ฉินซูอยากที่จะก้าวไปด้านหน้าแต่ถูกฉู่หยุนซีขวางไว้ “ครั้งนี้มีอี้หลินอยู่ ไม่ใช่หน้าที่เธอที่ต้องยื่นมือเข้ามา คนร้าย ๆ อย่างเธอถอยไปให้ไกล!”
แม้แต่หลิวเหวยลู่ก็มีสีหน้าที่ไม่ดีต่อฉินซู เพราะเธอก็เชื่อว่าฉินซูเป็นต้นเหตุให้ซ่งจิ่นหรง “โกรธจนเป็นลม”
ฉินซูจำใจต้องถอยหลังหนึ่งก้าว แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างของซ่งจิ่นหรง และสังเกตดูลักษณะอาการของเธออย่างละเอียด จากนั้นวิเคราะห์ใจใน
หลินเฟิงประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีที่หลิวเหวยลู่และฉู่หยุนซีมีต่อเธอ
เขาอยากช่วยฉินซูพูดสักสองสามคำ อีกทั้งยังอยากช่วยหญิงชราจึงหันไปพูดแนะนำกับฉู่หลินเฉิน “คุณหนูฉู่เข้าใจทักษะทางการแพทย์ดี ไม่ให้เธอไปดูคุณท่านเหรอ?”
สายตาของฉู่หลินเฉินมองไปที่ฉินซูและพูดว่า “คุณหวังกับเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันและมีทักษะทางการแพทย์ดีกว่า”
เมื่อเทียบกับฉินซูแล้วเขามีความเชื่อมั่นในตัวหวังอี้หลินมากกว่า เพราะอย่างไรเสียในคืนนั้น
“เธอ” เป็นคนที่ช่วยเขา
หลินเฟิงงงงันและมองไปที่หวังอี้หลิน เป็นเพราะว่าเธอหมอบอยู่ที่พื้นและหันหลังให้เขา ดังนั้นเขาจึงเห็นหน้าเธอไม่ชัด
เขาคิดว่าฉินซูเก่งมากแล้ว แต่ถ้าคุณหวังเก่งกว่า งั้นหญิงชราก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง...
เขาเชื่อคำพูดของฉู่หลินเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก เพียงแค่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
หวังอี้หลินรู้สึกถึงการจับจ้องจากผู้คนมากมาย เธอรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าเธอสามารถปลุกหญิงชราให้ตื่นขึ้นมาได้ เรื่องที่เธอจะอยู่ที่บ้านตระกูลฉู่ก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน
คิดได้ดังนั้นหวังอี้หลินก็เริ่มลงมือ
เพราะเธอมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นลมหมดสติไปเนื่องจากเลือดลมไม่ดีชั่วคราว ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเลที่จะกดตรงกลางลำตัวของหญิงชรา และใช้มืออีกข้างหนึ่งกดลงด้านข้างของส่วนหน้าอกและหน้าท้อง
ภายใต้การควบคุมของเธอ ซ่งจิ่นหรงไม่เพียงแต่จะไม่ฟื้นขึ้นมา แต่เลือดกำเดากลับยิ่งไหลรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งลมหายใจก็แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ
หวังอี้หลินตื่นตระหนกเล็กน้อย
สีหน้าของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ค่อย ๆ ปรากฏความเคร่งเครียดขึ้นมา
ฉู่หยุนซีพูดอย่างเป็นกังวล “อี้หลิน มันไม่ปกติแล้วนะ ทำไมคุณย่าดูเหมือนจะอาการไม่ดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...