วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 209

เมื่อได้ยินคำตอบที่ไร้ความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในใจฉินซูก็จมดิ่งลง

คาดไม่ถึงเลยว่าตระกูลฉู่จะฟ้องเธอ?

“คุณย่าวางใจเถอะนะคะ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณย่าไปรอหนูที่สถานสงเคราะห์หนานซานก่อนนะคะ หนูจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยแล้วจะไปหาคุณย่า”

ฉินซูปลอบโยนฉินกู้เซียงและมอบเงินสดที่มีทั้งหมดให้เธอ จากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถตำรวจ

ระหว่างทางไปสถานีตำรวจ ฉินซูได้เข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ จากปากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตระกูลฉู่ได้นำเรื่องที่เธอสวมรอยเป็นหวังอี้หลิน และแต่งงานเข้าตระกูลฉู่ แล้วเปิดเผยต่อสาธารณะทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั้งหมด อีกทั้งได้ตัดสินใจฟ้องเธอในข้อหาหลอกแต่งงาน บังคับให้เธอหย่ากับฉู่หลินเฉิน

จึงไม่น่าแปลกที่เมื่อสักครู่พนักงานต้อนรับสองคนนั้นที่โรงแรมทราบเรื่องนี้

คนที่ฉินซูสงสัยในตอนแรกก็คือฉู่หยุนซีที่ไล่เธอกับคุณย่าออกมา แต่เมื่อคิดกลับไป ตระกูลฉู่คำนึงถึงชื่อเสียงขนาดนี้ ในตอนที่เก็บเธอไว้ก็ไม่ได้คิดที่จะให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ดังนั้น ตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ฉู่หยุนซีก่อเรื่องคนเดียว

การฟ้องร้องเธอ น่าจะเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกฉันท์ของคนในตระกูลฉู่

วิธีการถีบหัวส่งแบบนี้ ทำให้จิตใจของฉินซูรู้สึกหดหู่เล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ถึงอย่างไรสำหรับภายในใจของเธอแล้ว คุณท่านและคุณผู้หญิงฉู่เป็นคนที่ดีมาก ๆ แม้แต่คุณย่าก็ยังบอกว่าพวกเธอดีมาก ๆ เช่นกัน

และยังมีฉู่หลินเฉินที่เคยสัญญาไว้อย่างชัดเจน ว่าจะไม่ทำให้เธออับอาย...

ฝ่ามือของฉินซูที่วางอยู่บนหน้าตักกำหมัดแน่น แววตานิ่งลึก

ในเวลาเดียวกัน

ซ่งจิ่นหรงกับหลิวเหวยลู่ที่กลับมาจากการจุดธูปบูชาบนภูเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาทราบเรื่องนี้เข้า

“ก่อเรื่อง!” ซ่งจิ่หรงตบโต๊ะน้ำชาและจ้องเขม็งไปยังฉู่หยุนซีอย่างโกรธจัด

“ฉันกับแม่เธอเพิ่งจะไปได้วันเดียว เธอสร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้ออกมาได้ยังไง? ตอนนั้นพวกเราได้คุยกับครอบครัวของฉินซูอย่างดีแล้ว ว่าจะไม่สืบสวนเธอ เธอทำแบบนี้ ทำให้ตระกูลฉู่ของเราขาดความน่าเชื่อถือจากผู้คนแค่ไหน?!”

“คุณย่า จะโทษหนูไม่ได้จริง ๆ นะ…” ฉู่หยุนซีก้มศีรษะอย่างน้อยใจ และส่งแววตาเป็นนัยให้ฉู่สวี่อย่างเงียบ ๆ

ฉู่สวี่กระแอมและก้าวเท้าออกมายืนข้างหน้า “คุณแม่ เรื่องนี้คุณแม่เข้าใจหยุนซีผิดแล้ว”

“เป็นฉินซูที่ผิดคำพูดก่อน คุณแม่ไม่เห็นว่าเธอขู่เข็ญให้หลินเฉินหย่ายังไง เธอมีความทะเยอทะยานสูงนัก คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเปิดปากพูด ก็ต้องการหุ้นฉู่ซื่อที่อยู่ในมือของหลินเฉินครึ่งหนึ่ง! ถ้าเราไม่ใช้วิธีการที่แข็งกร้าว เธอก็จะรังควานตระกูลฉู่ของเรา”

ซ่งจิ่นหรงขมวดคิ้ว

หลิวเหวยลู่ก็พูดอย่างสงสัย “จริงเหรอ?”

“จริงแท้แน่นอน!” ฉู่หยุนซีถือหนังสือข้อตกลงการหย่าร้างที่อยู่ในมือออกมา “คุณแม่ คุณแม่กับคุณย่าดูเอาเลย นี่คือข้อตกลงการหย่าร้างที่ฉินซูเอาให้พี่เซ็น!”

ซ่งจิ่นหรงกับหลิวเหวยลู่พลิกดูข้อตกลงการหย่าร้าง หลังจากอ่านแล้วท่าทีของทั้งสองก็เปลี่ยนไป

“ไม่นะ นี่ นี่เป็นไปได้ยังไงกัน... ทำไมฉินซูถึงเสนอเงื่อนไขแบบนี้!” ซ่งจิ่นหรงตบมือทั้งสองลงไปบนโต๊ะชาด้วยสีหน้าท่าทางที่อึดอัด มันยากจริง ๆ ที่จะเชื่อเรื่องแบบนี้

สีหน้าของหลิวเหวยลู่เยือกเย็นและเอ่ยถาม “หลินเฉินว่ายังไง?”

ฉู่หยุนซีรีบพูด “แน่นอนว่าพี่ก็โกรธมาก ไม่สามารถตอบรับเงื่อนไขของฉินซูได้! ดังนั้นเราจึงใช้วิธีนี้เพื่อบังคับให้เธอหย่ากับพี่ดี ๆ และเพื่อให้เธอรู้ว่า ตระกูลของเราไม่ได้ง่าย!”

ได้ยินแล้วหลิวเหวยลู่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เงื่อนไขที่ฉินซูเสนอมาในข้อตกลงการหย่าร้างนั้น ไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ

เมื่อเห็นว่าโดยภาพรวมแล้วคนในครอบครัวเห็นพ้องต้องกันกับวิธีการของตนเอง ฉู่หยุนซีก็โล่งใจและแอบเผยรอยยิ้ม

เธอขับรถตรงไปสถานีตำรวจด้วยความรู้สึกที่ลำพองใจ

ระหว่างทางก็ไม่ลืมที่จะโทรศัพท์หาหวังอี้หลิน

“อี้หลิน ยัยของเลียนแบบอย่างฉินซูถูกส่งตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว ตอนนี้ฉันจะพิสูจน์เรื่องที่หล่อนสวมรอยเป็นเธอ แล้วมาแต่งงานกับพี่ชายฉัน เธอเป็นเหยื่อที่ถูกสวมรอย อยากมาด้วยกันไหม?”

หวังอี้หลินกำลังดูรายงานที่ฉินซูถูกตีแผ่ตัวตน เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หยุนซี ก็อดทนรอไม่ไหวอยากที่จะไปดูท่าทางที่น่าเวทนาของฉินซู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง