุณดูขอบตาดำของผมมันดำขึ้นอีกแล้ว จนสามารถส่งไปอยู่ในสวนสัตว์ได้เลย”
ซ่งจิ่นหรงมองไปที่ใบหน้าของทั้งสองและเปรียบเทียบดู เลยตักเตือนหลานชายที่รักของตนเอง “ถึงงานจะสำคัญแค่ไหน แต่ก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีสิ”
“เข้าใจแล้วครับคุณย่า” ฉู่หลินเฉินตอบรับอย่างเชื่อฟัง
ซ่งจิ่นหรงเบะปากลงและสั่งเว่ยเหอว่า “นายไปที่แผนกแพทย์แผนจีนขอยาบำรุงร่างกาย และเอายาบำรุงกำลังกลับไปต้มแล้วก็ดื่มกันทั้งคู่ เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย”
เว่ยเหอตะลึงและพูดขึ้น “ขอบคุณครับคุณท่าน” จากนั้นก็รีบไปจัดการทันที
เมื่อเห็นว่าเขาไปไกลแล้ว ซ่งจิ่นหรงจึงพาฉู่หลินเฉินไปยังสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคน
“อาเฉิน ย่าถามเธอสักเรื่องหน่อย” เธอพูดอย่างลึกลับ
เพื่อให้ความร่วมมือฉู่หลินเฉินจึงโค้งตัวลงเล็กน้อย “ครับ?”
“ช่วงนี้เธอเจอกับอี้หลินบ้างไหม?”
“ไม่ครับ ผมยุ่งมาก ส่วนเธอ...ก็ยุ่งกับเรื่องการเดบิวต์”
ทันทีที่เธอได้ฟังก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวังทันที
“คุณย่าเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
ซ่งจิ่นหรงพูดกระซิบ “เธอสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันนาน เธอไม่อยาก…”
ยังไม่ทันพูดจบฉู่หลินเฉินก็เข้าใจความหมายและรู้สึกพูดไม่ออก
“คุณย่า ผมไม่ได้มีความต้องการทางร่างกายที่มากมายขนาดนั้น”
เมื่อซ่งจิ่นหรงฟังคำพูดนี้ก็รู้สึกเห็นท่าไม่ดี
“เธอเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบห้ายี่สิบหก ตอนที่กระฉับกระเฉงทรงพลัง... แค่ก แค่ก ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว!”
ซ่งจิ่นหรงจ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “งั้นขอถามหน่อย เธอเคยไปตรวจบ้างหรือยัง?”
“ตรวจอะไรครับ?” ฉู่หลินเฉินถามขึ้น แต่เมื่อมองดูสีหน้าของซ่งจิ่นหรง ทันใดนั้นเขาก็ไม่สามารถนิ่งสงบได้อีก
“คุณย่า แค่ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง คุณย่าคงไม่ได้คิดว่าผมมีปัญหาใช่ไหม?!”
“ย่าไม่แน่ใจ” ซ่งจิ่นหรงสูดจมูก “ช่วงนี้ย่าได้ยินว่ามีคนข้างนอกวิพากษ์วิจารณ์กัน ว่าหลานชายของฉันใช้การไม่ได้”
คำพูดของเธอทำให้สีหน้าของฉู่หลินเฉินเคร่งขรึมทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...