วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 134

ฉินซูเห็นเธอทำท่าทางกร่างแบบนี้ เธอจึงยิ้มเยือกเย็น "อย่าลืมว่าตำแหน่งของฉันในตอนนี้คือใคร ฉันเป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่! โรงพยาบาลนี้ก็เป็นของตระกูลฉู่ แค่ฉันพูดออกไปประโยคเดียว ก็จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยมา ‘เชิญ‘ พวกคุณออกไปแล้ว!”

เธอจงใจเน้นคำว่า “เชิญ” และทันทีที่เมื่อพูดจบ โจวซือฉินและจงจื้อหย่วนก็แสดงสีหน้าลังเล

ทั้งสองสบตากัน และสุดท้ายก็ยอมจากไปแต่โดยดี

ฉินซูถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบจับมือของฉินกู้เซียง "ขอโทษนะคะคุณย่า เมื่อกี้นี้หนูไม่ควรพูดออกไปแบบนั้นเลย"

ฉินกู้เซียงกลับไม่ได้ตำหนิเธอ ได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ "พวกเขา...อกตัญญู..."

ฉินซูได้ยินก็รู้สึกบีบคั้นที่หัวใจ เธอพูดอย่างมั่นใจ "คุณย่ายังมีหนู หนูจะดูแลคุณย่าตลอดไป!"

ดวงตาที่ผ่านโลกมานานของฉินกู้เซียง มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอใช้เสียงชราของเธอพูดออกมาช้า ๆ ว่า "ถ้าอย่างนั้น...บ้านนั้น ย่าให้เธอ..."

ฉินซูตกตะลึง จากนั้นรีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า "บ้านหลังนั้นเป็นของคุณย่า หนูจะเอามาเป็นของหนูได้ยังไงคะ?"

รอยยิ้มเศร้าผุดขึ้นบนใบหน้าของฉินกู้เซียง ราวกับว่าเธอกำลังหวนคิดถึงวันเก่า ๆ เธอพูดออกมาทีละคำอย่างยากลำบาก "สิ่งที่ยืนยัน...ตัวตนของเธอ...อยู่ที่ ใต้หัวเตียงในบ้าน..."

ฉินซูตกตะลึงอีกครั้ง

หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ฉินซูก็ยังไม่สามารถดึงสติกลับมาจากความตกใจได้

เธอคิดว่าสัญลักษณ์ที่แสดงตัวตนของเธอ คือสิ่งที่จงจื้อหย่วนสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเธอ ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง ๆ แถมยังอยู่ในบ้านที่ชนบทอีกด้วย!

ถ้าเธออยากรู้ตัวตนของเธอ เธอจะต้องกลับไปที่บ้านนั้น แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาว่างเลย

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องรีบร้อนอะไร หลังจากออกจากบ้านตระกูลฉู่ค่อยจัดการก็ได้

ฉินซูไม่ได้เดินออกไปไกลจากประตูโรงพยาบาลมากนัก แต่จู่ ๆ เธอก็ถูกขวางทางเดินไว้

เมื่อเงยหน้ามองจงจื้อหย่วนและภรรยาที่อยู่ตรงหน้า เธอก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

"เมื่อกี้ในห้องผู้ป่วยของคุณย่า ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป ที่พวกคุณมาดักเจอฉันแบบนี้ อยากจะเสนอตัวให้ฉันตำหนิเหรอ?" ฉินซูพูดโดยไม่เกรงใจ

"อะไรกัน เธอยังจะอยากฟ้องคุณย่า เรื่องที่พวกเราขายเธอให้กับบ้านตระกูลฉู่ด้วยเหรอ?"

โจวซือฉินกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เธอพูดในลำคอ "พูดอย่างกับตัวเองโดนทำร้ายมากมายอย่างนั้นแหละ? ดูสิตอนนี้เธอก็กลายเป็นคุณนายฉู่ผู้ยิ่งใหญ่ แล้วพวกเราล่ะ? ไม่ใช่แค่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากนะ ยังโดนคนของฉู่หลินเฉินคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลาด้วย!"

"ความผิดฉันเหรอ?" ฉินซูมองอย่างเย็นชา "นี่เป็นเวรกรรมที่พวกคุณก่อขึ้นมาเอง ก็ต้องรับผลกรรมไปเอง!"

โจวซือฉินโกรธจัด “ยัยเด็กไม่รู้จักบุญคุณ คอยดูนะ ฉันจะป่าวประกาศให้หมด ว่าคุณนายตระกูลฉู่อย่างเธอเนี่ยมันเป็นของปลอม!?"

สีหน้าของจงจื้อหย่วนเปลี่ยนไป เขาออกแรงดึงเธอเอาไว้ พร้อมกับใช้สายตาเพื่อส่งสัญญาณเตือนเธอ

ดูเหมือนว่าโจวซือฉินจะรู้ตัวแล้ว ว่าเธอได้พูดอะไรบางอย่าง ที่ไม่ควรพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจ เธอมองไปรอบ ๆ อย่างลุกลี้ลุกลน ด้วยความกลัวว่าจะโดนคนเหล่านั้นจับได้

เมื่อเห็นว่ารอบ ๆ ตัวไม่มีคนอยู่ เธอถอนหายใจโล่งอกและกระแอมสองครั้ง "เมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้พูดอะไรออกไปนะ อย่าคิดจะไปฟ้องคุณชายฉู่เชียว!"

“ฉันไม่ได้ขี้ฟ้องขนาดนั้น” ฉินซูตอบอย่างไม่พอใจ

จงจื้อหย่วนมองไปที่เธอ เขาพูดด้วยรอยยิ้มแหย ๆ "เสี่ยวซู บ้านหลังนั้นของคุณย่า ทิ้งไว้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรจริง ๆ เธอช่วยเกลี้ยกล่อมคุณย่าหน่อยได้ไหม เงินที่ขายบ้าน ฉันจะเอาแค่ส่วนหนึ่งมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะให้คุณย่าเกือบหมดนั่นแหละ ฉันจะไม่ได้โลภถึงขนาดต้องเอาเงินจากการขายบ้านของคนแก่หรอกนะ"

"ฉันไม่เชื่อพวกคุณ"

ฉินซูได้แต่ยิ้มเยาะ เดินออกมาทิ้งให้ทั้งสองยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ลังเล

เมื่อเห็นเธอกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยว โจวซือฉินกัดฟันและพูดว่า "ฉันว่าเงินหนึ่งล้านบาทนั้นคุณคงไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าแม่ของคุณกับยัยเด็กนั่นสมรู้ร่วมคิดกัน แล้วต่อไปก็คงยกบ้านหลังนั้นให้กับเด็กคนนั้น”

จงจื้อหย่วนสีหน้าจริงจัง เขาไม่ได้พูดอะไร

เมื่อพวกเขาทั้งสองคนออกไปแล้ว มีคนสองคนออกมาจากพุ่มไม้ข้าง ๆ พวกเขามีสีหน้าประหลาดใจ ราวกับว่าพวกเขารู้อะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง