“ได้สิ” เธอตอบรับอย่างยินดี
เรื่องที่ฉินซูสวมรอยเป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่ สร้างความโกลาหลในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั้งหมด
ฉู่หลินเฉินดูข่าวคราวในอินเทอร์เน็ต สีหน้าดำคล้ำจนมืดมิด
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ สายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ยังไม่หยุดนิ่ง
“พี่เฉิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พี่สะใภ้คือคนหลอกลวง ที่ผมรู้จักคือพี่สะใภ้จอมปลอมเหรอ?”
น้ำเสียงตกตะลึงของสีเหลยที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์ดังออกมา
“เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกัน!” ฉู่หลินเฉินพูดเสียงเข้มและตัดสายอย่างหงุดหงิด
เขาแหงนสายตาที่เย็นยะเยือกจ้องมองไปยังเว่ยเหอ กัดฟันและพูดขึ้น “ตรวจสอบชัดเจนหรือยัง ว่าใครเป็นคนปล่อยข้อมูลออกมา?”
เว่ยเหอไม่เคยเห็นท่าทางที่ดุร้ายขนาดนี้ของคุณชายของเขามาก่อน จึงรีบพูดขึ้น “สื่อหลักสองสามแห่งที่ปล่อยข้อมูลออกมาแรก ๆ อยู่ภายใต้การบริหารของซิงโหยว ดังนั้น... น่าจะเป็นคุณหนูหยุนซีครับ”
“หยุนซี?” ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้วแน่น
เห็นเช่นนั้นเว่ยเหอก็รีบกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม นี่น่าจะเป็นเพราะคุณท่านกับคุณผู้หญิงต่างก็เห็นด้วย เพราะ... ผมเพิ่งจะได้รับข้อมูลมา ว่าฉินซูถูกตระกูลฉู่ฟ้องว่าฉ้อโกงการแต่งงานและส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว”
เมื่อน้ำเสียงของเขาหยุดลงก็รู้สึกถึงสายตาราวกับมีดที่แหลมคม รวดเร็วและดุดันปักลงบนร่างกายของตนเองทันที
เว่ยเหอเอ่ยปากพูดอย่างระมัดระวัง “คุณชายฉู่ ดูเหมือนว่าทางคุณท่านจะโกรธมากจริง ๆ กับเงื่อนไขการหย่าร้างที่ฉินซูเสนอออกมา ไม่แน่ว่าอาจจะให้ฉินซูติดคุกจริง ๆ คุณคิดว่ายังไงครับ?”
“ออกไป”
ริมฝีปากบางของฉู่หลินเฉินเอ่ยคำสองคำที่แข็งกร้าวออกมา
เว่ยเหอตกใจสะดุ้งโหยง และรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“ผู้หญิงคนนั้นรนหาที่ตายจริง ๆ” ฉู่หลินเฉินส่งเสียงออกมาอย่างเยือกเย็น
เขาประสานนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกัน ดวงตาที่เย็นเฉียบมองต่ำลง ดวงตาที่มืดครึ้มเป็นประกายด้วยความคิดที่ยุ่งเหยิง
…
ภายในสถานีตำรวจ
ฉินซูยอมรับโดยตรงในเรื่องที่ตนเองสวมรอยเป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่
เพียงแต่เธอพูดว่า “ตระกูลฉู่รู้ตัวตนของฉันตั้งแต่เริ่มแล้ว และยังรักษาความสัมพันธ์ในการแต่งงานปลอม ๆ นี้ต่อ ซึ่งเป็นผลจากการปรึกษาหารือร่วมกันทั้งสองฝ่าย ฉันไม่คิดว่าตนเองหลอกแต่งงาน”
“ไร้สาระ!”
ฉู่หยุนซีรีบก้าวเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าฉินซู และพูดอย่างทะนงตัวว่า “ตระกูลฉู่ของพวกเราได้ตกลงปรึกษาหารือกับเธอตอนไหน? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอหลอกลวงพวกเรามาโดยตลอด ในที่สุดตอนนี้ก็ถูกเปิดโปงแล้ว คิดจะดึงพวกเราลงน้ำไปด้วยเหรอ? ความคิดช่างโหดร้ายจริง ๆ”
พูดแล้วเธอก็ดึงหวังอี้หลินไปยังด้านหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและพูด “คนนี้คือผู้หญิงที่พี่ชายของฉันต้องการแต่งงานด้วย อีกทั้งฉินซูกับเธอยังเป็นเพื่อนสนิทกัน แย่งสามีของเพื่อนสนิทตัวเองช่างไร้ยางอายจริง ๆ”
เมื่อเสียงของเธอหยุดลง เดิมทีคนที่อยู่ในสำนักงานทั้งหมดก็กำลังให้ความสนใจเรื่องนี้อยู่ ทำให้ปรากฏใบหน้าที่แสดงอารมณ์ที่คิดไม่ถึงออกมาทันที
พวกเขาเพียงแค่เห็นข่าวในอินเทอร์เน็ต ว่าฉินซูเป็นคุณนายฉู่ที่สวมรอยมา แต่ไม่ได้ทราบเหตุการณ์อย่างละเอียด
ปรากฏว่ายังมีเรื่องเด็ดขนาดนี้อีก
เมื่อเห็นปฏิกิริยารอบตัว ฉู่หยุนซีก็ยิ่งพึงพอใจ เธอพูดว่า “ฉินซู เธอทำเรื่องที่ไร้ยางอายขนาดนี้ ก็ไม่ต้องเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก รอถูกตัดสินโทษดี ๆ เถอะ!”
เธอต้องส่งฉินซูเข้าไปในคุกให้ได้ ให้ตลอดชีวิตฉินซูไม่มีหน้าที่จะโงหัวขึ้นมาอีก!
ในตอนนี้หวังอี้หลินพูดด้วยใบหน้าที่เสียใจ “ฉินซู ฉันเคยบอกเธอไปตั้งนานแล้ว ว่าให้เธอออกมาจากตระกูลฉู่ เธอดันไม่ยอมฟังฉัน... ไม่งั้นก็คงไม่จบลงที่วันนี้หรอก”
ฉินซูหัวเราะเยาะ “อย่าเสแสร้ง”
เธอหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ฉันยอมรับแค่ว่า ตอนแรกฉันเข้าไปในตระกูลฉู่แทนที่หวังอี้หลิน แต่จริง ๆ หลังจากนั้น เป็นครอบครัวฉู่ที่ตกลงกันกับฉัน ให้แสดงเป็นภรรยาทายาทตระกูลฉู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...