เธอนั่งตัวตรงไม่เคลื่อนไหว เพียงแต่โน้มกายส่วนบนเข้าหาเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ลดต่ำลง “วันนี้ฉันเห็นคุณอารองของคุณกับหานโม่หยาง ไปพบหานเซี่ยวที่โรงแรม”
“เหรอ?” ฉู่หลินเฉินมองเธออย่างสนใจ “แล้วเธอรู้อะไรอีกบ้าง?”
ฉินซูบอกเนื้อหาบทสนทนาของฉู่โจวกับหานโม่หยางให้เขาฟัง
ฉู่หลินเฉินมองเธอลึกลงไป “เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณย่าเธอ ฉันรับรองกับเธอแล้วว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ฉินซูมองเขาและเชื่อเขาอย่างไม่สามารถอธิบายได้
“แล้วคุณอารองของคุณ…”
ดวงตาของฉู่หลินเฉินมีแสงปรากฏแวบหนึ่ง เขาหันศีรษะไปทางด้านหน้าและพูดคำสั้น ๆ ออกมา “ไม่ต้องรีบร้อน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำและทรงพลัง เต็มไปด้วยความมั่นใจ
หรือว่าเขามีแผนการตั้งนานแล้ว?
ฉินซูรู้สึกว่าตนเองอาจจะยังประเมินชายคนนี้ต่ำไป
อย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะทุกข์ใจแทนเขา
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉินซูก็ถือโอกาสโยนเรื่องราวเหล่านี้ทิ้งไป และเตรียมพร้อมรับมือกับคืนนี้
ถึงอย่างไรหานเซี่ยวก็คือเป้าหมายของเธอ
แสงยามโพล้เพล้มาถึง
ซิงโหยวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในฐานะบริษัทบันเทิงชั้นนำในประเทศ ภายใต้การบริหารงานของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจต่อลู่ซี ในงานเลี้ยงต้อนรับคืนนี้ ฉู่หยุนซีจึงได้เชิญศิลปินของบริษัทมากหน้าหลายตามาในงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ทุกคนไม่เพียงแต่อยากเห็นบุคลิกลักษณะที่มีเสน่ห์ของลู่ซี ราชาแห่งวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์เท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าหากสามารถเข้าไปอยู่ในสายตาของเขาได้ บางทีอาจจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในละครเรื่องใหม่ของเขา《ชายชุดขาว》ก็ได้!
ยังมีข่าวลืออีกเรื่อง งานเลี้ยงตอนรับคืนนี้คุณชายฉู่จะเข้าร่วม!
จนถึงตอนนี้ หลายคนยังไม่เคยเห็นเจ้านายคนใหม่ของฉู่ซื่อกรุ๊ปท่านนี้กับตาของตนเอง ซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงของพวกเขา
ดังนั้น นอกจากส่วนหนึ่งที่ประกาศว่าอยู่ต่างจังหวัดทำให้มาไม่ได้จริง ๆ ที่เหลือแทบจะทุกคนต่างก็ไม่อยากพลาดงานเลี้ยงสำคัญในคืนนี้ไป ผู้คนจำนวนมากทำให้ฉู่หยุนซีได้รวมห้องประชุมจินหลานชั้นที่ 26 ทั้งชั้นไว้ด้วยกัน
ในเวลานี้ ศิลปินที่เข้าร่วมงานเลี้ยงตอนค่ำได้ทยอยมาถึงสถานที่จัดงาน แต่ก็ยังไม่เห็นร่องรอยของตัวละครหลักอีกหลายท่าน
ฉู่หยุนซีกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการแต่งตัวตนเอง และส่งมอบงานในสถานที่ทั้งหมดให้เคนนีย์รับผิดชอบ
เธอรู้ว่าลู่ซียังมาไม่ถึง ดังนั้นเธอจึงรอ รอที่จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกันกับลู่ซี
“อี้หลิน ถ้าเธอพร้อมแล้วก็ไปก่อนเถอะ พี่ชายฉันพวกเขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หยุนซี หวังอี้หลินมองทุกอย่างออกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอพยักหน้า “อืม งั้นฉันไปก่อนนะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพูดถึงเธอเยอะ ๆ ต่อหน้าลู่ซีอย่างแน่นอน ให้เธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับเขาในละครเรื่องใหม่《ชายชุดขาว》ละครเรื่องนี้พวกเราลงเงินทุนทั้งหมด มันไม่ใช่เรื่องยากที่ฉันจะช่วงชิงตำแหน่งนักแสดงนำให้เธอ จุดสำคัญคือต้องดูความคิดเห็นของลู่ซี”
สีหน้าของหวังอี้หลินปลื้มปีติ “ขอบคุณมากหยุนซี”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป
ฉู่หยุนซีหันไปที่กระจกแต่งหน้าและเติมลิปสติกอีกครั้งอย่างละเมียดละไม
จนกระทั่งเหลือเวลาไม่มากแล้ว เธอถึงจะหิ้วกระเป๋าถือของบุลการี และเหยียบรองเท้าส้นสูงเดินออกไปจากห้องแต่งตัว
ณ ด้านนอกประตูใหญ่ห้องประชุม ฉินซูกับฉู่หลินเฉินลงมาจากรถทีละคน
ในขณะที่ทั้งคู่เตรียมจะขึ้นไปด้านบน โทรศัพท์มือถือของฉินซูก็ดังขึ้น
เธอมองไปยังหมายเลขที่โทรมา จากนั้นใช้รูปปากพูดแบบไม่มีเสียงบอกฉู่หลินเฉิน หานเซี่ยว
ฉู่หลินเฉินพยักหน้าระงับอารมณ์และคำพูด “งั้นฉันขึ้นไปก่อน”
“อืม”
เมื่อเห็นร่างของฉู่หลินเฉินเดินไปที่ลิฟต์ ฉินซูก็รับสายโทรศัพท์
“ได้ยินว่าคุณกับฉู่หลินเฉินไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับลู่ซี นี่เป็นโอกาสดีที่จะลงมือ”
“อืม แล้วฉันควรทำยังไง?” ฉินซูขอคำแนะนำอย่างถ่อมตัว
“หลังจากจบกิจกรรม ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้คุณ คุณหาเหตุผลอะไรอะไรก็ได้พาฉู่หลินเฉินออกมาให้ได้ก็พอ”
หานเซี่ยวหยุดไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นในน้ำเสียงของเธอก็มีความเย้ายวนเล็กน้อย “อีกอย่าง ถือโอกาสพาลู่ซีคนนั้นมาด้วยนะ ฉันอยากจะกินเขามานานมากแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...