วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 215

“ขอโทษด้วย พวกเราพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว”

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ในชั่วพริบตาเดียว ราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งร่างกายของฉินซูถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น

เธอก้าวถอยหลังทันที และชนเข้ากับกรอบประตูจนสันหลังเกิดความเจ็บปวด

แค่ดูเหมือนกับว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกถึงมัน เธอเพียงแต่มองไปยังเตียงคนไข้ ที่ถูกเข็นออกมาอย่างเลื่อนลอย ซึ่งถูกถลุมไว้ด้วยผ้าขาว...

แพทย์ถอนหายใจและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ คนไข้ได้ทำการผ่าตัดหัวใจครั้งสำคัญมา และยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ครั้งนี้เป็นเพราะแรงกระแทกจากภายนอกทำให้เกิดเลือดตกในหัวใจ จริง ๆ แล้ว...เอ่อ”

“ฉันทราบ” ฉินซูพูดเบา ๆ ด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา

ตอนที่ได้ฟังเว่ยเหอบรรยายถึงอาการของคุณย่า เธอได้คาดเดาถึงความเป็นไปได้นี้อย่างคลุมเครือ และมีลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ

เพียงแต่หลังจากที่มันเกิดขึ้นจริง ๆ เธอไม่สามารถยอมรับมันได้

คุณย่าเป็นคนที่สำคัญที่สุดในโลกนี้สำหรับเธอ แต่กลับจากไปอย่างกะทันหันมาก

หลังจากนี้เธอก็จะไม่มีญาติพี่น้องอีกแล้ว...

ในที่สุดเบ้าตาของฉินซูก็กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาไม่ได้อีกต่อไป

เว่ยเหอไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ เขาเหลือบมองฉินซูอย่างลังเล แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบโยนอย่างไร

ทำได้เพียงแต่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เดินไปยังอีกฟากแล้วโทรศัพท์ไปรายงานด้วยเสียงที่แผ่วเบากับสีหน้าที่เคร่งขรึม “คุณชายฉู่ครับ การช่วยชีวิตคุณย่าของฉินซูไม่ได้ผล เธอเสียชีวิตแล้วครับ…”

ทางด้านคฤหาสน์ตระกูลฉู่

ภายในห้องโถงใหญ่ ความกดอากาศต่ำและเยือกเย็นปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ

“พูดสิ่งที่พวกเธอพูดที่หน้าประตูเมื่อกี้นี้อีกรอบ” ดวงตาของฉู่หลินเฉินราวกับดาบที่เย็นเฉียบทำให้ผู้คนยำเกรง

สาวใช้อ้วนท้วมและบอดี้การ์ดยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างกระวนกระวาย อึกอักไม่กล้าที่จะพูด

“พูด”

คำหนึ่งคำที่เยือกเย็นของฉู่หลินเฉินเอ่ยขึ้น ราวกับคำสั่งของกษัตริย์ที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าต่อต้าน

สาวใช้อ้วนท้วมเหลือบมองฉู่หยุนซีอย่างหวาดผวา ถือโอกาสหลับตาและรวบรวมความมุ่งมั่นพูดออกมาอย่างสั่นเทา “ฉิน ฉินซูกับคุณย่า ถูกพวกเราไล่ออกไป... คุณหนูหยุนซีไม่ให้พวกเราพูดเรื่องนี้…”

“คุณหนูหยุนซีเป็นคนให้พวกเราไล่พวกเธอ” บอดี้การ์ดก็พูดคล้อยตามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“เหลวไหว! ฉันพูดแบบนี้กับพวกแกตอนไหน?!” ฉู่หยุนซีส่งเสียงขึ้นมาทันที และจ้องเขม็งไปที่พวกเขา ในแววตาเต็มไปด้วยการเตือน

คาดไม่ถึงว่าสองคนนี้จะไว้ใจไม่ได้ขนาดนี้!

คนในตระกูลฉู่ระแคะระคายขึ้นมาทันที

“หยุนซี เกิดอะไรขึ้น? เธอบอกว่าฉินซูกับย่าของเธอออกไปเองไม่ใช่เหรอ?” ซ่งจิ่นหรงขมวดคิ้วและถามขึ้น

หลิวเหวยลู่และฉู่สวี่สองสามีภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูสงสัยเช่นเดียวกัน

ฉู่หยุนซีเห็นดังนั้น ก็เลยจำใจต้องยอมรับอย่างขาดความมั่นใจ “หนูเป็นคนไล่พวกเธอเอง”

“เธอ...”

เมื่อเห็นว่าซ่งจิ่นหรงจะอาละวาด เธอก็พูดโต้แย้งให้ตัวเองทันที “หนูแค่คิดว่าฉินซูกับพี่จะหย่ากันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะให้อยู่ที่บ้านของพวกเราต่อนี่? อีกทั้งพวกเราก็ไม่ได้เปิดสถานรับเลี้ยง”

“เขาอยู่ที่นี่กินข้าวของเธอเหรอ?!” ซ่งจิ่นหรงตบโต๊ะด้วยความโกรธ

ฉู่หยุนซีหดคอของเธอต่ำลงและอดไม่ได้ที่จะกัดฟันพูด “งั้นเธอก็ไม่ใช่คนเนรคุณเหรอ? เธอกล้าที่จะใช้ข้อตกลงการหย่ามาขู่พี่ หนูไล่เธอไปก็ไม่ได้ไม่ผิดอะไร”

“คุณแม่ หยุนซีพูดถูก เรื่องนี้มันผ่านไปแล้วก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยอีกเลยนะ” ฉู่สวี่พูดอย่างจนปัญญา เหลือบมองไปยังฉู่หลินเฉินและเอ่ยเตือนเขา “และหลินเฉิน อย่ารู้สึกผิดที่ทำให้คนนอกรู้สึกลำบากใจมากกว่าน้องสาวตัวเองเลย”

“ใช่ พี่มักจะเข้าข้างฉินซูและเกือบจะจำไม่ได้แล้วว่าหนูคนนี้คือน้องสาว” ฉู่หยุนซีแบะปากพูดอย่างไม่พอใจ

“ตัวเองสร้างปัญหา โทษคนอื่นไม่ได้!” ฉู่หลินเฉินพูดอย่างเย็นชา

เขาหันไปมองสาวใช้อ้วนท้วมและบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงหน้า “พวกเธอสองคน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้านฉู่อีกแล้ว!”

“คุณชายฉู่ คือ... พวกเรา พวกเราไม่ผิดนะ พวกเราแค่ทำตามคำสั่ง”

“ตอนที่พวกเธอรังแกหญิงชราที่หน้าประตู ใช้อำนาจและอิทธิพลมาข่มเหงรังแกผู้อื่น ก็มีคนสั่งด้วยเหรอ?” ฉู่หลินเฉินถามด้วยน้ำเสียงตำหนิอย่างเฉียบขาด ทันทีที่น้ำเสียงหยุดลง โทรศัพท์ของเว่ยเหอก็โทรเข้ามา

เขารับสายด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นสีหน้าก็มืดครึ้มลงทันทีทันใด

สาวใช้กับบอดี้การ์ดยังคงร้องขอให้ยกโทษให้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง