วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 162

ฉินซูสูดลมหายใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่หลินเฉินจับมือเธอแน่นเกินไปจนเธอถึงออกมาไม่ได้ เธอจะมาเจอฉู่หยุนซีที่มาพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ไหม?

แม้ว่าชายคนนี้จะอยู่ในอาการโคม่า แต่เขาแข็งแกร่งมาก เขาจับเธอเหมือนคีมคีบเหล็ก ฉินซูหวังว่าฉู่หยุนซีจะช่วยเขาดึงมือของเขาออกไปได้

แต่เห็นได้ชัดว่าเธอทำไม่ได้

"แปลกจัง อาเฉินจับมือแม่เด็กฉินซูไม่ปล่อยแบบนี้หมายความว่าอะไร?"

ซ่งจิ่นหรงพูดด้วยน้ำเสียงงงงวย

หลิวเหวยลู่เม้มริมฝีปากไม่ตอบอะไร และไม่สามารถตอบได้

ใบหน้าของหวังอี้หลินบูดเบี้ยวไปมาก

เธอไม่สามารถปล่อยให้ฉู่หลินเฉินจับมือของฉินซูได้ นี่จะไม่ทำให้คนเข้าใจผิดกันหมดเหรอ?

หวังอี้หลินเดินโน้มตัวลงที่ข้างเตียง เธอตะโกนขึ้น "หลินเฉิน ฉันคืออี้หลินนะ ได้ยินที่ฉันพูดไหม? ตื่น ตื่นสิ!"

"ไม่ต้องตะโกนแล้ว เขายังโคม่าอยู่” ฉินซูพูดอย่างเย็นชา มองดูอาการของฉู่หลินเฉิน "อาการแบบนี้ อย่างน้อยก็ต้องรอสองสามชั่วโมงถึงจะฟื้น"

เธอสะบัดข้อมือที่ถูกกำเอาไว้ และดึงออกไม่ได้

เครียดจริง ๆ

ขณะนี้หลิวเหวยลู่ก็นึกได้ว่าต้องทำอะไร เธอพูดขึ้น “คุณแม่คะ เรามาวัดไข้ของหลินเฉินกันก่อนดีกว่า”

"จริงสิ! รีบวัดเร็วว่ากี่องศา"

ซ่งจิ่นหรงเพิ่งจำได้ว่าหลานชายอันเป็นที่รักของเธอยังมีไข้สูง

อุณหภูมิร่างกายแสดง 37.3 องศา ซึ่งลดลงมาก

ความกังวลในใจของซ่งจิ่นหรงและหลิวเหวยลู่มลายหายไป

"อย่างนั้นก็ฝากไว้ให้เด็ก ๆ ที่นี่ดูแลเถอะ ฉันจะพาคุณแม่กลับไปพักผ่อน” หลิวเหวยลู่เหลือบมองมือของฉินซูที่ฉู่หลินเฉินจับไว้ ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความหมายที่ไม่อาจคาดเดาได้

“คุณแม่ อย่างนั้นอี้หลินกับหนูจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่เอง” ฉู่หยุนซีกล่าว

“งั้นดูแลพี่ให้ดี ๆ อย่าก่อวุ่นวาย” หลิวเหวยลู่เตือนเธอและพาซ่งจิ่นหรงออกไป

ฉู่หยุนซีสั่งขึ้นทันที "เสี่ยวเวย ไปชงชาให้พวกเราหน่อย"

เมื่อเด็กรับใช้เดินออกไป เธอเบนสายตามมามองที่ฉินซูอย่างดูถูก และพูดกับหวังอี้หลินว่า “พี่สะใภ้ ต่อจากนี้ไปช่วยดูแลพี่ชายฉันด้วยนะ ส่วนฉันจะคอยจับตาดูคนบางคน เกรงว่าเธอจะมีเจตนาร้าย”

แน่นอนว่าคนบางคนหมายถึงฉินซู

ฉินซูไม่อยากสนใจกับเธอ เธอจึงได้แต่เม้มริมฝีปาก เตรียมที่จะนั่งบนเก้าอี้ และรอให้ฉู่หลินเฉินตื่นขึ้นแล้วปล่อยมือของเธอ

ฉู่หยุนซียื่นมือออกมาแล้วดึงเก้าอี้ออกไปเป็นการขัดขวางเธอ

ข้อมือข้างหนึ่งของฉินซูถูกฉู่หลินเฉินจับไว้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปคว้าเก้าอี้กลับ

ฉู่หยุนซีเห็นสิ่งนี้ด้วย สีหน้าของเธอก็นิ่งงัน เธอผลักเก้าอี้ไปด้านข้างของหวังอี้หลิน และพูดขึ้น “เธอเป็นแค่ตัวปลอม เธอจะมานั่งข้างพี่ชายฉันทำไม เก้าอี้นี้ไม่ได้มีไว้ให้เธอนั่ง!"

พูดจบก็ส่งสายตาให้หวังอี้หลินนั่ง

หวังอี้หลินเองก็ไม่ได้เกรงใจ เธอนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ มองดูฉินซูอย่างสะใจ

ดวงตาของฉินซูเคร่งขรึมลง คนสองคนนี้คิดว่าเธอเป็นแค่ลูกพลับที่อ่อนแอในตระกูลฉู่ไปเสียแล้ว

เธอกำลังจะตอกกลับ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงแรงขยับที่ข้อมือ

ฉินซูหันไปมองฉู่หยุนซีและถอนหายใจด้วยความผิดหวัง "คุณหนูฉู่คะ ตอนที่คุณมาขอโทษฉัน พวกเราก็ตกลงกันแล้วว่าจะอยู่ในที่ของตัวเอง ไม่ยุ่งกัน แต่คุณก็ตั้งเป้ามาที่ฉันแบบนี้อีก ดูแล้วคำขอโทษของคุณ ก็เพื่อให้ฉันยอมถ่ายวิดีโอให้คุณเท่านั้น เป็นแค่ข้ออ้างที่เชื่อไม่ได้"

"ไร้สาระ ไม่รู้จักดูตัวเองเสียบ้าง เธอมีค่าอะไร พอที่จะให้ฉันต้องขอโทษเหรอ? สถานะก็ต่ำต้อยแบบนี้ เธอคิดว่าเธอคู่ควรกับมันเหรอ?!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง