ถึงเวลานั้นเธอจะปกป้องตัวเองและคุณยายได้อย่างไร
แต่ข้อเสนอของฉู่หลินเฉินก็มีปัญหาเช่นกัน
หลังจากการหย่าร้างแล้ว เธอจะอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลฉู่ในฐานะอะไร? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย ฉู่หยุนซีจะเป็นคนแรกที่ไล่เธอออกไป
ฉินซูดึงสติกลับมาได้ สิ่งที่ฉู่หลินเฉินอยากจะพูดก็คือ...ยังไม่ต้องหย่า?
เธอมองขึ้นไปที่เขา
ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าที่เคร่งขรึมของชายผู้นี้ดูสว่างขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง นั่นทำให้เขายิ่งดูลึกลับเข้าไปอีก
"ฉัน..."
ขณะที่เธอพูด เธอเหยียบโคลนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ แล้วลื่นล้มลงด้านข้าง
เมื่อเห็นดังนี้ฉู่หลินเฉินก็ยื่นมือออกไปดึงเธอไว้ แต่เขามาช้าไปหนึ่งก้าว
ร่างของทั้งสองล้มลงไปในแปลงดอกไม้
หญ้าสีเขียวชะอุ่มส่งกลิ่นบางเบา
ท่ามกลางแสงจันทร์ ทั้งสองมองหน้ากัน
ราวกับฉากนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ฉู่หลินเฉินชะงัก เขามองดูหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของเขา
เขาถามขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่า "วันที่ 29 มิถุนายน เธอได้ไปที่ภูเขาว่างอูหรือเปล่า?"
หัวใจของฉินซูบีบตัวแน่น ความทรงจำในคืนนั้นพรั่งพรูอยู่ในหัวของเธอ
เธอผลักร่างเขาออกอย่างแรง ปฏิเสธไปว่า “ฉันไม่เคยไปที่ภูเขานั้น”
นี่เป็นความลับของเธอ ฉินซูไม่สามารถให้ฉู่หลินเฉินรู้ได้ว่าคนในคืนนั้นคือเธอ มิฉะนั้นเขาจะคิดบัญชีกับเธอแน่นอน
เมื่อครู่นี้เขาเริ่มสงสัยในตัวเธอแล้ว
ฉินซูลุกขึ้นอย่างเร่งรีบและพูดว่า "ยังไงซะเราก็ต้องหย่ากันเร็ว ๆ นี้"
ฉู่หลินเฉินยืนขึ้น ปัดแขนเสื้อของเขา และพูดเรียบ ๆ ว่า "ถ้าอย่างนั้น เธอก็ต้องพิจารณาให้ดีว่า ถ้าออกจากบ้านตระกูลฉู่หลังจากหย่ากันแล้ว เธอจะอยู่ยังไง เพราะบางคนข้างนอกก็ยังการคาดเดาว่าเธอคือสาเหตุการตาของหานเซี่ยว”
“...”
ท้ายที่สุดแล้ว ฉินซูก็พักแผนการหย่าไว้ชั่วคราว
เธอตัดสินใจเชื่อฉู่หลินเฉินและลองดูต่อไปก่อน ถ้าตระกูลหานไม่มีการกระทำที่ชัดเจนใด ๆ เธอค่อยหย่ากับฉู่หลินเฉิน
ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่น แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากให้ตัวเองและคุณย่าต้องตกอยู่ในอันตราย
ไม่รู้ว่าเธอดูผิดไปเองหรือเปล่า ฉู่หลินเฉินดูจะดีใจเล็กน้อยกับการที่เธอกับเขายังไม่หย่ากัน?
ฉินซูยังคงอยู่ในตระกูลฉู่ต่อไป เพื่อรับบทเป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่ และฉู่หลินเฉินก็ส่งคนไปติดตามอย่างใกล้ชิด กับการเคลื่อนไหวของตระกูลหาน
โชคดีที่ช่วงนี้จิตใจของฉู่หยุนซีคิดแต่เรื่องของลู่ซี จึงไม่มีเวลามารังควานฉินซู คุณท่านก็เป็นคนที่จิตใจดี ดูแลฉินซูดีมาก ดังนั้นเธอกับคุณย่าจึงอยู่ในบ้านตระกูลฉู่ด้วยความสงบไม่มีเรื่องอะไร
อีกด้านหนึ่ง
ที่สำนักงานบริหารฉู่ชื่อกรุ๊ป
เว่ยเหอรายงานต่อฉู่หลินเฉิน "ดูจากปฏิกิริยาของตระกูลหานแล้ว ดูเหมือนว่าไม่มีแผนที่จะสอบสวนการตายของหานเซี่ยวนะครับ แต่ถึงอย่างไร หานเซี่ยวก็มาที่ไห่เฉิงโดยไม่ได้รับอนุญาต และเธอก็เป็นคนที่เริ่มโจมตีเราก่อน ซึ่งนั่นเป็นหลักการของตระกูลหาน”
"ไม่ใช่ว่าไม่ตามล่า แต่เพราะรู้ว่าฝ่ายตัวเองเป็นคนทำผิดกฏ ก็เลยไม่กล้ามาหาเรื่อง" ฉู่หลินเฉินพลิกอ่านรายการบนโต๊ะไปมา "การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตระกูลหานถี่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก"
เว่ยเหอพยักหน้า ช่วงนี้มีหลายโครงการที่มีปัญหา
ฉู่หลินเฉินปิดรายงานบนโต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้น "แล้วเรื่องนั้นที่ฉันให้นายไปตรวจสอบล่ะ?"
"ผมให้คนไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว" เว่ยเหอรีบพูด "คุณฉินและค่ายที่พวกเขาเข้าร่วมในการฝึกในเวลานั้น อยู่ห่างจากภูเขาว่างอูกว่าสิบไมล์ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ การฝึกอบรมหนึ่งวันก็เหนื่อยพอแล้ว ไม่สามารถเดินทางไกล หรือไปปีนเขาได้แบบนั้นหรอกครับ"
"แล้วก็ ญาติของคุณหวังอี้หลินก็อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านข้างล่างเขาว่างอู ในคืนที่เกิดเรื่อง คุณอี้หลินไปทานข้าวที่บ้านญาติ ตอนที่กำลังจะกลับมาที่ค่าย จะต้องผ่านภูเขาว่างอูแน่นอน"
เว่ยเหอพูดจบ เขาก็เห็นคุณชายของเขาครุ่นคิด จึงอดสงสัยไม่ได้ "คุณชายครับ เรื่องนี้ผ่านมาเดือนกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้ตามสืบอีกล่ะครับ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...