วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 133

ฉินซูวางแผนที่จะไปเยี่ยมคุณย่าของเธอก่อน แล้วจึงไปหาที่อยู่กับเวินหลี

เธอเดินถือซุปไก่เข้าไปในห้องผู้ป่วย แต่กลับเจอคนที่ไม่คาดคิด

จงจื้อหย่วนและโจวซือฉิน

ตั้งแต่คุณย่าได้ผ่าตัดตลอดจนถึงช่วงเวลาพักฟื้น ลูกชายและลูกสะใภ้ไม่เคยปรากฏตัวเลย แต่พวกเขากลับอยู่ที่นี่ในวันนี้

ฉินซูไม่พูดอะไรเมื่อเห็นทั้งสองทักทายกันที่เตียงคุณย่า อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นญาติทางสายเลือดของคุณย่า ถึงยังไงการมาเยี่ยมคุณย่า ยังดีกว่าไม่มาเลย คุณย่าก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง

ฉินซูเดินไปอย่างสำรวมโดยไม่สนใจทั้งสองคน เธอพูดเบา ๆ กับหญิงชราที่อยู่บนเตียงว่า "คุณย่า หนูมาเยี่ยมวันนี้ เอาซุปไก่ใส่ดอกลิลลี่และอินทผลัมมาให้ ให้หนูป้อนให้เลยไหมคะ?"

ฉินกู้เซียงพยักหน้าช้า ๆ เธอทำเสียง "อืม" ในลำคอของเธอ

“ที่แท้คุณแม่ก็พูดได้! เมื่อกี้ไม่ได้พูด เลยคิดว่าพูดไม่ได้ซะอีก!” โจวซีอฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ

ฉินซูไม่ได้สนใจเธอ และเทซุปไก่ลงในชาม

โจวซือฉินพูดขึ้น "ฉินซู นี่แม่ฉัน ฉันป้อนเอง"

เธอพูดแบบนั้น และกำลังจะคว้าชามซุปในมือของฉินซูไป

ฉินซูเห็นคุณย่าของเธอขมวดคิ้ว เธอหลบหลีกจากมือของโจวซือฉินอย่างเย็นชา และพูดออกมาแค่สองคำ "ไม่ต้อง"

จากนั้นเธอก็ดึงเก้าอี้ออกไปนั่งข้างเตียง ป้อนนมและซุปให้คุณย่า

โจวซือฉินเบะปาก เธอยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยอารมณ์หงุดหงิด พลางสะกิดไหล่ของจงจื้อหย่วน

จงจื้อหย่วนละสายตาจากฉินซูและมองไปที่ฉินกู้เซียง เขาพูดอย่างกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกว่า "แม่ ที่ผมพูดไป แม่คิดว่าไงบ้าง? ยังไงบ้านนั้นก็ไม่มีคนอยู่อยู่แล้ว ว่างยังไงก็อย่างนั้น ตอนนี้มีคนเต็มใจที่จะซื้อมัน เราขายมันเถอะ"

"อะแฮ่ม..."

ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินกู้เซียงก็ไอไม่หยุด

สีหน้าของฉินซูเปลี่ยนไป เธอรีบวางชามลงและช่วยพยุงคุณย่า ทำให้เธอได้หายใจสะดวก และในขณะเดียวกันก็มองที่จงจื้อหย่วนด้วยความโกรธจัด “บ้านหลังนั้นคือน้ำพักน้ำแรงของคุณย่า คุณอยากจะขายบ้านจริง ๆ เหรอ?!"

“ครอบครัวของเราขีดเส้นแบ่งกับเธอชัดเจนแล้ว เรื่องนี้เธอไม่ต้องเข้ามายุ่ง!” โจวซือฉินบ่นขึ้น

เมื่อคิดถึงบ้านหลังเก่าที่เธอกับคุณย่าอยู่ด้วยกันมา 15 ปี ฉินซูรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อได้ยินว่าจงจื้อหย่วนและคนอื่นอยากจะขายมัน แน่นอนว่าจิตใจของเธอคงรับเรื่องนี้ได้ยาก เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่ง แต่เรื่องนี้ต้องให้คุณย่าตัดสินใจด้วยตัวเอง!”

จงจื้อหย่วนมองไปที่ฉินกู้เซียงอย่างประหม่า "แม่ บ้านที่พังแล้วแม่ก็ขายไปเถอะ อีกหน่อยแม่ก็ไปอยู่กับพวกเราในเมือง...”

ฉินกู้เซียงดูเหมือนจะมีกำลังมากพอ เธอเค้นคำสองคำออกมาอย่างยากลำบาก "ไม่...ขาย..."

“คุณได้ยินหรือยัง คุณย่าบอกว่าไม่ขายบ้านหลังนั้น ดังนั้นต่อไปนี้ อย่ามายุ่งกับบ้านหลังนั้นอีก!” ฉินซูชิงพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

โจวซือฉินจ้องไปที่ฉินซู และพูดกับฉินกู้เซียงอย่างรีบร้อนว่า "คุณแม่จะเก็บที่ชนบทเอาไว้ทำไม? บ้านก็พังขนาดนั้นแล้ว มันยากนะที่จะมีคนยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อซื้อมัน ถ้าเราไม่รีบขายตอนนี้ ก็จะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วนะ!”

ฉินกู้เซียงยังคงนิ่ง แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ท่าทางของเธอก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ฉินซูแปลกใจเล็กน้อย เดิมทีบ้านเก่าในชนบทไม่มีค่าอะไรมากมาย จ่ายแค่ไม่กี่หมื่นก็สามารถซื้อได้หลายหลังแล้ว นอกจากนี้ บ้านของคุณย่าค่อนข้างเก่าและทรุดโทรม จะมีคนยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อซื้อจริงเหรอ?

ถึงอย่างไรก็ตาม แทนที่จะอยากรู้เรื่องนี้ เธอกลับยิ่งโกรธ ที่จงจื้อหย่วนและอีกสองคนคิดจะขายบ้านของคุณย่าเพื่อเงินนั่น

เมื่อเห็นดวงตาที่เปียกชื้นของคุณย่า ฉินซูก็รู้สึกผิดหวังและเสียใจ กับพฤติกรรมของลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอ

เธอรู้สึกหงุดหงิดทันทีเมื่อมองไปที่จงจื้อหย่วนและภรรยาของเขา พลางดุขึ้นว่า "เงินสองล้านก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอสำหรับพวกคุณเหรอ เงินมันน้อยไปเหรอ ตอนคุณย่าสบายดี พวกคุณก็เข้าไปอยู่ในเมือง พอท่านป่วยก็ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล ไม่เคยถามไม่เคยเหลียวแล”

“จนถึงตอนนี้ แม้การผ่าตัดจะผ่านไปแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาล ก็มาพูดเรื่องขายบ้านแล้ว? จะเอาแต่ได้อย่างเดียวไม่เคยคิดจะจ่ายอะไรเลย โลกนี้มันไม่มีอะไรง่ายแบบนั้นหรอกนะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ ออกไปเถอะ!"

เมื่อเสียงพูดจบลง ฉินซูก็ออกคำสั่งให้ไล่แขกออกไป

“เธอ เธอจะไล่พวกเราไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?” โจวซือฉินมองฉินซูด้วยความโกรธ พร้อมเอามือท้าวสะเอว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง