ในปีนั้นอากาศหนาวจัด คุณย่าเก็บฉินซูที่ยังเป็นเด็กทารกมาเลี้ยง ท่านเลี้ยงดูฉินซูโดยลำพัง สอนวิธีฝังเข็มให้เธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า ในโลกนี้ก็จะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อฉินซูคนนี้
คุณย่ามอบชีวิตใหม่ให้แก่เธอ…
ฉินซูกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือแน่น
เธอโกรธมากจนไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นได้
ขณะเดียวกัน มีเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากด้านนอก
“คุณฉิน คุณตื่นหรือยัง?”
ฉินซูพยายามจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง
เพื่อคุณย่า เธอจึงทำได้เพียงทำตามคำพูดของพ่อแม่บุญธรรมไปก่อน ก่อนที่เธอจะหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ได้
“เชิญค่ะ”
น้ำเสียงของฉินซูแผ่วลง หญิงวัยกลางคนยกถาดเข้ามา
“คุณท่านให้ฉันเข้ามาดูคุณ ถ้าคุณตื่นแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ทุกคนพร้อมกันหมดแล้ว”
ฉินซูมึนงง ตอบไปแค่ว่า “ตกลง”
จากนั้นเธอก็มองดูหญิงวัยกลางคนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบกระโปรงหนึ่งตัว รองเท้าหนึ่งคู่ และเครื่องประดับหนึ่งชุดออกมาจากในตู้เสื้อผ้า
“คุณท่านเตรียมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้คุณ”
แค่ไปพบคุณท่านเอง ดูจะยิ่งใหญ่ไปหน่อย
ฉินซูคิดในใจ
แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าตระกูลฉู่ร่ำรวยขนาดไหน จะพิถีพิถันกับการแต่งหน้าแต่งตัวก็เป็นเรื่องธรรมดา
ฉินซูไม่พูดอะไร เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมใส่รองเท้าอย่างใจเย็น
เธอไม่ค่อยแต่งตัว มักจะใส่กางเกงขายาวเรียบ ๆ กับรองเท้าส้นแบน
เด็กสาวอายุ 20 ปี เหมือนกับดอกไม้ในวัยที่กำลังเปล่งสีสันสวยงาม
หลังจากฉินซูเปลี่ยนชุดเป็นชุดที่ตระกูลฉู่ได้เตรียมไว้ให้ เธอกลายเป็นคนละคนในชั่วพริบตา ดูสวยเปล่งประกายขึ้นมาทันที
เธอยืนอยู่หน้ากระจก ไม่กล้าที่จะเชื่อว่าคนในกระจกคือตัวเอง
“คุณฉิน คุณหน้าตาสวย ผิวก็ขาว คุณดูดีมาก!” คนรับใช้วัยกลางคนเอ่ยชมเธอ
ฉินซูเม้มปาก ไม่กล้าให้คุณท่านรอนาน “ไปกันเถอะ”
ในตอนแรกฉินซูคิดว่าเธอแค่ต้องมาพบกับคุณท่านของตระกูลฉู่เพียงเท่านั้น
แต่เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ที่โอ่อ่าตระการตา เธอกลับพบว่ามีคนนั่งอยู่เต็มห้องโถง
ไม่เพียงเท่านั้น ข้าง ๆ ยังมีนักข่าวจากหลายสำนัก ตั้งแต่เธอปรากฏตัว เสียงกดชัตเตอร์ก็ดังไม่หยุด
ฉินซูตกอยู่ในความงุนงง
หญิงชราผมหงอกขาวที่นั่งอยู่อันดับแรก เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะคิกคักพร้อมกับโบกมือให้เธอ “มานี่สิ ฉันจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือหลานสะใภ้ของฉัน คุณหนูคนใหม่ของตระกูลฉู่ ฉินซู!”
นักข่าวต่างก็รีบถ่ายภาพเธอไปด้วย ทักทายเธอไปด้วย “สวัสดี คุณหนูตระกูลฉู่”
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ฉินซูตกใจมากจริง ๆ
โชคดีที่เธอเรียกสติกลับคืนมาได้เร็ว เมื่อนึกถึงการบีบคั้นของแม่บุญธรรม เธอแอบบีบนิ้วตัวเองแล้วเดินเข้าไปหาหญิงชราที่โบกมือให้เธอ
“อย่ากลัวไปเลยลูก” ซ่งจิ่นหรงเห็นเธอเป็นกังวลจึงจับมือให้กำลังใจเธอ “ฉันคือคุณย่าของอาเฉิน ตั้งแต่นี้ไปก็เป็นคุณย่าของหนูเหมือนกัน”
มองดูใบหน้าที่เมตตาของหญิงชรา ฉินซูก็ใจลอยนึกไปถึงคุณย่าของเธอ ทำให้รู้สึกอบอุ่นภายในใจ จิตใจก็สงบลง
คุณท่านยังคงแนะนำคนที่อยู่ข้าง ๆ ให้เธอฟัง
“นี่คือฉู่สวี่ พ่อสามีของเธอ ส่วนนี่หลิ่วเหวยลู่ แม่สามีของเธอ พวกเขาเป็นคนดี และมีความปรารถนาดีต่อลูกชายลูกสาวของพวกเขา”
ฉินซูเดินเข้าไปหาทั้งสองท่าน และกล่าวทักทายอย่างนุ่มนวล “คุณผู้ชายฉู่ คุณผู้หญิงฉู่”
ซ่งจิ่งหรงหัวเราะ “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมเรียกซะห่างเหินขนาดนี้ล่ะ?”
ภายใต้แววตาที่แสดงให้รู้เป็นนัย ๆ ของหญิงชรา ฉินซูแก้ไขคำพูดของตัวเองแล้วพูดออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “คุณพ่อ คุณแม่...”
ฉู่สวี่พยักหน้า แววตาของเขาอ่อนโยน
หลิ่วเหวยลู่ไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางหรืออารมณ์ความรู้สึกใด ๆ เธอแค่พึมพำเบา ๆ
“และยังมี อาและป้า...” ซ่งจิ่งหรงแนะนำต่อ
ฉินซูทักทายทีละคน แสดงให้เห็นว่าเธอตั้งใจฟังมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...