วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 144

ยามเฝ้าประตูมองดูชื่อบนกระดาษที่แปะอยู่บนกล่องแล้วชะงัก “ที่แท้คนที่บริจาคห้องสมุดให้สถานสงเคราะห์ของพวกเรา ก็คือคุณแม่ของคุณ…”

บนรถ

เว่ยเหอคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ

เมื่อเหลือบมองกระจกมองหลัง ก็เห็นคุณชายของเขาก็มีสีหน้าที่นิ่งเฉยไม่ไหวติงเช่นเดียวกัน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณชายฉู่ครับ ยามคนนั้นไม่น่าจะพูดโกหก เป็นไปได้ไหมครับ ว่าเงินแปดแสนหยวนที่ฉินซูบริจาค คือเงินที่เอามาจากคุณหวังอี้หลิน? แต่ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ แถมยังบริจาคออกไปในนามคุณหวังอี้หลินอีก…”

การกระทำแบบนี้ ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจจริง ๆ

ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้ว

สายตาของเขามองออกไปนอกหน้าต่างรถ และมองเห็นร่างหนึ่งออกมาจากสถานสงเคราะห์ เขาหรี่ตามองและส่งสัญญาณให้เว่ยเหอขับรถข้ามไป

รถหยุดลงตรงหน้าของฉินซู

ฉินซูมองกระจกรถค่อย ๆ ลดระดับลง ปรากฏใบหน้าที่หล่อเหลาและสูงส่งของฉู่หลินเฉิน เธอประหลาดใจจริง ๆ ไม่คาดคิดว่าจะพบเขาที่นี่

“ขึ้นรถ” ฉู่หลินเฉินพูดสั้น ๆ กระชับได้ใจความ

ฉินซูไม่ได้พูดอะไรมาก และเข้าไปนั่งในรถ

เธอเพิ่งจะพูดคุยกับผู้อำนวยการเผิงเสร็จเรียบร้อย เรื่องที่คุณย่าจะเข้ามาอยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้สักระยะหนึ่ง

ระหว่างทางฉู่หลินเฉินเม้มปากและไม่ได้พูดอะไร แม้กระทั่งเรื่องที่เขามาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านนอกสถานสงเคราะห์ เขาก็ไม่พูดอะไรออกมาสักประโยคเดียว

ตรงกันข้ามกับเว่ยเหอที่ริเริ่มจะเปิดปากพูดออกมา “คุณฉิน ผมเพิ่งจะได้ยินมาว่าคุณบริจาคเงินแปดแสนหยวนให้กับสถานสงเคราะห์ แต่ชื่อของผู้บริจาคไม่ใช่คุณ คุณทำแบบนี้เพราะว่า...”

ฉินซูพูดอย่างเรียบเฉย “เงินก้อนนั้นเดิมทีก็คือเงินของหวังอี้หลิน ฉันแค่คืนให้เธอด้วยวิธีนี้”

สีหน้าเว่ยเหอสับสนและไม่เข้าใจ

คืนเงิน หมายความว่าอย่างไร?

แม้กระทั่งฉู่หลินเฉินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉินซูก็เลิกคิ้วขึ้นและชำเลืองมองเธอ ในสายตาของเขามีคำถามและกำลังครุ่นคิด

ฉินซูมองเขาอย่างนิ่งสงบและพูดขึ้น “ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกคุณ ว่าเงินก้อนนั้น คือเงินที่หวังอี้หลินให้ฉันมาเอง เพราะอยากที่จะให้ฉันไปจากคุณโดยเร็ว แต่ฉันไม่ได้ตอบรับก็เลยคืนเงินให้เธอไป”

“หืม?” เว่ยเหอลืมตาเหลือบมองคุณชายของเขาทันที

ที่เขาจำได้... คุณชายไม่ได้บอกเขาแบบนี้

สีหน้าของฉู่หลินเฉินก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก แววตาของเขาอึมครึมและถามขึ้น “ทำไมเธอไม่เอาเงินนั่นแล้วจากไป?”

ฉินซูยิ้มเบา ๆ “ฉันจะไม่จากไปอย่างแน่นอน ตอนนั้นคุณย่าของฉันยังไม่ได้ผ่าตัด และฉันก็ได้ทำข้อตกลงกับตระกูลฉู่ไว้ก่อนแล้ว ถ้าผิดข้อตกลงก่อน จะไม่ดูน่าสมเพชแล้วก็โง่มาก ๆ เหรอ?”

เว่ยเหอได้ยินอย่างนั้นก็พยักศีรษะ เหตุผลนี้นี่เอง

แต่เดี๋ยวนะ หากเป็นอย่างที่ฉินซูพูด ถ้าอย่างนั้นคนที่โกหกก็จะเป็น...

เว่ยเหอมองไปยังเบาะหลัง

ผลเป็นอย่างที่คาดไว้ สีหน้าคุณชายของเขามืดสนิท

ทันทีที่กลับถึงบ้านพักตากอากาศ ฉู่หลินเฉินก็ขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบน และต่อสายหาหมายเลขของหวังอี้หลิน

“ก่อนหน้านี้ที่เธอบอกว่า ฉินซูข่มขู่เอาเงินแปดแสนหยวนไปจากเธอ เกิดอะไรขึ้น?”

น้ำเสียงต่ำของเขาไม่ได้โกรธแต่มีพลังที่น่าเกรงขาม

หวังอี้หลินที่กำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่ที่สถาบันเสริมความงาม เห็นท่าไม่ดีทันทีที่ได้ยินที่เขาพูด

เธอกรอกตาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่รู้สึกผิดและยอมรับผิดขึ้นมา “หลินเฉิน คือจริง ๆ แล้วเรื่องนั้นฉันโกหกเอง... ฉันไม่ได้พูดความจริงกับคุณ”

ฉู่หลินเฉินได้ยินดังนั้น น้ำเสียงของเขาก็เบาลงเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”

“เดิมทีคนที่แต่งงานกันควรจะเป็นฉันกับคุณ แต่สุดท้ายกลับถูกเธอสวมรอยไป ฉันจึงรู้สึกไม่เต็มใจแล้วก็กลัวว่าคุณกับเธออยู่ด้วยกันทั้งเช้าทั้งเย็น แต่เรากลับได้เจอกันแค่บางครั้งบางคราว... ฉันรักคุณมากจริง ๆ และกลัวว่าคุณจะถูกผู้หญิงคนอื่นแย่งไป”

ฉู่หลินเฉินจนปัญญา เขาสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นเขาเองที่เป็นฝ่ายผิด

คำพูดครั้งนี้ของหวังอี้หลิน ทำให้เขารู้สึกผิดและเสียใจ

เขาเอ่ยขึ้น “คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก หลังสิ้นสุดพิธีรับช่วงต่อ ฉันจะหย่ากับฉินซูให้เร็วที่สุด แล้วแต่งงานกับเธอ”

“ค่ะ ฉันฟังที่คุณพูดหมดทุกอย่าง” หวังอี้หลินพูดอย่างเชื่อฟัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง