เงินเดือนและสวัสดิการของการทำงานในบ้านตระกูลฉู่นั้น มากกว่าภายนอกถึงสิบเท่า ทั้งสองคนจะยอมออกง่าย ๆ ได้อย่างไร? สิ่งที่สำคัญก็คือ ถ้าหากถูกตระกูลฉู่ไล่ออกเท่ากับติดแบล็คลิสต์ ต่อไปจะมีตระกูลใหญ่ตระกูลไหนกล้ารับพวกเขาทำงาน
"คุณท่าน อย่าไล่พวกเราออกเลย...."
ฉู่หลินเฉินมองพวกเขาอย่างไม่ปราณี "ออกไป!"
ตอนนี้ความโหดของเขาทำให้ผู้คนต้องกลัว
สาวใช้และบอดี้การ์ดตกใจจนหน้าซีด พวกเขาจากไปด้วยความตื่นตระหนก ถ้าอยู่อีกสักวินาทีเดียว คงต้องโดนคุณชายฉู่จัดการคาที่แน่ ๆ
แม้กระทั่งฉู่หยุนซีที่จะมาช่วยสองคนนี้ ก็กลัวจนต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไป
"หลินเฉินทำไมถึงได้...."
หลิวเหวยลู่สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของลูกชาย เธอถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
ฉู่หลินเฉินหลับตาลง เม้มริมฝีปากแน่น และพูดขึ้นช้า ๆ "คุณย่าของฉินซูเสียแล้ว"
สมาชิกในตระกูลฉู่ต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป
มีเพียงฉู่หยุนซีเท่านั้นที่พูดขึ้นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว "ตายแล้วอย่างไรล่ะ? คงจะไม่มาพึ่งพาครอบครัวเราอีกใช่ไหม?"
เมื่อพูดจบ ฉู่หลินเฉินก็มองมาที่เธอด้วยสายตาเยือกเย็น
แม้แต่ฉู่สวี่ที่ช่วยเธอพูดก็ยังมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า "เรื่องมันเกิดที่บ้านเรา ลูกจะบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเรางั้นเหรอ?"
"ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ" ซ่งจิ่นหรงในใบหน้าที่เคร่งขรึม แทบรอไม่ไหวที่จะลุกขึ้น
ครอบครัวฉู่รีบไปโรงพยาบาล
ที่ทางเดินด้านนอกห้องเก็บศพ ฉู่หลินเฉินมองเห็นฉินซู
เธอนั่งบนเก้าอี้ โดยเอามือกอดแขนเอาไว้ เงียบนิ่งราวกับประติมากรรม ปลายขนตาของเธอมีประกายหยดน้ำอยู่ เห็นได้ชัดว่าเธอร้องไห้ไปแล้ว
เมื่อเทียบกับความอ่อนแอ และไร้หนทางเมื่อเห็นเธอในห้องขังก่อนหน้านี้ ตัวเธอให้ตอนนี้ให้ความรู้สึกที่โดดเดี่ยว ราวกับว่าโลกทั้งใบกลายเป็นสีเทา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...