หวังอี้หลินตัดสินใจจะโยนความผิดให้ฉินซู เธอยังพูดอีกว่า "ชานี้ฉันซื้อมาจากเธอโดยตรง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกว่าจะให้คุณย่า แต่ฉันก็อธิบายอาการของคุณย่าอย่างชัดเจนแล้ว เพราะกลัวจะมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะฉันเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเธอ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นฉันจึงเชื่อในชาชูกำลังที่แพงที่สุดที่เธอแนะนำให้...."
เธอจงใจพูดคำว่า “แพงที่สุด” ซึ่งมันหมายความว่าฉินซูแนะนำให้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพื่อให้ได้เงินเยอะที่สุด และเป็นเหตุทำให้คุณท่านหมดสติไป
“เป็นฝีมือเธอจริง ๆ” ฉู่หยุ่นซีจ้องไปที่ฉินซู โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอเชื่อคำพูดของหวังอี้หลินอย่างสนิทใจ “เธอนี่มันดีจริง ๆ เธอจงใจขายอาหารเสริมที่ราคาแพงที่สุดนี้ให้อี้หลิน เพื่อเงินงั้นเหรอ?”
หลิวเหวยลู่ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับถามไปว่า “ทำไมเธอถึงไปขายอาหารเสริมได้?”
ขณะที่ฉินซูกำลังจะพูดออกไป หลินเฟิงกลับตอบแทนเธอไป “คุณนายฉู่เธอไปช่วยดูร้านขายยาให้อาจารย์เธอชั่วคราว”
“คุณหลิน คุณรู้ได้ยังไง” หลิวเหวยลู่มองเขาอย่างคาดไม่ถึง
หลินเฟิงยิ้มและพูดว่า “เพราะว่าเมื่อวาน ฉันได้เข้าไปที่ร้านขายยาพอดี และซื้อของจากคุณนายฉู่”
ทันทีที่เสียงของเขาเงียบลง หวังอี้หลินก็นิ่งงันไปชั่วขณะ
หลินเฟิงพูดต่อ "พอคุณหวังเข้ามา คุณหวังก็บอกแค่ว่าจะซื้อชาบำรุงกำลังที่แพงที่สุด คุณนายฉู่ก็ได้ย้ำแล้วว่าชาบำรุงกำลังไม่สามารถกินสุ่มสี่สุ่มห้าได้ แต่น่าเสียดายที่คุณหวังไม่ได้ฟังก็รีบจ่ายเงินและออกไปเสียก่อน"
หลิวเหวยลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เชื่อฉินซู แต่ถ้ากับหลินเฟิง...เขาไม่ได้สนิทกับฉินซู ไม่มีทางจะพูดช่วยฉินซูอยู่แล้ว
พอคิดได้ดังนี้ หลิวเหวยลู่ก็มองไปที่หวังอี้หลิน
หวังอี้หลินใจฝ่อจนไม่กล้ามองเธอ
ฉู่หยุนซีอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็พบว่าตัวเอง...ไม่มีอะไรที่จะพูดต่อแล้ว
หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อยพลางมองไปที่ฉินซู “จริง ๆ แล้ว ฉันก็อยากจะซื้อของบำรุงกำลังให้คุณท่านเหมือนกัน แต่คุณนายฉู่บอกว่า คุณท่านสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความจำเป็นต้องบำรุง แค่ต้องปรับปรุงเรื่องการนอนหลับก็เท่านั้น สุดท้ายเธอก็เลยแนะนำเครื่องหอมที่ช่วยให้นอนหลับสบายให้ฉัน”
…
ฉินซูนั่งรถของหลินเฟิงออกจากบ้านตระกูลฉู่ตามคำเชิญของเขา
ภายในรถ ฉินซูพูดขอบคุณขึ้น "ผู้จัดการหลิน เมื่อกี้นี้ขอบคุณที่ช่วยฉันพูดนะคะ"
"ผมแค่พูดไปตามความจริงครับ"
หลินเฟิงแบมือ เขาขมวดคิ้วพลางพูด "คุณนายฉู่ ผมอยากถามสักคำ คุณหวังเขาคือใคร? ทำไมเขาถึงได้กล้าทำตัวไร้มารยาทกับคุณแบบนั้น?"
ฉินซูหลับตาลง เธอพูดขึ้น "เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉู่หยุนซีค่ะ"
“นั่นยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปใหญ่ มันมีเหตุผลอะไรที่เธอต้องทำตัวไร้ความเกรงใจแบบนั้นในบ้านตระกูลฉู่” หลินเฟิงส่ายหัวและถอนหายใจ “หยุนซีเองก็เหมือนกัน เด็กคนนี้ไม่เคารพคุณเลยสักนิดเดียว”
ฉินซูยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
หวังอี้หลินคือภรรยาทายาทตระกูลฉู่ตัวจริง ส่วนเธอเป็นแค่ของปลอมเท่านั้น
เมื่อหลินเฟิงเห็นรอยยิ้มบนหน้าเธอ ก็รู้สึกเป็นห่วงเธอมากขึ้น
คนธรรมดาที่แต่งงานเข้าบ้านครอบครัวที่ร่ำรวย นอกจากเกียรติยศที่ได้มาแล้ว ที่เหลือคือการเผชิญกับน้ำลึกไฟร้อน
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลินเฟิงก็พูดขึ้น "คุณนายฉู่ ต่อไปถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือก็เรีกยหาผมได้เลยนะครับ"
"ผู้จัดดการหลินค่ะ คือว่า...."
"ไม่ต้องเรียกผมว่าผู้จัดการหรอกครับ เรียกผมว่าอาเถอะ!"
ฉินซูตกใจ แต่ก็ไม่ได้หลีกเลี่ยง ได้แต่พูดว่า "อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ต่อไปก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนายฉู่แล้วนะคะ เรียกฉันว่าเสี่ยวฉินก็พอค่ะ"
"เสี่ยวฉิน? เรียกเสี่ยวซูเพราะกว่านะ ฮ่า ๆ"
ฉินซูพูดอย่างช่วยไม่ได้ "อย่างนั้นก็แล้วแต่อาหลินเลยค่ะ"
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลฟู่คัง หลินเฟิงก็พูดขึ้น "เสี่ยวซู อาไม่ขึ้นไปด้วยนะ"
ฉินซูเข้าใจความกังวลของเขา เธอพยักหน้า "ค่ะ หนูขึ้นไปดูอาการของคุณย่าแล้วจะมาบอกอานะคะ"
"อืม ๆ" หลินเฟิงทำท่ายกโทรศัพท์ขึ้น "ติดต่อมาบ่อย ๆ นะ"
ฉินซูตอบรับ ยิ้มพลางโบกมือให้เขา "เจอกันใหม่นะคะอาหลิน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...