"น่าจะ?"
ฉู่หลินเฉินเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจ "เธอแกล้งทำเป็นผู้หญิงไม่สนใจของแบรนด์เนมต่อหน้านาย แล้วนายรู้หรือเปล่าว่า ลับหลังพวกเรา เธอข่มขู่เอาเงินจากอี้หลิน? ความป่าเถื่อนของผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่น้อย แค่ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้เปิดเผยธาตุแท้ของมาเท่านั้น เพราะว่าของล่อใจมันยังไม่เยอะพอน่ะสิ!"
ฉินซูจะแกล้งแสดงละครว่า ไม่อยากได้บ้านพักตากอากาศราคาหลายสิบล้านได้อย่างไร เธอคงต้านทานไม่อยู่
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันได้แล้วเหรอ?
เมื่อนำเรื่องสองเรื่องบวกเข้าด้วยกัน ความปรารถนาดีของฉู่หลินเฉินที่มีต่อฉินซูก็หายไปทันที เหลือไว้เพียงความเกลียดชังเท่านั้น
เรื่องที่เธอคุกคามหวังอี้หลินเพื่อเอาเงินแปดแสน เขายังไม่ได้เก็บบัญชีเธอ เรื่องนี้จะปล่อยไปไม่ได้
เมื่อคิดได้ดังนี้ ก็พูดด้วยขึ้นด้วยใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั่น "หาคนไปจัดการ เอาโจวซื่อฉินกับลูกออกไป"
เว่ยเหอตกใจอ้าปากค้าง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะเรียกสติกลับมาได้ เขาพูดอย่างลนลาน "ได้ครับ"
แต่ในใจเขากลับเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ไม่ว่าจะดูยังไงฉินซูก็ไม่ใช่คนโลภแบบนั้น
...
หวังอี้หลินกลับไปยังบ้านพักตากอากาศอีกครั้ง ภายใต้การดูแลของบอดี้การ์ด ขณะเดียวกันโจวซือฉินและลูกถูกไล่ออกไปจากบ้าน
"ตอนนี้เธอคงเข้าใจชัดเจนแล้วสินะว่าใครคือเจ้าของบ้านตัวจริง!"
จางเหวินยืนพูดอย่างภาคภูมิใจตรงบันได มองโจวซือฉินที่เพิ่งล้มลงไป "ทำร้ายลูกสาวของฉัน แถมยังไม่ดูสถานะของตัวเองอีก เธอคิดว่าเธอคู่ควรกับที่นี่?"
โจวซือฉินโกรธจนทนไม่ไหว แต่เมื่อบอกไปที่บอดี้การ์ดที่ท่าท่างไม่ควรยุ่งด้วยอย่างชัดเชนแล้ว เธอทำได้แต่จำยอมพาลูกออกไปจากบ้าน พร้อมกับโทรหาฉินซูอย่างโกรธเคือง
หวังอี้หลินกับแม่ไล่โจวซื่อฉินออกไปแล้วก็ให้บอดี้การ์ดช่วยจัดข้าวของอีกด้วย หลังจากนั้นจึงปล่อยให้พวกเขากลับบ้านไป
พวกเธอย้ายของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คืนนี้จะนอนที่นี่
จางเหวินพูดด้วยรอบยิ้มว่า "ลูกสาว ลูกไม่ต้องกังวลว่าฉินซูจะมาทำลายความรักของลูกกับคุณชายนะ ลูกดูสิ แม่แค่โทรศัพท์ไปครั้งเดียว คุณชายก็ช่วยลูกจากเรื่องร้าย ๆ นี่ทันทีเลย เขาดีกับลูกมาก!"
หวังอี้หลินไม่สามารกซ่อนความภูมิใจบนใบหน้าของเธอได้ เธอยิ้มแล้วยิ้มอีก แต่ก็มีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย "เสียดายจังที่เขาไม่ได้มาด้วยตัวเอง"
จางเหวินยิ้ม ส่ายหน้าเบา ๆ "แต่ก็ไม่มีอะไรไม่สะดวกใช่ไหมล่ะ ตอนนี้มีคุณชายคอยดูแลอยู่แล้ว พวกเราอยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากอยู่บ้านพักตากอากาศก็ได้อยู่ ชีวิตที่มีความสุขแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?"
หวังอี้หลินขมวดคิ้วและพูดขึ้นเบา ๆ "แต่หนูก็ยังไม่ใช่ภรรยาทายาทตระกูลฉู่”
ในเมื่อไม่มีสถานะนั้น ยังไงก็เปิดเผยตัวไม่ได้
รอยยิ้มของจางเหวินจางลง เธอค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้นมา "ที่ลูกพูดก็ถูก ต้องทำให้ฉินซูรีบออกไปจะดีที่สุด...จริงสิ ก่อนหน้านี้ที่ลูกให้เงินมันไปแปดแสน สุดท้ายมีประโยชน์อะไรไหม? อย่าเอาซาลาเปาเนื้อไปให้หมาฟรี ๆ!“
"วางใจเถอะ หนูตั้งใจทำให้บัญชีของมันโดนระงับ มันแตะต้องเงินก้อนนั้นไม่ได้หรอก และนี่ก็ยังเป็น...."
สายตาของหวังอี้หลินจริงจังขึ้น "เป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้คุณชายไล่ฉินซูออกไป ต้องทำให้คุณชายเกลียดมันให้ได้ เกลียดจนทนไม่ได้...."
เสียงของเธอต่ำลง แผนใหม่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ
โจวซือฉินด่าสาดเสียเทเสียใส่ฉินซูทางโทรศัพท์ เธอยังขู่ฉินซูอีกด้วยว่าจะต้องจัดการกับเรื่องให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องรับผิดชอบเอง
ฉินซูกังวลกับความไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลของโจวซือฉิน เธอจึงต้องออกไปก่อน
เมื่อมาถึงประตู ฉู่หลินเฉินก็กลับมาแล้ว รถจอดลงตรงหน้าเธออย่างเร่งรีบ
ฉู่หลินเฉินลงจากรถพร้อมกับบรรยากาศที่เยือกเย็น สายตาของเขาแหลมคม "จะไปไหน?"
เมื่อฉินซูคิดได้ว่าเขาเป็นคนให้บอดี้การ์ดมาไล่โจวซือฉินกับลูกออกไป เธอก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก "ฉันจะไปจัดการโจวซือฉินกับลูก"
พูดจบเธอก็เดินออกไป
ฉู่หลินเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หยุดอยู่ตรงนั้น ฉันอนุญาตให้เธอออกไปแล้วเหรอ?"
ฉินซูหันกลับมาอย่างไม่พอใจ "นายไล่คนออกไปโดยไม่ถามเหตุผลสักคำ ฉันก็ต้องไปจัดการเรื่องราวให้เรียร้อยไง?"
ทันทีที่พูดจบ โจวซือฉินก็โทรมาเร่ง "ฉินซูฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ นักข่าวมาถึงแล้ว ถ้าเธอยังไม่กลับเข้ามา ฉันจะเปิดโปงให้หมดว่าเธอเข้ามาในตระกูลฉู่ได้ยังไง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...