ด้านนอกอันมืดมิด
ฉินซูโบกแท็กซี่คันหนึ่งและกำลังจะขึ้นรถ
ข้อมือถูกมือหนาข้างหนึ่งจับไว้
ฉู่หลินเฉินฉุดฉินซูไว้ด้วยใบหน้าที่โกรธ
เธอที่ไม่มีแรงไปทั้งตัวถูกฉุดจนร่างกายสั่น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคืองจึงพูดว่า “คุณจะทำอะไรอีก?”
“ฉันขอเตือนเธอ ตอนนี้คนทั้งโลกรู้แล้ว ว่าเธอคือคุณนายฉู่จอมปลอม อย่ามาก่อความวุ่นวายให้กับตระกูลฉู่อีก! และอย่ามีอุบายกับหุ้นของฉู่ซื่อ!”
ฉินซูกัดฟัน “ขอบ คุณ!”
พูดจบก็ออกแรงดึงมือกลับมาและเข้าไปนั่งในรถ
ปัง
ปิดประตูรถต่อหน้าของฉู่หลินเฉิน
ฉู่หลินเฉินยืนอยู่ท่ามกลางสายลมในยามค่ำคืน มองดูรถที่ขับออกไป สีหน้าของเขาอึมครึม
เขาหันกลับไปที่รถของตนเอง
มองดูข้อตกลงการหย่าร้างที่ฉินซูเพิ่งจะเซ็น และคิดได้ว่าในขณะที่เธอเซ็นชื่อ เธอไม่ลังเลแม้แต่น้อย ท่าทางสบาย ๆ และทำเสร็จในรวดเดียว
ภายในใจของฉู่หลินเฉินมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก
ผู้หญิงแบบฉินซูจะใช้การหย่าร้างมารีดไถตระกูลฉู่จริง ๆ เหรอ?
เขารู้สึกราวกับว่ามีข้อสงสัยบางอย่างอยู่ในนี้
เมื่อนึกถึงท่าทางที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟของฉินซูเมื่อสักครู่ ดวงตาของฉู่หลินเฉินเป็นประกาย วินาทีต่อมาเขาก็สตาร์ทรถและขับตรงไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่
รถแท็กซี่จอดอยู่ตรงประตูด้านนอกของสถานสงเคราะห์หนานซาน
ในเวลานี้มันมืดมากแล้ว ด้านในสถานสงเคราะห์เงียบสงัด
หัวใจของเธอรัดแน่นขึ้นมาทันใด
พูดชัดแล้วใช่ไหมว่าให้รอเธอที่นี่? แล้วคุณย่าไปไหน
เมื่อนึกถึงอายุที่เยอะขนาดนั้นของคุณย่า และความไม่คุ้นเคยกับไห่เฉิง อีกทั้งตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว ฉินซูจะไม่ห่วงได้อย่างไรกัน?
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ให้ตนเองสงบสติอารมณ์และนึกถึงสถานที่ที่คุณย่าอาจจะไป
บ้านตระกูลจง?
หลังจากคุณย่าออกจากโรงพยาบาล ก็ยอมที่จะอยู่ที่สถานสงเคราะห์ และไม่ยอมไปอยู่ที่บ้านของพ่อแม่บุญธรรม เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถกลับไปที่นั่น
ถ้าเช่นนั้นแล้วไปที่ไหน?
ทันใดนั้นฉินซูก็คิดถึงคฤหาสน์ตระกูลฉู่ แต่ก็รีบส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว
เธอกับคุณย่าเพิ่งจะออกมา แล้วจะกลับไปได้ยังไงกัน? แต่... ถ้าคุณย่าไปหาคนในตระกูลฉู่เพื่อเธอล่ะ?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ฉินซูก็รีบออกจากสถานสงเคราะห์อย่างไม่ลังเล
ในเวลาเดียวกันเธอก็โทรศัพท์แจ้งตำรวจ เพื่อให้ช่วยตามหาที่อยู่ของคุณย่า
ณ คฤหาสน์ตระกูลฉู่
ฉู่หยุนซีกำลังบรรยายเรื่องที่เกิดขึ้นในสถานีตำรวจให้คนในตระกูลฉู่ฟัง
“หนูกับอี้หลินหวังดีพูดโน้มน้าวเธอ หวังว่าเธอจะสำนึกผิดอย่างจริงใจ รู้จักยอมรับผิดและแก้ไข แต่เธอไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่นิด ยังบอกอีกว่าพวกเราแสร้งทำเป็นซื่อ”
ฉู่หยุนซีแสร้งทำเป็นกางมืออย่างช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนว่าคนแบบเธอ ต้องอยู่ในคุกเท่านั้นถึงจะสามารถพิจารณาความผิดของตัวเองได้!”
ซ่งจิ่นหรงถอนหายใจหนัก ส่ายศีรษะและพูดว่า “ฉินซูเป็นเด็กดี พรุ่งนี้ฉันจะไปดูเธอที่สถานีตำรวจ และคุยกับเธอดี ๆ ถ้าหากเธอสามารถยอมรับความผิดของตัวเองได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องส่งเธอเข้าคุกใช่ไหม?”
ฉู่สวี่พูดอย่างไม่เห็นด้วย “คุณแม่ครับ ฉินซูเธอผิดที่คุกคามพวกเรา นี่มันยั่วยุความน่าเกรงขามของตระกูลฉู่เรานะครับ ถ้าหากไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเอาจริง หลังจากนี้คนอื่นจะพูดว่าตระกูลฉู่เรายังไง? ยังจะมีฉินซูคนที่สองกล้าออกมาคุกคามพวกเราอย่างไม่ละลายใจอีกไหม?”
“คุณพ่อพูดถูก” ฉู่หยุนซีพยักหน้าเห็นด้วยและมองไปยังซ่งจิ่นหรง “คุณย่าก็ขี้สงสารเกินไป บางทีฉินซูอาจจะเห็นจุดนี้ เวลาปกติก็เลยเอาอกเอาใจคุณย่าทุกอย่าง รอเกิดเรื่องแล้วคุณย่าหนุนหลังเธอ”
หลิวเหวยลู่มองสีหน้าของซ่งจิ่นหรง ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดกับฉู่หยุนซี “เอาล่ะ เธอหยุดพูดได้แล้ว”
ในเวลานี้ที่ด้านนอกประตูใหญ่ของบ้านตระกูลฉู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...