ฉู่หลินเฉินกวาดสายตามองไปที่เธอ ความเฉยชาของเขาก็กลับมาอีกครั้ง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น "พาพวกเธอกลับไปก่อน"
พูดเสร็จ เขาก็หยุดและมองไปที่ลู่ซี "นายก็กลับไปกับพวกเธาด้วย"
"ได้ ยังไงก็ไม่มีเรื่องของผมแล้ว" ลู่ซีแบมือ เขาพูดกับเว่ยเหอ "ถ้าอย่างนั้นนายอยู่ช่วยหลินเฉินนะ ฉันจะไปส่งพวกเธอสองคนเอง"
"รบกวนคุณชายลู่ด้วยครับ" เว่ยเหอพยักหน้าอย่างว่าง่าย หานเซี่ยวตายอย่างกะทันหัน เกรงว่าเรื่องนี้คงจะไม่จัดการได้ง่าย ๆ เวลานี้คุณชายฉู่ต้องการเขา
เมื่อมองดูทั้งสามคนกลับไปแล้ว ฉู่หลินเฉินก็เดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ที่ถูกไฟไหม้ ดวงตาสีดำของเขาลึกล้ำคาดเดาความรู้สึกไม่ได้
"เว่ยเหอ นายพาคนไปตรวจสอบข้างล่าง หลังจากที่หานเซี่ยวย้ายมาที่ไห่เฉิง เธอก็สร้างที่นี่เป็นฐานที่มั่นคงของเธอ จะต้องมีอะไรหลงเหลืออยู่แน่นอน"
"รับทราบครับ" เว่ยเหอพยักหน้า ก่อนจะหันหลังมองไปที่ศพที่ไหม้เกรียมนั้น "แล้วเธอ..."
"เรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตคนก็ให้ตำรวจจัดการไป"
เว่ยเหอเข้าใจแล้ว พาคนลงไปข้างล่าง และแจ้งตำรวจไปพร้อมกัน
ฉู่หลินเฉินมองดูควันที่พวยพุ่ง ในหัวก็นึกถึงฉากที่เฮลิคอปเตอร์ระเบิกเมื่อครู่นี้
มันเป็นอุบัติเหตุหรือความบังเอิญ?
…
ลู่ซีเป็นคนขับรถ และฉู่หยุนซีก็เลือกที่จะนั่งข้าง ๆ เขา
"กลัวแทบแย่ ฉันโตมาขนาดนี้แล้ว ยังเพิ่งเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก!" ฉู่หยุนซือเอามือกุมหัวใจของเธอเอาไว้ และมองลู่ซีด้วยความศรัทธา "ลู่ซีนายไม่กลัวเลยเหรอ? ผู้หญิงคนเมื่อกี้ถูกไฟครอกไปเป็นแบบนั้น..."
ลู่ซีตอบกลับอย่างเรียบง่าย "เมื่อก่อนที่ฉันอยู่ต่างประเทศ ก็มีแก๊งสองแก๊งตามท้องถนนย่านการค้า มีทั้งปืนทั้งมีด มีคนตายอยู่ถามพื้นถนน บ้างก็แขนขาหัก บ้างก็ไส้ทะลักออกมา ทั้งถนนเต็มไปด้วยเลือด...ตอนนั้นฉันอยู่ตรงปากซอยที่ห่างออกไปแค่ห้าเมตร"
"ไม่เอา ไม่ต้องพูดแล้ว น่ากลัวเกินไปแล้ว!" ฉู่หยุนซีรีบหยุดเขา แค่คิดตามก็จะอาเจียนแล้ว
แต่เธอก็เข้าใจประสบการณ์ชีวิตของลู่ซี รู้ว่าเขาออกมาจากสลัมตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าประสบการณ์ที่เขาได้เจอ จะต้องเลวร้ายกว่าคนที่มีอายุเท่ากัน ภายหลังเขาไปด้พบกับพี่ชายของเธอ เข้าวงการบันเทิง และกลายเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก
เธอไม่สนใจประสบกาณ์ในวัยเด็กของเขา เพราะคนที่เธอรักก็คือเขาในตอนนี้
เขาช่างส่องแสงสดใส สว่างเป็นประกายระยิบระยับ
"ฉันต้องส่งพวกเธอที่ไหน?" ลู่ซีถามขึ้น
“ฉันอยากไปโรงแรมที่นายอยู่"
"บ้านตระกูลฉู่"
ฉินซูและฉู่หยุนซีแทบจะตอบพร้อมกัน
ฉู่หยุนซีมองฉินซูด้วยความไม่พอใจ จากนั้นจึงหันไปหาลู่ซีและพูดว่า "ฉันยังรู้สึกไม่ดีอยู่เลย ให้ฉันไปที่พักนายได้ไหม? ฉันอยากอยู่กับนาย"
ฉินซูพูดขึ้นอย่างเรียบ ๆ "ฉู่หลินเฉินบอกว่าคุณย่าของฉันถูกรับและพาไปที่บ้านตระกูลฉู่แล้ว ฉันอยากกลับไปดูท่าน"
ลู่ซีมองคนทั้งสอง "ได้ อย่างนั้นไปส่งเธอที่บ้านตระกูลฉู่ก่อนก็แล้วกัน"
พูดจบเขาก็หันไปพูดกับฉู่หยุนซีคนเดียว "คืนนี้เธอคงตกใจมาก กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และพักผ่อนให้เพียงพอ"
ฉู่หยุนซีได้แต่ตอบอย่างไม่เต็มใจนัก ในใจก็คิดว่าเธอจะต้องยื้อลู่ซีเอาไว้ให้ได้
ไม่นานก็ถึงบ้านตระกูลฉู่
มีรถสามคันจอดอยู่นอกประตู บอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งยืนเรียงแถวอยู่สองแถวอย่างเรียบร้อย ดูเตรียมพร้อมและน่าเกรงขาม
ลุงหมิงเดินไปเดินมาที่หน้าประตูใหญ่ ดูยุ่งเหยิงวุนวาย
ลู่ซีจอดรถ ลุงหมิงและกลุ่มบอดี้การ์ดก็มองมา
ทั้งสามคนลงจากรถ
ลุงหมิงหรี่ตามองฉู่หยุนซีสักพักหนึ่งและรีบเดินเข้ามา
"คุณหนูหยุนซี คุณบอกว่าฉินซูจะทำร้ายคุณชายหลินเฉิน แต่เว่ยเหอกลับบอกว่าไม่มีอะไร บอกไม่ให้พวกเราไป จริง ๆ แล้วมันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ครับ? แต่ตอนเย็นคุณท่านรองก็พาหญิงชราท่านหนึ่งมาด้วย บอกว่าเป็นคุณย่าของฉินซู..."
ไม่รอให้เขาพูดจบ ฉินซูก็เดินขึ้นมาข้างหน้าอย่างกระตือรือล้นพร้อมพูดขึ้น "ลุงหมิง เขาคือคุณย่าของฉันเองค่ะ คุณพาฉันไปพบท่านหน่อยได้ไหม?"
"คือ..." ลุงหมิงดูสับสน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำได้แค่มองไปทางฉู่หยุนซี
ฉู่หยุนซีมองไปทางลู่ซี และพูดขึ้น "ฉันเข้าใจผิดเอง ฉันเห็นฉินซูพาพี่กับลู่ซีขึ้นรถไป และยังทำให้พวกเขาหมดสติอีก ฉันคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็เลยโทรหาลุง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...