วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 132

"วางใจเถอะ ฉันไม่เคยติดหนี้ใคร" เขาพูดพลางหยิบบัตรออกมาใบหนึ่ง และยื่นให้ฉินซู

ฉินซูเห็นว่าบนบัตรใบนี้เขียนไว้ว่า Supreme VIP Black Card เธอถลึงตา เงินแค่ห้าร้อยหยวน ผู้ชายคนนี้ถึงกับต้องยื่น Black Card ให้เธอเลยเหรอ?

"อย่าเข้าใจผิด" ฉู่หลินเฉินรู้สึกตลกเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ และพูดว่า "อีกสามวันก็จะถึงพิธีรับตำแหน่งแล้ว เธอไปเลือกชุดที่ดูดีมา แล้วก็พวกเครื่องประดับด้วย ชุดที่เธอเคยใส่ก่อนหน้านี้ มันธรรมดาเกินไป ส่วนเงินห้าร้อยหยวน เธอก็หักจากบัตรนั้นได้เลย”

ฉินซูเข้าใจแล้ว ที่แท้บัตรใบนี้ก็มีไว้เพื่อจ่ายค่าแรงให้เธอ?

นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะได้ใช้เงินของตระกูลฉู่ในการซื้อของ

พอคิดได้ดังนั้น เธอก็รับบัตรใบนั้นมาอย่างใจเย็น

....

บริษัท ซิงโหยวเอ็นเตอร์เทนเมนท์

"อี้หลิน โฆษณาโปรโมตที่ฉันทำให้เธอเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ผลแล้วล่ะ เธอมีกระทู้บนอินเตอร์เน็ตแล้ว คาแรคเตอร์ขาวสวยรวยบริสุทธิ์นี่มันเป็นกระแสหลักมาตลอดจริง ๆ นะ พวกคนจน ปากก็บอกว่าเกลียดคนรวย แต่พอเห็นคำว่า ขาว รวย สวย สามคำนี้ พวกเขาก็ละสายตาไปที่อื่นไม่ได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หยุนซี หวังอี้หลินก็รู้สึกพอใจ เธอยิ้มออกมา แต่กลับพูดอย่างถ่อมตัวว่า "ที่ฉันมีได้ทุกวันนี้ ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากหยุนซี ฉันจะพยายามให้มากขึ้น จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง"

คำพูดนี้ทำให้หยุนซีรู้สึกได้ประโยชน์ เธอยกยิ้มขึ้น "ไม่ต้องรีบร้อนไป ต่อไปนี้ ฉันจะเตรียมละครอีกหลายเรื่องให้เธอเป็นนางเอก แต่ฉันว่า เราต้องสร้างภาพลักษณ์ขาวสวยรวยต่อไป ดีที่สุดคือการเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์ และแสร้งว่านักข่าวบังเอิญถ่ายรูปติดมาได้....”

หวังอี้หลินขมวดคิ้วเล็กน้อยและถอนหายใจ "น่าเสียดายที่นอกจากเธอแล้ว ฉันก็ไม่รู้จักคนดังคนอื่นมากมายขนาดนั้น"

"ฉันจะหาวิธีเอง" ฉู่หยุนซีส่งสัญญาณว่าเธอไม่ต้องกังวล

เธอครุ่นคิด จากนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นทันใด "ใช่แล้ว! อีกสองวันจะมีงานสืบทอดตำแหน่งของพี่ชายฉัน มันเป็นพิธีสืบทอดอำนาจของตระกูลฉู่ มันจะเป็นงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในงานมีแต่คนดังระดับต้น ๆ ของเมืองไห่เฉิง ฉันจะพาเธอไปที่นั่น!”

“จริงเหรอ?” หวังอี้หลินประหลาดใจที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับสูงได้ เธอใฝ่ฝันมาตลอด!

แม้ว่าตระกูลหวังจะอาศัยการสนับสนุนจากฉู่หลินเฉิน จนกลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ในสายตาของคนดังจริง ๆ พวกเขากลับถูกมองว่าเป็นเศรษฐีหน้าใหม่เท่านั้น และพวกคนนั้นไม่สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขาด้วยซ้ำ

หากเธอสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับสูงแบบนี้ได้ มูลค่าของตัวเเธอเองก็เพิ่มขึ้น บางทีเธออาจจะขยายเครือข่ายของเธอได้!

“ไปที่งาน ก็อย่าลืมแต่งตัวให้หรูหรา เป็นการดีที่สุดจะต้องเป็นจุดสนใจของผู้ชมได้!” ฉู่หยุนซีกล่าว

หวังอี้หลินพยักหน้า

เธอออกมาจากซิงโหยวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ด้วยความตื่นเต้น

ในเวลาเดียวกัน เธอไม่ลืมที่จะโทรหาฉู่หลินเฉิน เพื่อคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้

“หลินเฉิน ฉันไปเข้าร่วมพิธีสืบทอดตำแหน่งของคุณได้ไหม?” เธอพูดในสายอย่างระมัดระวัง และถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ชายคนนี้

ถ้าเขาไม่อยากให้เธอไป การที่เธอไปกับฉู่หยุนซีอย่างตื่นเต้น มันจะเป็นการอยากอวดตัวเองเกินไปและดูโง่มาก

หลังจากเคยเสียหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว หวังอี้หลินก็มีความรอบคอบในการทำเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น

ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์เงียบลง และหวังอี้หลินบีบโทรศัพท์แน่น แน่นอนว่าเธออยากไป

ในที่สุดฉู่หลินเฉินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำ "ได้สิ เธออยากให้ฉันส่งคนขับรถไปรับเธอไหม"

หวังอี้หลินดีใจมาก แต่ไม่กล้าออกตัวจนเกินไป เธอพูดอย่างชาญฉลาดว่า “คุณยุ่งมาก ฉันจะรบกวนคุณได้ยังไง ฉันจะบอกหยุนซีแล้วไปกับเธอ”

"อืม"

เมื่อวางสาย หวังอี้หลินก็กระโดดด้วยความดีใจสุดขีด

ผู้ช่วยช่ายช่ายที่นั่งอยู่ในรถถามว่า “พี่อี้หลิน เราจะไปไหนกันคะ?”

หลังจากที่ได้เป็นศิลปินแล้ว ฉู่หยุนซีก็ได้จัดเตรียมผู้ช่วยสำหรับเธอเป็นพิเศษ เพื่อดูแลตารางงานประจำวันของเธออีกด้วย

“ไปช้อปปิ้งและซื้อเสื้อผ้า!” หวังอี้หลินตอบ

เธอจะไปเลือกเสื้อผ้า ต้องแต่งตัวให้สวยที่สุด เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะปรากฏตัวให้ทุกคนประหลาดใจ เพื่อให้คนร่ำรวยในไห่เฉิงทุกคนได้รู้จักเธอ!